ไทยคม หัวเว่ย และสตาร์คอร์ ผนึกความร่วมมือในการพัฒนาบริการสื่อสารและแพร่ภาพและเสียงผ่านแอพพลิเคชั่นบนอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย

12 Jun 2017
บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจดาวเทียมชั้นนำแห่งเอเชีย และผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมผ่านดาวเทียมแบบครบวงจร (End-to-End Satellite Communications Solutions) ประกาศความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สตาร์คอร์ มีเดีย เทคโนโลยี จำกัด เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มบริการแพร่ภาพและเสียงผ่านแอพพลิเคชั่นบนอินเทอร์เน็ต หรือ Over The Top (OTT) ในประเทศไทย
ไทยคม หัวเว่ย และสตาร์คอร์ ผนึกความร่วมมือในการพัฒนาบริการสื่อสารและแพร่ภาพและเสียงผ่านแอพพลิเคชั่นบนอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย

พันธมิตรทางธุรกิจทั้ง 3 บริษัท จะร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์ม OTT แห่งอนาคต เพื่อให้บริการกับลูกค้าองค์กร สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบการโทรคมนาคมต่างๆ ในประเทศไทย โดยจะพัฒนาบริการ OTT ที่สามารถรองรับการส่งข้อมูลคอนเทนท์แบบจำนวนมากและหลากหลาย รวมไปถึงทีวีสตรีมมิ่งและวีดีโอตามความต้องการ ความร่วมมือเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม OTTในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ยิ่งต่อผู้ประกอบการโทรคมนาคมของไทย ในการนำบริการ OTT มาผนึกเข้ากับผลิตภัณฑ์ของตน เพื่อช่วยในการนำเสนอเนื้อหาไปยังอุปกรณ์รองรับที่มีอยู่อย่างหลากหลายในปัจจุบัน เช่น สมาร์ททีวี สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก เป็นต้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการค้า บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ไทยคมขอขอบคุณหัวเว่ย และสตาร์คอร์ ที่ให้ความไว้วางใจเลือกไทยคม ในการให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน และช่องสัญญาณดาวเทียม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาบริการ OTT ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในไม่ช้านี้ ไทยคมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับหัวเว่ย และสตาร์คอร์ จะยิ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาพลักษณ์ของไทยคมในการเป็นผู้ให้บริการช่องสัญญาณดาวเทียม ที่จะมาช่วยเติมเต็มการให้บริการของทีวีดิจิตอลยุคใหม่ และแพลตฟอร์ม OTT ยังถือเป็นบริการใหม่ของไทยคม ที่จะช่วยยกระดับการให้บริการแพลตฟอร์มดาวเทียมที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังจะขับเคลื่อนบริการของไทยคมให้ก้าวสู่ยุคดิจิตอลได้อย่างเต็มศักยภาพ"

นายโรบิน ลู ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับไทยคม และสตาร์คอร์ ในครั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของหัวเว่ย ในการสนับสนุนให้เกิดบริการ OTTขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานจากผู้ใช้งานทั่วโลก ซึ่งเทคโนโลยีดาวเทียมเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบดิจิทัล เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ เช่น บริการ OTT ซึ่งนับเป็นบริการที่เกิดขึ้นตามเป้าหมายของหัวเว่ย ในการพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์และการสนับสนุนการวิเคราะห์ Big Data เพื่อให้บริการแพลตฟอร์ม OTT ในรูปแบบไหม่ที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด ทั้งในด้านประสิทธิภาพความรวดเร็วในการประมวณผลเพื่อทำให้เกิดความประทับใจในรูปแบบใหม่ของสื่อดิจิทัล โดยบริการในรูปแบบใหม่นี้ เกิดขึ้นจากการได้ทำงานร่วมกับบริษัท ไทยคมที่มีการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและมีชื่อเสียงในการให้บริการดาวเทียมไทยคม เหล่านี้จะช่วยให้หัวเว่ย สามารถสร้างแพลตฟอร์ม OTT เพื่อการให้บริการเนื้อหาเพื่อความบันเทิงและการศึกษาในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

นายอีวาน ชาง กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์คอร์ มีเดีย เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า"บริษัทมีความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาทีวีดิจิตอลและเนื้อหาดิจิตอลของประเทศไทยไปสู่อนาคต ด้วยความร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำเช่นหัวเว่ย และผู้ให้บริการดาวเทียมชั้นนำแห่งเอเชียเช่นไทยคม สตาร์คอร์เชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งมอบประสบการณ์ด้านความบันเทิงรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าได้อย่างไร้คู่แข่ง "

ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ไทยคมจะเป็นผู้ดำเนินการเชื่อมต่อเครือข่ายและเป็นศูนย์บริการข้อมูลสำหรับหัวเว่ย และสตาร์คอร์ ขณะที่หัวเว่ยจะดำเนินการในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการให้บริการ (Infrastructure as a Service: IaaS) และบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ส่วนสตาร์คอร์ จะดำเนินการในส่วนของแพลตฟอร์ม OTT สำหรับการบริการ (OTT as a Service: OTT aaS) และการบูรณาการแพลตฟอร์มเพื่อบริหารจัดการสื่อและคอนเทนท์จากภายนอก

ความร่วมมือในครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่บริการ OTT กำลังเติบโตและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากผู้ใช้งานในประเทศไทย ซึ่งความสำเร็จของความร่วมมือจะช่วยให้ทั้ง 3 บริษัท สามารถนำเสนอบริการที่ล้ำสมัยและตรงกับความต้องการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ จากการใช้งาน ในยุคที่สภาพแวดล้อมทางสื่อเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งยังจะเป็นการช่วยสนับสนุนการก้าวเข้าสู่สังคมไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาล