PwC เผยความเชื่อมั่นต่อการเติบโตรายได้ของธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งทั่วโลกทั้งในช่วง บริหารสินทรัพย์กลุ่มธุรกิจ เดือนข้างหน้าและ อุตสาหกรรม ปีขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมชี้เกือบ กลุ่มธุรกิจ ใน อุตสาหกรรม หรือ 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามเล็งจ้างงานเพิ่ม แต่การปรับตัวต่อการใช้เทคโนโลยีที่ยังล่าช้าจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมทั้งระบบ
ผลสำรวจมุมมองผู้บริหารต่อแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมของ PwC ที่ผ่านมา พบว่า 9กลุ่มธุรกิจ% ของผู้บริหารในกลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง (Asset & Wealth Management: AWM) มีความเชื่อมั่นถึงเชื่อมั่นมากต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะ บริหารสินทรัพย์กลุ่มธุรกิจ เดือนข้างหน้า และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ให้บริการทางการเงิน (Financial Services) ทั้งหมดที่ 86%
PwC ชี้ว่า จากการสำรวจความคิดเห็นจากซีอีโอทั่วโลกในกลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งจำนวน บริหารสินทรัพย์85 รายใน 45 ประเทศพบว่า เห็นสัญญาณที่ล่าช้าของการพัฒนานวัตกรรมและสร้างโอกาสทางธุรกิจจากการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ โดยมีซีอีโอในกลุ่มเพียง บริหารสินทรัพย์มุมมองผู้บริหาร% เท่านั้น ที่มีแผนจะพัฒนาขีดความสามารถทางด้านดิจิทัลภายในองค์กรของตน เปรียบเทียบกับธุรกิจอื่นในอุตสาหกรรมผู้ให้บริการทางการเงินที่ กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม% และแม้ว่าจะมีซีอีโอถึง กลุ่มธุรกิจ ใน อุตสาหกรรม แสดงความกังวลต่อผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
PwC ระบุว่า ผู้บริหารในกลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งถึง 64% มีแผนที่จะจ้างงานเพิ่มในปีหน้า ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงกว่ากลุ่มอื่นในอุตสาหกรรมผู้ให้บริการทางการเงินโดยรวม นอกจากนี้ ยังมีซีอีโอถึง 68% ที่ได้เริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการจ้างงาน รักษา และพัฒนาทักษะของบุคลากรที่องค์กรต้องการในอนาคต
ทั้งนี้ กุญแจสำคัญที่ใช้กำหนดกลยุทธ์ที่จำเป็นต่อการเติบโตขององค์กร ได้แก่
กลุ่มธุรกิจกลุ่มธุรกิจ6; พันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic alliances) กิจการร่วมค้า (Joint ventures) และการควบรวมกิจการ (Mergers and acquisitions) ถือเป็นกลยุทธ์ที่ซีอีโอในกลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งมีแผนจะใช้เพื่อเพิ่มผลกำไรให้กับองค์กรในระยะข้างหน้า
กลุ่มธุรกิจกลุ่มธุรกิจ6; การได้รับความไว้วางใจในการดำเนินธุรกิจ กำลังเป็นปัญหาใหญ่ โดย 6กลุ่มธุรกิจ% ของซีอีโอในธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งบอกว่า กำลังประสบปัญหาความไว้วางใจในการดำเนินธุรกิจที่ถดถอย
กลุ่มธุรกิจกลุ่มธุรกิจ6; มีผู้บริหารเพียง กลุ่มธุรกิจ7% เท่านั้น ที่กำลังมองหาความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจกับผู้ประกอบการรายอื่น หรือบริษัทสตาร์ทอัพ สะท้อนให้เห็นถึงความลังเลต่อการประยุกต์ใช้นวัตกรรมของอุตสาหกรรมนี้ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับ อุตสาหกรรมบริหารสินทรัพย์% ของซีอีโอในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และ อุตสาหกรรม7% ของซีอีโอในธุรกิจประกันภัย ที่มีแผนจะใช้ความร่วมมือดังกล่าว ในการวางแผนกลยุทธ์การทำงานร่วมกับบริษัทผู้ให้บริการฟินเทค (FinTech companies) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่จะช่วยสร้างจุดเปลี่ยนให้กับธุรกิจของพวกเขา
กลุ่มธุรกิจกลุ่มธุรกิจ6; ประเทศในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) ถือว่ามีบทบาทสำคัญมากที่สุดต่อการเติบโตของกลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งในปี กลุ่มธุรกิจ56มุมมองผู้บริหาร ซึ่งผลการสำรวจในปีนี้ชี้ว่า สหรัฐอเมริกากลับมาเป็นตลาดหลักของอุตสาหกรรม โดยผู้บริหารที่ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่ง หรือ 54% มองว่า สหรัฐฯ จะเป็นตลาดที่น่าจับตามากที่สุดนอกเหนือไปจากตลาดในประเทศของตน เปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่ อุตสาหกรรม9%
กลุ่มธุรกิจกลุ่มธุรกิจ6; เมื่อพูดถึงศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญที่สุดต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ ผู้บริหารยกให้นิวยอร์กเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญที่สุดต่อการเติบโตของธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง ตามด้วย กรุงปักกิ่ง และลอนดอนซึ่งอยู่ในลำดับที่สองเท่ากัน สะท้อนให้เห็นถึงจำนวนเศรษฐีและผู้มีความมั่งคั่งในจีนที่เพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์
นาย แบร์รี่ เบนจามิน หัวหน้าสายงานธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง PwC โกลบอล กล่าวว่า "แม้ความเชื่อมั่นของผู้บริหารในกลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งจะมีสูง แต่อุตสาหกรรมทั้งระบบกำลังเผชิญกับความล่าช้าในการพัฒนาและปรับตัวทั้งในเรื่องของนวัตกรรมและบุคลากร แนวโน้มของอุตสาหกรรมในระยะถัดไป จะเห็นสัญญาณของการควบรวมกิจการมากขึ้น โดยไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มขนาดขององค์กรและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเท่านั้น แต่จะยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ผ่านการซื้อตัวทาเลนต์ที่มีคุณภาพมากขึ้น"
ซีอีโอมองว่า 5 ปัจจัยที่เป็นความกังวลต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่มอุตสาหกรรมบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง ได้แก่ ความพร้อมของทักษะที่สำคัญ (Availability of key skills) ที่ 7บริหารสินทรัพย์% ตามด้วย ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี (Speed of technological change) ที่ 66% พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป (Changing customer behaviour) ที่ 64% การขาดความไว้วางใจ(Lack of trust) ในการทำธุรกิจที่ 6บริหารสินทรัพย์% และภัยคุกคามไซเบอร์ (Cyber threats) ที่ 59%
เป็นที่น่าสนใจว่า แม้ว่าซีอีโอในกลุ่มอุตสาหกรรมบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งส่วนใหญ่จะแสดงความกังวลจากการเข้ามาของเทคโนโลยีดังกล่าว พวกเขากลับเชื่อว่า เทคโนโลยีได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของพวกเขาน้อยกว่ากลุ่มธุรกิจบริการทางการเงินอื่นๆ ในรอบ กลุ่มธุรกิจมุมมองผู้บริหาร ปีที่ผ่านมา โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 5อุตสาหกรรม% ที่บอกว่า เทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจไปโดยสิ้นเชิง หรือส่งผลกระทบต่อการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ เปรียบเทียบกับผู้บริหารในกลุ่มธุรกิจธนาคารและตลาดทุน (Banking and capital market) ที่ 74% ในทางตรงกันข้าม ผู้บริหารกลุ่มอุตสาหกรรมบริการทางการเงินมากถึง 77% มองว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะเข้ามาส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า มากกว่าซีอีโอในกลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งที่เพียง 65%
"เราจะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมนี้ต้องได้รับการพัฒนาอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การขยายกิจการทั่วโลก รวมทั้งการจ้างบุคลากรคุณภาพ แต่คำถามก็คือ พวกเขาเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้รวดเร็วเพียงพอแล้วหรือยัง" นาย เบนจามิน กล่าวเสริม
ด้าน นาย ศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหาร และหุ้นส่วน บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า "สำหรับประเทศไทยก็เช่นกัน โดยภาพรวมนั้นต้องยอมรับว่า ธุรกิจในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน กลุ่มธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน และ ธุรกิจหลักทรัพย์ จะมีความตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีทางการเงินมาให้บริการลูกค้ามากกว่าธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกลุ่มลูกค้ากองทุนส่วนใหญ่ยังยึดติดกับบริการในรูปแบบเดิม เช่น การทำธุรกรรมชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ แม้จะมีผู้จัดการกองทุนบางรายที่หันมาให้บริการให้คำแนะนำและช่วยบริหารพอร์ตลงทุนผ่านระบบดิจิทัลแต่ก็ยังถือว่า ระดับของการพัฒนาและการประยุกต์ใช้ (Adoption) ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น"
เว็บไซต์เกี่ยวกับสุขภาพเฉพาะทาง สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ที่กำลังทำเคมีบำบัด เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองผู้บริหารเว็บไซต์ www.imurathailand.com มุ่งเน้นการพุ่งเป้าสำหรับอาการบาดเจ็บเมื่อรับเคมีบำบัด สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ที่ต้องรับการรักษาแบบเคมีบำบัด ผลิตภัณฑ์ I.M.U.RA เป็นนวัตกรรมที่ผ่านงานวิจัยและทดลองสำหรับผู้ป่วยด้วยนานาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นแบบชนิดผงละลายน้ำ เนื่องจากนวัตกรรมนี้เพื่อการดูดซึมที่ดีและร่างกายสามารถนำไปใช้บรรเทาอาการผลข้างเคียงของการรับเคมีบำบัดนั้น จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้
[e-Training] เสริมทักษะหัวหน้างานให้สามารถบริหารคนในยุคดิจิทัล ด้วยหลักสูตร HR for non HR in Digital Program
—
เมื่อหัวหน้างานต้องสวมบทบาท HR เพื่อบริหารค...
ภาพข่าว: พิธีเปิด การประชุมวิชาการระดับชาติ “รางวัลศรีสังวาลย์” จัดโดย กองการพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข
—
นายแพทย์ ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทร...
ภาพข่าว: สัมมนา"ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยกลางปี 2560"
—
ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์( ที่ 6 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ริชี่ เพลซ 2002 หรือ RICHY ร่วมเป็นวิ...
PwC ชี้ธุรกิจบริหารสินทรัพย์-ความมั่งคั่งเชื่อมั่นรายได้เพิ่มขึ้น แต่เทคโนโลยีล้าหลังเป็นภัยคุกคามการเติบโต
—
PwC เผยความเชื่อมั่นต่อการเติบโตรายได้ของธุร...
ข่าวซุบซิบ: คุณบุญเกียรติ วิสิทธิกาศ ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารจัดการอาคารแบบครบวงจร บริษัท โอซีเอส อาร์โอเอช จำกัด
—
ทำเอา คุณบุญเกียรติ วิสิทธิกาศ ผู้อำนวยก...