ส.อ.ท. จับมือ กระทรวงพลังงาน จัด Thailand ESCO Fair 2016 ผลักดันธุรกิจ ESCO

14 Jul 2016
สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน แถลงข่าวการจัดงาน Thailand ESCO FAIR 2016 และกิจกรรมกระตุ้นและขยายตลาดธุรกิจ ESCO ในหัวข้อ "ESCO ก้าวหน้า ประชารัฐก้าวไกล พาไทยประหยัดพลังงาน" ในวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2559 เวลา 13.30 - 15.30 น. ณ ห้องอุบลชาด ชั้น 3 โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการดำเนินธุรกิจและการลงทุนด้านการอนุรักษ์พลังงานตามระบบสากลที่เน้นในมาตรฐานการทำงานของบริษัทจัดการพลังงานไทย และการตรวจวัดพิสูจน์ผล

นายดนัย เอกกมล รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยว่า กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวง ได้มีการจัดทำแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี (ปี พ.ศ. 2558 - 2579) โดยกำหนดเป้าหมายให้มีค่าดัชนีการใช้พลังงานรวมต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ณ ปี พ.ศ. 2579 ลดลงให้ได้ร้อยละ 30 เทียบกับค่าปีฐานในปี พ.ศ. 2553

ทั้งนี้ มาตรการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานโดยบริษัทจัดการพลังงาน (Energy Service Company: ESCO) ซึ่งได้ถูกกำหนดเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปีดังกล่าว ที่ยังคงต้องมีการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง โดยหลักการที่สำคัญของ ESCO เป็นการดำเนินการประหยัดพลังงานในลักษณะที่มีการรับประกันผลประหยัดให้กับเจ้าของโครงการ และการชดเชยหากผลที่ได้รับไม่เป็นตามข้อตกลงตามสัญญา โดยมีการตรวจวัดพิสูจน์ผลประหยัดที่ชัดเจน

ที่ผ่านมา พพ. ให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการส่งเสริมธุรกิจ ESCO โดยร่วมมือกับสถาบันพลังงานฯ ส.อ.ท. โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 และได้ดำเนินงานต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 ซึ่งมีแนวทางหลักที่ได้ดำเนินการที่ผ่านมา ประกอบด้วย

1. การสร้างความเข้าใจและให้ความรู้เกี่ยวกับ ESCO รวมถึงเผยแพร่ผลงานความสำเร็จของโครงการอนุรักษ์พลังงานแบบ ESCO ในรูปแบบการจัดกิจกรรมสัมมนา อบรม และการดูงาน ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค

2. การจัดกิจกรรมส่งเสริมและกระตุ้นธุรกิจและความต้องการใช้บริการ ESCO เช่น ESCO Business Matching กิจกรรม Forum สำหรับผู้บริหาร เป็นต้น

3. การพัฒนาขีดความสามารถและยกระดับมาตรฐานผู้ให้บริการธุรกิจ ESCO ผ่านทางการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการ การพัฒนามาตรฐานความเป็นมืออาชีพของผู้ให้บริการ ESCO ให้มีศักยภาพสูง และการผลักดันให้มีการสร้างแนวทางการตรวจวัดพิสูจน์ผลประหยัด (Measurement and Verification: M&V) อันเป็นที่ยอมรับและใช้เป็นแนวทางร่วมกัน

4. การสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจ ESCO ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการดำเนินงาน ESCO Information Center ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนการประสานงานระหว่างผู้เกี่ยวข้องและสนใจในธุรกิจ ESCO

ซึ่งผลการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานด้วยกลไก ESCO ในช่วงปี พ.ศ. 2556 – 2558 ที่ผ่านมา สามารถผลักดันให้เกิดสัญญาการลงทุนโครงการอนุรักษ์พลังงานด้วยกลไก ESCO ได้ถึง 288 โครงการ โดยมีเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 16,065 ล้านบาท และก่อให้เกิดผลประหยัดพลังงานได้เป็นมูลค่ากว่า 3,338 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.29 ktoe

ทั้งนี้จากผลสำเร็จดังกล่าวข้างต้น พพ. จึงยังคงเดินหน้าให้การส่งเสริมและผลักดันธุรกิจ ESCO โดยการร่วมมือกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 สำหรับปี พ.ศ. 2559 นี้ กิจกรรมหลักที่มีความสำคัญยิ่งอีกหนึ่งกิจกรรม ได้แก่การจัดงาน Thailand ESCO Fair 2016 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "ESCO ก้าวหน้า ประชารัฐก้าวไกล พาไทยประหยัดพลังงาน" มุ่งเน้นให้มีการยกระดับความเป็นมืออาชีพและมาตรฐานการให้บริการของบริษัท ESCO ให้เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเพิ่มการขยายผลการดำเนินโครงการ ESCO ไปยังกลุ่มอาคารของหน่วยงานภาครัฐที่มีศักยภาพในการอนุรักษ์พลังงานและมีความสามารถในการจัดหางบประมาณลงทุนบางส่วนได้ด้วยตนเอง เช่น โรงพยาบาล และมหาวิทยาลัย เป็นต้น นอกจากนี้ พพ. ได้มีมาตรการเสริมในการสนับสนุนด้านการลงทุนสำหรับโครงการ ESCO เป็นการเฉพาะ ซึ่งได้แก่ โครงการส่งเสริมการลงทุนผ่านทาง ESCO Revolving Fund โดยจะมีวงเงินส่งเสริมการลงทุน 500 ล้านบาท เพื่อไปส่งเสริมการลงทุนในโครงการ ESCO ควบคู่กันไปด้วย

"จากกิจกรรมต่างๆ ดังกล่าว จะก่อให้เกิดความความตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์พลังงาน และเกิดความร่วมมือกันจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชนในอนุรักษ์พลังงาน ที่สอดคล้องตามนโยบายประชารัฐในการขับเคลื่อนประเทศไทย อันจะนำไปสู่การลดต้นทุนการผลิตด้านพลังงานและช่วยลดภาวะโลกร้อน นำอุตสาหกรรมไทยพัฒนาศักยภาพก้าวไกลสู่ระดับสากล" รองอธิบดี พพ. กล่าว

ด้าน นายหิน นววงศ์ รองประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงาน Thailand ESCO Fair 2016 ในครั้งนี้ กำหนดจัดขึ้นในวันอังคารที่ 2 สิงหาคม 2559 ณ ห้องบอลรูม ชั้น 2 โรงแรมสวิสโซเทล เลอคองคอร์ด ประกอบด้วยงานหลัก 2 ส่วน คือ การจัดสัมมนาและงานนิทรรศการ มุ่งเน้นที่จะเผยแพร่หลักการของธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน ด้วยการแสดงผลงานความสำเร็จของโครงการต่าง ๆ เพื่อให้สถานประกอบการเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้บริการของบริษัทจัดการพลังงานโดยจะมีการนำเสนอรูปแบบการให้บริการของบริษัทจัดการพลังงาน (ESCO) ทั้งของภาครัฐและเอกชน จัดแสดงเทคนิคการบริหารจัดการ และเทคโนโลยีอุปกรณ์ด้านอนุรักษ์พลังงาน กว่า 20 บูธ

สำหรับการจัดสัมมนา ได้รับเกียรติจากปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวเปิดงานและมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สถานประกอบการที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ระบบ ESCO และมอบโล่ให้กับบริษัทจัดการพลังงานที่มีผลงานดีเด่นด้านการให้บริการแก่ลูกค้า ต่อจากนั้นจะเริ่มการเสวนาภายใต้หัวข้อ "ESCO ก้าวหน้า ประชารัฐก้าวไกล พาไทยประหยัดพลังงาน" โดยได้รับเกียรติจาก คุณคุรุจิต นาครทรรพ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน สภาการปฏิรูปประเทศ เป็นผู้เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อดังกล่าว และช่วงบ่ายเสวนา เรื่อง "Success Cases of ESCO Projects" โดย สถานประกอบการที่ได้รับรางวัล ESCO Project Awards" และการเสวนาเรื่อง "ESCO โครงการนำร่องการอนุรักษ์พลังงานในหน่วยอาคารราชการ (ESCO Pilot Project)" เพื่อใช้เป็นกรณีตัวอย่างที่ดำเนินการได้จริงในการทำโครงการอนุรักษ์พลังงานโดยกลไกบริษัทจัดการพลังงาน ซึ่งสามารถนำไปขยายผลกับหน่วยงานราชการอื่นๆ ได้

"หวังเป็นอย่างยิ่งว่างาน Thailand ESCO Fair และงานสัมมนาที่จะจัดขึ้น เพื่อกระตุ้นและขยายตลาดธุรกิจ ESCO ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ จะเป็นกลไกสำคัญส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนการอนุรักษ์พลังงานและลดต้นทุนการผลิตให้กับภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยได้ต่อไปเป็นอย่างดี" นายหิน กล่าว

นายพ้อง เหลืองแสงทอง อุปนายกสมาคมบริษัทจัดการพลังงานไทย กล่าวว่า กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้ให้การสนับสนุนในการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ ESCO โดยมีสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นผู้ขับเคลื่อนสำคัญ มาจนถึงปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 9 ซึ่งภายใต้การสนับสนุนนี้ ในปี 2555 ก็ได้มีการจัดตั้งสมาคมบริษัทจัดการพลังงานไทยขึ้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของสมาชิกสมาคม และเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาโครงการด้านอนุรักษ์พลังงานที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ยุทธศาสตร์ของแผนอนุรักษ์พลังงานระยะ 20 ปี (ปี 2558-2579)

ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ภายใต้กรอบวิสัยทัศน์ และพันธกิจของสมาคม โดยได้ประสานความร่วมมือกับองค์กร สถาบัน ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับแนวคิดธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน กระตุ้นตลาดตลอดจนผลักดันเชิงนโยบาย ผ่านการดำเนินกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เกิดโครงการอนุรักษ์พลังงานด้วยระบบ ESCO ทั้งในภาคอุตสาหกรรม เอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่ผ่านมา ได้มีการผลักดันให้เกิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานสำหรับอาคารภาครัฐ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการพึ่งพางบประมาณของภาครัฐที่ต้องจัดสรรมาลงทุน ประหยัดงบประมาณในส่วนของค่าสาธารณูปโภคด้านพลังงาน ประหยัด สมาคมฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานการทำงานและยกระดับบริษัทจัดการพลังงานไทยให้เป็นที่ยอมรับในประเทศและมีความน่าเชื่อถือเทียบเคียงได้กับระดับสากล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะทำให้การบริการของ ESCO เป็นที่ยอมรับและเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป

"ขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมงานในครั้งนี้ เพื่อพบปะรับข้อมูลข่าวสาร พูดคุยเพื่อรับทราบและทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการการดำเนินการอนุรักษ์พลังงานในรูปแบบ ESCO จากกลุ่มบริษัทจัดการพลังงาน ตลอดจนช่องทางการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่เข้าร่วมออกบูธนิทรรศการ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น" นายพ้อง กล่าว