มร.เอ็ม กานดิ กรรมการผู้จัดการ (ธุรกิจอาเซียน) บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมความงามเป็นอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองและน่าลงทุนติดอันดับต้น ๆ ของโลก โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมนี้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 4.5% ต่อปี และในปี 2560 นี้ ตลาดสินค้าความงามทั่วโลกจะมีมูลค่ารวมกว่า 9.3 ล้านล้านบาท ด้านอาเซียนประมาณการณ์ได้ว่าตลาดสินค้าความงามมีมูลค่า 5 แสนล้านบาท ในส่วนของประเทศไทย มูลค่าตลาดสินค้าความงามอยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาท ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าตลาดในอาเซียน โดยไทยเป็นที่หนึ่งผู้ส่งออก ดังนี้เอง จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ประกอบการไทยควรหันมาใส่ใจในอีกหนึ่งอุตสาหกรรมศักยภาพของตน
มร.เอ็ม กานดิ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สืบเนื่องจากความสำเร็จของงานอาเซียนบิวตี้ 2016 ที่จัดขึ้นในปีที่แล้ว ทำให้งานอาเซียนบิวตี้ 2017 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ต้องเพิ่มพื้นที่ในการจัดแสดงงานอีกเท่าตัว เพื่อรองรับกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมแสดงสินค้าจากทั่วโลก และนักธุรกิจ นักลงทุนที่เดินทางมาเพื่อหาคู่เจรจาธุรกิจจากทั่วโลกเช่นกัน งานอาเซียนบิวตี้ 2017 จึงถือเป็นงานแสดงสินค้าความงามที่ใหญ่ในระดับภูมิภาคอาเซียน และมีความสำคัญต่อธุรกิจความงามทั่วภูมิภาค โดยคาดการณ์ว่าในปีนี้ จำนวนผู้ร่วมชมงานจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 20% และเพื่อตอบรับกับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 งานอาเซียนบิวตี้ 2017 จึงเน้นและให้ความสำคัญไปที่การใช้นวัตกรรมในการยกระดับสินค้าความงาม เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก นอกจากนี้ ภายในงานยังมีหัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการในภูมิภาคอาเซียนได้นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาสินค้าของตนอีกด้วย
ด้านคุณอนุชนา วิชเวช ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ บริษัท ยูบีเอ็ม (เอเชีย) ประเทศไทย จำกัด ผู้จัดงานอาเซียนบิวตี้ 2017 กล่าวปิดท้ายว่า "งานอาเซียนบิวตี้ 2017 ครั้งนี้ มุ่งหวังที่จะสนับสนุนและผลักดันผู้ประกอบการไทยให้มีศักยภาพและขีดความสามารถที่เพิ่มมากขึ้น เพราะตอนนี้ไทยเป็นที่ 1 ของอาเซียนแล้ว โดยนานาประเทศต่างให้การยอมรับในมาตรฐานและคุณภาพของสินค้าความงามไทย ดังที่จะเห็นว่าเริ่มมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศ ดังนั้น ไทยจึงหยุดอยู่กับที่ไม่ได้ เพราะมีคู่แข่งเกิดขึ้นใหม่อยู่ตลอดเวลา ผู้ประกอบการไทยในปัจจุบันจึงต้องมุ่งเป้าหมายที่จะไปเติบโตในเวทีโลกให้ได้ โดยจากการพิจารณาถึงความสามารถและรายงานการส่งออกของปีที่แล้วที่ไทยมีการส่งออกสินค้าความงามไปทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดอาเซียนที่เป็นตลาดหลัก และตลาดญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และจีน ที่ชื่นชอบสินค้าความงามของไทยเป็นอย่างมาก ก็พบว่าผู้ประกอบการไทยมีจุดแข็งในเรื่องการผลิต และวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น สมุนไพรไทย ที่ดึงดูดใจผู้บริโภคทั่วโลก แต่ยังขาดการทำการตลาดที่เหมาะสม การดีไซน์แพคเกจจิ้งให้แปลกใหม่ และขาดการนำงานวิจัยมารองรับในคุณค่าของสินค้า ดังนี้แล้ว ภายในงานอาเซียนบิวตี้ 2017 จึงมีทั้งเวทีเสวนาที่นำผู้เชี่ยวชาญจากด้านต่าง ๆ มาให้ความรู้ และได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้พร้อมที่จะไปเติบโตบนเวทีโลก"
ASEAN beauty 2017 งานแสดงสินค้า เทคโนโลยี นวัตกรรมความงาม และเวทีเจรจาธุรกิจด้านความงามที่ยิ่งใหญ่ระดับอาเซียน เหมาะสำหรับนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และ SMEs ที่มองหาโอกาสในการทำธุรกิจด้านความงาม ภายในงานครบครันด้วยบูธแสดงสินค้ากว่า 350 บูธ จาก 15 ประเทศทั่วโลก เวทีเสวนาและหัวข้อสัมมนาจากผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา พร้อมให้คำปรึกษาและบริการด้านการทำธุรกิจความงามจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ธนาคาร และชี้แนะช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2560 นี้ ที่ไบเทค บางนา สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ www.aseanbeautyshow.com หรือโทร. 02 642 6911
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit