ดร.อมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) (AJD) เปิดเผยว่า รายได้รวมเท่ากับ 2,558.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 789.23 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.62 จากปีก่อนมีรายได้ 1,768.81 ล้านบาท และบริษัทมีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 355.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 349.08 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 5,473.27 จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 6.38 ล้านบาท
โดยสาเหตุหลักผลประกอบการปี 2559 เติบโตอย่างโดดเด่นมาจากรายได้จากการขาย 565.77 ล้านบาท รายได้จากการบริการ 72.28 ล้านบาท และรายได้ดอกเบี้ยจากการขายผ่อนชาระ จำนวน 118.69 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายและการให้บริการที่เพิ่มขึ้นของตู้เติมเงินออนไลน์ของบริษัทย่อย
ขณะที่ต้นทุนขายและต้นทุนบริการเท่ากับ 1,132.16 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 47.13 ของรายได้จากการขายและรายได้จากการให้บริการ โดยอัตราส่วนต้นทุนขายและต้นทุนบริการต่อรายได้จากการขายและรายได้จากการให้บริการลดลง ร้อยละ 13.13 จากปีก่อนที่เท่ากับร้อยละ 60.26 สาเหตุหลักที่ลดลงเนื่องมาจากอัตราส่วนกำไรจากยอดขายตู้เติมเงินออนไลน์และการให้บริการที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายเท่ากับ 481.67 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18.83 ของรายได้รวม โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายต่อรายได้รวมลดลง ร้อยละ 6.31 จากปีก่อนที่เท่ากับร้อยละ 25.14 จากความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายและการบริหารที่มีประสิทธิภาพ
"สาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2559 มีกำไรโดดเด่น เพราะ ได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีรายได้ดอกเบี้ยจากการขายผ่อนชำระสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายตู้เติมเงินออนไลน์ (ตู้เติมเงินเอเจ เติมสบาย) จากบริษัทฯย่อย คือบริษัท เวนดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด รับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี" ดร.อมร กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) (AJD) กล่าวอีกว่า บริษัทฯมั่นใจว่าผลประกอบการในปี 2560 น่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการเดินหน้าธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า และธุรกิจตู้เติมเงินออนไลน์ เอเจเติมสบาย โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 40,000 เครื่อง รวมถึงการขยายไลน์ธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจการให้บริการตู้ขายน้ำอัตโนมัติและตู้น้ำลิตร โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ภายในไตรมาส 1/60 และธุรกิจบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Money) โดยให้บริการในรูปแบบบัตร และ/หรือโปรแกรมในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับใช้เพื่อชำระค่าสินค้า และบริการได้ทั้งแบบออนไลน์ และตามร้านค้าที่รับชำระต่างๆ โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 4/60 จะสามารถดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาระบบงานของเงินอิเล็กทรอนิกส์สำหรับขออนุญาตต่อหน่วยงานกำกับ เพื่อประกอบธุรกิจเงินอิเล็กทรอนิกส์