จากการเปิดร้านหมูทอดและข้าวแกง "หมูทอดเจ๊จง" มากว่า 13 ปี เริ่มต้นจากที่สาขาพระราม 4 จนถึงวันนี้ร้าน "หมูทอดเจ๊จง" ขยายไปไกลถึง 10 สาขา กับปริมาณหมูที่ทอดต่อวันถึง 500 กิโลกรัม! ทำรายได้ให้กับเจ๊จง-จงใจ กิจแสวง ถึงวันละหลายแสนบาทจนได้รับฉายาว่า "หมูทอดร้อยล้าน"
ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากความบังเอิญหรือโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน เจ๊จงใช้ความพยายามอย่างหนักทั้งในเรื่องการปรับปรุงรสชาติ บริการ ไปจนถึงการเรียนรู้ในเรื่องการค้าขายอย่างสม่ำเสมอ จนเรียกได้ว่า เจ๊คือตัวจริงของวงการหมูทอดอย่างไม่ต้องสงสัย
เปิด "4 อ." เคล็ดลับความสำเร็จของข้าวแกงร้อยล้าน "หมูทอดเจ๊จง"
เคล็ดลับที่ 1 "อร่อย"
อย่างแรกที่สุดสำหรับจุดเด่นของร้านอาหารของทุกร้านนั่นก็คือ ความอร่อย ถ้าร้านไหนอร่อย หัวบันไดของร้านจะไม่แห้งอย่างแน่นอนเพราะลูกค้าจะแวะเวียนมาทุกวัน หมูทอดและข้าวแกงร้านเจ๊จง ก็เช่นกัน นอกจากจะอร่อยแล้ว ราคายังย่อมเยาเข้าถึงง่าย ข้าวหมูทอดเพียงจานละ 25 บาทก็อิ่มท้องแล้ว และสูตรหมูทอดของเจ๊จงนี้เอง
ในช่วงแรก เจ๊จงปรับปรุงสูตรเรื่อยมาจนมาลงตัวที่การเลือกใช้ คนอร์ รสทิพย์ ผงปรุงครบรส รสไก่ ในการหมักหมูทอด เหตุที่ใช้รสไก่เพราะได้รสชาติที่กลมกล่อมเข้ากับหมูทอดเป็นอย่างดี บวกกับการทอดที่ชำนาญมาเป็น 10 ปี ทำให้ได้หมูทอดที่เหลืองทองกรอบน่ากิน เจ๊จงเล่าให้ฟังว่าทุกวันนี้มีลูกค้าประจำเยอะมาก บางคนทานหมูทอดร้านนี้สัปดาห์ละ 6 วัน บางคนก็มาซื้อหมูทอดที่ร้านทั้งเช้า กลางวัน เย็นก็มี ลูกค้าประจำของเจ๊จงมักพูดเสมอว่า กินหมูทอดที่อื่นรสไม่เหมือนที่นี่ เลยติดใจมาก
เคล็ดลับที่ 2 "อดทน"
คติการทำงานของเจ๊จง มีอยู่ว่า "อดทน ขยัน ซื่อสัตย์" ในส่วนของความอดทนและขยัน คนที่ทำงานกับเจ๊งจงจะรู้ดีว่าหากไม่ติดธุระสำคัญจริง ๆ จะไม่เห็นวันไหนที่เจ๊จงไม่ทำงานเลย โดยกิจวัตรของเจ๊จงที่เห็นจนชินตาก็คือ ช่วงหนึ่งทุ่มเจ๊จงจะเริ่มสั่งของ ทุ่มกว่าก็เริ่มพักผ่อน ตื่นมาอีกทีตอนตีสองเตรียมหมูทอดและข้าวแกงในร้าน สักตีสามครึ่งลูกน้องเริ่มทอดหมูส่งไปสาขาต่าง ๆ ทอดทั้งวันจนถึงบ่าย ตกสี่โมงเย็นจึงปิดร้านพักผ่อน แต่ร้านก็จะเปิดอีกทีตอนห้าโมงเย็นจนถึงหนึ่งทุ่มซึ่งช่วงเวลานี้ลูกสาวเจ๊จงจะมาเปิดร้านแทน (สาขาหลักคือสาขาพระราม 4) ในเรื่องความอดทน เจ๊จงเล่าให้ฟังว่า เจ๊ก็เหมือนคนปกติ บางเวลาไม่อยากทำงาน แต่ด้วยความที่เราต้องดูแลลูกน้องกว่า 200 ชีวิต เราจึงต้องอดทน ส่วนเรื่องความขยันคติของเจ๊คือ ที่จริงเจ๊ไม่ต้องลงมาทำงานก็ได้ แต่เจ๊อยากให้ลูกน้องเห็นแบบอย่างที่ดี เจ๊เลยขยันทำงานเพื่อเป็นแบบอย่างกับลูกน้อง ส่วนเรื่องความซื่อสัตย์ ในที่นี้เจ๊จงยึดถือความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าในแง่ที่ว่า ลูกค้าต้องได้ทานของดีมีราคาที่คุ้มค่าตามหลักคิดของร้านที่ว่า "ถูก ดี มีน้ำใจ" เจ๊จงจึงเลือกใช้แต่ของมีคุณภาพ ยกตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งเจ๊ซื้อปลาหมึกที่ถูกแม่ค้า "ย้อมแมว" ขาย เจ๊ยอมทิ้งปลาหมึกทั้งหมดแล้วซื้อใหม่เพื่อให้ลูกค้าได้ทานของที่ดีจริง
เคล็ดลับที่ 3 "เอาใจใส่"
เจ๊จงเอาใจใส่คนรอบข้างโดยเฉพาะลูกค้าเป็นอย่างมาก สำหรับลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้านหมูทอดเจ๊จงคงจะทราบกันดีว่าที่ร้านนี้สามารถเติมข้าวเพิ่มได้ฟรี ทานกล้วยน้ำว้าฟรี และเติมผักได้ฟรี ซึ่งแต่ละอย่างมีที่มาที่ไปจากการเอาใจใส่คนรอบข้างของเจ๊จงเองที่มาของการเติมข้าวฟรีเพราะเจ๊เห็นว่าลูกค้ามักจะขอเพิ่มข้าวอยู่เสมอ เลยคิดว่า มีบริการเติมข้าวฟรีก่อนและหลังทานอาหารดีกว่า ถ้าทานอาหารแล้วกับเหลือสามารถเติมข้าวได้เสมอ ส่วนเรื่องกล้วยฟรี เจ๊เล่าว่า ตอนแกไปตลาด เห็นกล้วยมันราคาไม่สูงมาก เลยอยากช่วยแม่ค้าขายกล้วยด้วยการซื้อกล้วยทีละหลายเครือซึ่งเราเองทานบ้านเดียวไม่หมด เลยซื้อมาเผื่อลูกค้าได้ทานกันด้วย สุดท้ายเรื่องผักฟรี มาจากตอนที่เจ๊ไปเฝ้าไข้สามีที่โรงพยาบาลแล้วเจ๊ก็ไม่สบายตามไปด้วย เจ๊เห็นว่าวันอาทิตย์คนป่วยที่โรงพยาบาลเยอะมาก เลยคิดว่า ลูกค้ามากินแต่หมูทอดเราไม่ดีแน่ เลยเพิ่มผักเข้าไปเพื่อช่วยเสริมสุขภาพของลูกค้า
เจ๊มักสอนลูกน้องที่ร้านเสมอว่าลูกค้าคือคนสำคัญของเรา การที่จะทำให้ลูกค้าสักคนเชื่อใจเราแล้วมาทานอาหารที่เราตลอดไม่ใช่เรื่องง่าย "หมูทอดเจ๊จง" เลยพยายามเอาใจใส่ลูกค้าเสมอมา
เคล็ดลับที่ 4 "อบรม"
เจ๊จงไม่เคยหยุดการเรียนรู้ แม้ว่าจะใช้เวลาในการบริหารงานที่ร้านข้าวแกงจนแทบไม่มีเวลาว่าง แต่เจ๊จงก็พยายามแบ่งสรรเวลาเพื่อมาเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เสมอ อย่างในตอนนี้เจ๊จงกำลังเรียนเรื่องการตลาดคอร์สสั้นๆ กับกูรูการตลาดชื่อดัง ซึ่งเจ๊จงเรียนรู้ทั้งเรื่องการสร้างแบรนด์ การทำแพ็คเก็จจิ้งสินค้าทำหีบห่อสินค้าให้ดึงดูดลูกค้า สิ่งที่เรียนมาเจ๊จงนำมาปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองอยู่เสมอ และล่าสุดเจ๊วางแผนว่าในอนาคตอยากทำหมูทอดพร้อมทานราคาย่อมเยา ลูกค้าสามารถซื้อที่ไหนก็ได้ สามารถนำมาทอดเองและทานได้เลย ซึ่งนั่นหมายถึงในอนาคตอันใกล้นี้ "ทอดหมูเจ๊จง" จะขยายจากร้านอาหารมาเป็นโรงงานเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น
นี่คือ 4 เคล็ดลับความสำเร็จของเจ๊จง-จงใจ กิจแสวง กับร้าน "หมูทอดเจ๊จง" ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนจำนวนมากอยากสานฝันในการปั้นธุรกิจของตนเอง ซึ่งในตอนนี้โอกาสที่น่าสนใจมาถึงแล้ว เพราะตอนนี้ ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ (Unilever Food Solutions - UFS) เปิดรับสมัครผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดกลางและขนาดเล็ก มาร่วมสานฝันในการทำธุรกิจร้านอาหารด้วยการโชว์เมนูเด็ดประจำร้านกับโครงการ "UFS ปรุงชีวิตพิชิตฝัน" สร้างโอกาสในการรับคำปรึกษาเรื่องการบริหารจัดการร้านอาหารจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งหนึ่งในนั้นคือ "หมูทอดเจ๊จง"
มาร่วมลุ้นเป็น 1 ใน 10 สุดยอดร้านอาหารที่จะได้เข้าอบรมคอร์สการทำธุรกิจร้านอาหารจากกูรูด้านอาหารและผู้ที่ประสบความสำเร็จมาเป็นแรงผลักดัน ที่จะมาช่วยสนับสนุนในทุกทักษะที่เกี่ยวกับการทำร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นทักษะงานครัว พัฒนาเมนูอาหาร ตลอดจนงานบริการ พร้อมรับทุนสนับสนุนจาก UFS มูลค่ารวม 1 ล้านบาท โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ - 20 พฤษภาคม 2560ที่ Facebook มือโปรความอร่อย หรือ Line @ufsthailand
แล้วมาทำความฝันของเราให้เป็นจริงตามแบบเจ๊จงกันเถอะ!
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit