จักษุแพทย์ มธ. แนะ 5 ข้อสำหรับคนไทย ห่างไกลโรคจอประสาทตาเสื่อม เน้นการรับประทานผักใบเขียว พร้อมผุดแอปฯ คัดกรองโรคใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน

          มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) พัฒนา "การคัดกรองโรคจอประสาทตาเสื่อมอย่างอัตโนมัติจากภาพถ่ายจอตา โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมในรูปแบบแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน หรือ "DeepEye Application" เป็นรายแรกของโลก โดย รศ.ดร.จาตุรงค์ ตันติบัณฑิต อาจารย์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นหัวหน้าคณะผู้วิจัย ขณะเดียวกันคาดว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะช่วยลดอัตราส่วนผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อม หรือ Age-related macular degeneration (AMD) ของไทยอันจะนำไปสู่การลดความเสี่ยงการสูญเสียทางการมองเห็นในผู้สูงอายุได้ เนื่องจากโรคดังกล่าวจะพบในผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป พร้อมกับสามารถลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนที่จะเข้าถึงการให้บริการด้านสาธารณสุขของผู้ป่วยในเมืองและชนบทได้ ทั้งนี้ผลงานดังกล่าวได้รับรางวัลเหรียญทองเกียรติยศ จากการประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกจากงาน International Exhibition of Inventions of Geneva ครั้งที่ 45 ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2560 ที่ผ่านมา
          ผศ. นพ.ณวพล กาญจนารัณย์ อาจารย์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในคณะผู้วิจัยและพัฒนาการคัดกรองโรคจอประสาทตาเสื่อมอย่างอัตโนมัติจากภาพถ่ายจอตา โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมในรูปแบบแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน กล่าวว่า สืบเนื่องจากทั่วโลกในขณะนี้ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลกมีผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อม หรือ AMD ประมาณ 20-25 ล้านคน ส่วนใหญ่พบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี และ 8 ล้านคนในจำนวนนี้สูญเสียการมองเห็น เช่นเดียวกับในประเทศไทยที่ปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้อัตราส่วนผู้ป่วยโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นอันดับ4 ของโรคที่เป็นสาเหตุของตาบอดในประชากรโลก ซึ่งอาจจะเป็นสถิติที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่นักเพราะถือเป็นปัญหาสำคัญของระบบสาธารณสุขไทยที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน โดยปัจจุบันโรคที่เกี่ยวกับตาที่คนไทยเป็นมากที่สุดอันดับ 1คือโรคต้อกระจก เบาหวานขึ้นจอประสาทตา และต้อหินตามลำดับ แต่ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า ไทยอาจมีโรค AMD ขึ้นมาอยู่เป็นอันดับที่ 2-3 แทน ซึ่งประเภทของโรค AMD มีทั้งแบบแห้ง (dry AMD) ซึ่งเป็นรูปแบบที่พบมากที่สุด โดยเกิดจากจุดกลางรับภาพจอประสาทตา (macular) ลดน้อยลงหรือเสื่อมสลาย จากกระบวนการเสื่อมตามอายุ (aging) ส่งผลให้ความสามารถในการมองเห็นค่อย ๆ ลดลง และเป็นไปอย่างช้า ๆ ซึ่งหากมีอาการแล้วจะไม่สามารถรักษาให้กลับมามองเห็นเป็นปกติได้ แต่ก็ถือว่ายังมีความรุนแรงน้อยกว่าโรคต้อกระจกและต้อหิน ส่วนอีกประเภทคือโรคจอประสาทตาเสื่อมแบบเปียก (wet AMD) ที่พบประมาณร้อยละ 15-20 ของโรค AMD และมีความรุนแรงเนื่องจากทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็วอันเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดตาบอด แต่ปัจจุบันนอกจากอุบัติการณ์ของโรคนี้จะบ่อยตามอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆเช่นแสงจากคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ช่วยเร่งให้จอประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควรสำหรับผู้ที่ต้องการห่างไกลจากโรคดังกล่าวควรปฏิบัติตนดังต่อไปนี้
          1. ควรงดสูบบุหรี่ เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของการเกิดโรค
          2. รักษาระดับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ ไม่ให้สูงจนเกินไป
          3. รับประทานอาหารมีสารแอนตี้ออกซิแด้นท์ที่มีในผักสีเขียวและเหลือง
          4. หาอุปกรณ์ป้องกันหากใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน
          5. ผู้ที่มีญาติป่วยเป็นโรคนี้ ควรได้รับการคัดกรองโรค เพราะมีรายงานค้นพบว่าโรคนี้อาจถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้หากพบแนวโน้มการเป็นโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งนอกจากจะนำไปสู่การรักษา ลดการสูญเสีย ลดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์แล้วยังเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุได้ โดยการคัดกรองจากแอปพลิเคชั่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการป้องกัน ทั้งนี้แอปพลิเคชั่นคัดกรองโรคจอประสาทตาเสื่อมนี้ไทยเป็นเจ้าแรกของโลกในการคิดค้น และในอนาคตเพื่อป้องกันโรคที่เกิดขึ้นกับการมองเห็นของไทย ทางคณะทีมวิจัยกำลังจะมีการคิดค้นและพัฒนาแอปพลิเคชั่นคัดกรองโรคต้อหินต่อไป
          ด้าน รศ.ดร จาตุรงค์ ตันติบัณฑิต อาจารย์ ภาควิชาวิศกรรมไฟฟ้าคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)ในฐานะหัวหน้าคณะผู้วิจัยที่พัฒนา การคัดกรองโรคจอประสาทตาเสื่อม (AMD)อย่างอัตโนมัติจากภาพถ่ายจอตา โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมในรูปแบบแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน หรือ "DeepEye Application" กล่าวว่าแอปพลิเคชั่นดังกล่าวมีประโยชน์ในการคัดกรองผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อม ก่อนส่งต่อไปให้จักษุแพทย์รักษาอย่างละเอียด สำหรับวิธีการใช้แอปพลิเคชั่นนี้ ผู้ตรวจจะถ่ายภาพจอตาของผู้ป่วยแล้วนำภาพที่ได้มาประมวลผลผ่านแอปพลิเคชั่นว่าเป็นโรค AMD หรือไม่และเป็นประเภทใด โดยมีความแม่นยำถึงร้อยละ 99 แต่ปัจจุบันเนื่องจากประมวลผลต้องผ่านระบบโครงข่ายประสาทเทียม (artificial neural network) ที่สามารถเรียนรู้ และจดจำลักษณะเด่นของโรคตาชนิดต่าง ๆยังมีลักษณะภาพของจอประสาทตาในแอปพลิเคชั่นน้อย ทางคณะวิจัยจึงกำลังเพิ่มเติมลักษณะจอตาเข้าไปในโครงข่ายเพื่อให้เกิดความแม่นยำและมีความเสถียรมากยิ่งขึ้นซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 6เดือน หลังจากนั้นจะสามารถนำไปใช้ได้จริงในสถานพยาบาล
          อย่างไรก็ตามหากจักษุแพทย์ได้นำอุปกรณ์ดังกล่าวมาใช้จริง จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขระหว่างประชาชนในเขตเมืองใหญ่และชนบทของประเทศไทยให้น้อยลงได้และด้วยความอัจฉริยะของแอพพลิเคชั่นนี้ทำให้ได้รับรางวัลเหรียญทองเกียรติยศจากการประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกจากงาน International Exhibition of Inventions of Geneva ครั้งที่ 45 ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2560 ด้วย
          สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานสื่อสารองค์กรมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โทร.02-613-3030
 
 

ข่าวมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์+จาตุรงค์ ตันติบัณฑิตวันนี้

แว่นท็อปเจริญ จับมือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงนาม MOU ผนึกกำลังสร้างโอกาสให้บัณฑิต พัฒนาศักยภาพสู่ความพร้อมในโลกธุรกิจจริง

นายนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แว่นท็อปเจริญ บริษัท ร่วมเจริญพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ศ.ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วย รศ.ดร.สมชาย สุภัทรกุล คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ผนึกกำลังสร้างโอกาสให้บัณฑิต ผลักดันการศึกษาด้านธุรกิจ เพื่อมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาสู่ความพร้อมในโลกธุรกิจจริง โดยยินดีให้การต้อนรับนักศึกษาฝึกงาน เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการปฏิบัติงาน

นายณัฏฐชัย ศิริโก (ที่ 3 จากขวา) ประธานเจ... AMR โชว์นวัตกรรมผลิตป้ายทะเบียนอัตโนมัติ พร้อมต้อนรับพาร์ทเนอร์ ขยายโอกาสสู่อาเซียน — นายณัฏฐชัย ศิริโก (ที่ 3 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเอ...

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ชวนร่วมงานสัปดาห์หนังสื... ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ชวนร่วมงานสัปดาห์หนังสือฯ — ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ชวนร่วมงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 23 ณ...

อาจารย์วารสารฯ มธ. แนะ "สื่อ" นำเสนอข่าวเ... อาจารย์วารสารฯ มธ. แนะ "สื่อ" นำเสนอข่าวเซนซิทีฟต้องสร้างวิจารณญาณ มากกว่าปลุกเร้าอารมณ์ร่วม — อาจารย์วารสารฯ มธ. แนะ "สื่อ" นำเสนอข่าวเซนซิทีฟต้องสร้างวิ...

ถนนพระอาทิตย์นั้นเริ่มตั้งแต่ถนนพระสุเมรุ... นัท วอล์คเกอร์ พาวอล์ค: เที่ยวชมเมืองเก่า สัมผัสเสน่ห์ยามเย็นริมถนนพระอาทิตย์ — ถนนพระอาทิตย์นั้นเริ่มตั้งแต่ถนนพระสุเมรุไปจนถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตลอด...

กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ นำโดย ดร.จารุรัตน์ ช... เบเยอร์ร่วมแสดงเจตนารมณ์สู่ Net Zero มุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน — กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ นำโดย ดร.จารุรัตน์ ชัยยศบูรณะ ผู้บริหารกลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ เป็นตัวแทนอ...