ปิดฉากงาน “มหกรรรมงานวิจัยแห่งชาติ ๒๕๕๙ (Thailand Research Expo 2016)”ยิ่งใหญ่ วช.ส่งงานวิจัยสู่ชุมชนครบทุกมิติ

          สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศจัดงาน"มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ๒๕๕๙ (Thailand Research Expo 2016)" จัดแสดงผลงานวิจัยจำนวนกว่า ๖๐๐ ผลงาน ใน ๙ ประเด็นกลุ่มเรื่องวิจัย ได้แก่ งานวิจัยเพื่อการผลิตและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและอาหาร งานวิจัยเพื่อพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม งานวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับภาคอุตสาหกรรม งานวิจัยเพื่อสร้างธุรกิจ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม งานวิจัยเพื่อสุขภาพ การแพทย์ สังคมผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส งานวิจัยเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรม ศิลปกรรม การศึกษา งานวิจัยเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการพัฒนาชุมชน งานวิจัยเพื่อความมั่นคงของรัฐและการเสริมสร้างธรรมาภิบาล และงานวิจัยเพื่อรองรับการสร้างความเข้มแข็งของประชาคมอาเซียน
          นางสาวสุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดงาน "มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ๒๕๕๙ (Thailand Research Expo 2016)" เป็นกิจกรรมสำคัญที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ ๑๑ แล้ว โดยความร่วมมือของหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ ในการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมการวิจัยที่มีคุณภาพ เพื่อเชื่อมโยงบูรณาการ องค์ความรู้ไปสู่การใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ ทั้งในมิติเชิงวิชาการ นโยบาย สังคม ชุมชน และพาณิชย์ อุตสาหกรรม ภายใต้แนวคิด "วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่งคง มั่งคั่ง และยั่งยืน"
          สำหรับงานในปีนี้ มีผลงานวิจัยที่ผ่านการคิดค้น ทดลอง และนำออกมาใช้งานได้จริง รวมถึงเป็นผลงานที่รอการนำไปใช้ในภาคส่วนต่างๆอย่างมากมาย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่จัดงานได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ
          นวัตกรรมระบบการผลิตและการเพิ่มมูลค่าปลาหนังลูกผสมเพื่อชุมชน ผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัลระดับ Platinum Award และ รางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี โดย ดร.เกรียงศักดิ์ เม่งอำพัน คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยอาจารย์เล่าถึงผลงานว่า คณะนักวิจัยได้ทำการวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ปลาลูกผสมระหว่างปลาบึกและปลาสวายมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๓ จนได้ปลาลูกผสมสายพันธุ์ใหม่โดยให้ชื่อว่า "ปลาบึกสยามแม่โจ้" ในปัจจุบันเป็นรุ่นที่ ๓ จุดเด่นของปลาบึกสยามแม่โจ้ คือ เลี้ยงง่าย โตเร็ว เนื้อแน่น รสชาติดี กว่าปลาบึกและปลาสวาย และได้ทำการพัฒนาวิธีการเลี้ยงให้ได้การรับรองมาตรฐานสัตว์น้ำที่ดี (GPA) ก่อนนำไปส่งเสริมให้กับเกษตรกรเลี้ยงเพื่อสร้างรายได้ โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนโครงการจาก บริษัทเอสแอนด์พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ในการรับซื้อปลาบึกสยามแม่โจ้เพื่อนำไปปรุงอาหารเสิร์ฟให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นนับเป็นความสำเร็จของคณะผู้ทำวิจัยที่ต้องการให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลามีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร"
          นายกำธร ศิลาอ่อน รองผู้จัดการใหญ่ สายการผลิตและซัพพลายเชน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ปลาบึกสยามแม่โจ้" ที่เอส แอนด์ พี รับจากเกษตรกรผู้เลี้ยงซึ่งได้รับการส่งเสริมการเลี้ยงจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นปลาที่มีอายุ 1 เดือน น้ำหนักต่อตัวประมาณ 1 กิโลกรัม จากที่เราได้นำมาทดลองทำอาหารพบว่ามีรสชาติดี เนื้อแน่น และยังเป็นปลาสายพันธุ์ลูกผสมที่คุณค่าทางโภชนาการสูงมาก เหมาะกับผู้ที่รักสุขภาพ เอส แอนด์ พี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในการพัฒนาเมนูเป็นเวลากว่า ๑ ปี จนได้ ๓ เมนูเด็ด ได้แก่ ปลาบึกสยามแม่โจ้ผัดฉ่า ปลาสยามแม่โจ้ทอดกระเทียม และต้มยำปลาบึกสยามแม่โจ้ และยังจะมีเมนูอื่นๆ ตามมา ซึ่งลูกค้าร้านอาหาร เอส แอนด์ พี จะได้ลิ้มรส ๓ เมนูเด็ดจากปลาบึกสยามแม่โจ้ ในปลายเดือนตุลาคมนี้แน่นอน ซึ่งมั่นใจว่าจะต้องถูกปาก ถูกใจคนชอบทานปลา และผู้รักสุขภาพอย่างแน่นอน"
          เพชรบุรี : วิจัยและสร้างสรรค์โดย ศิลปากร เป็นอีกหนึ่งงานวิจัยที่ได้รับรางวัล ระดับ Platinum Award และ รางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราช ผศ.ดร.อลิศร์ เทียนประเสริฐ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า โครงงานวิจัยนี้เกิดขึ้นจากคณาจารย์จากคณะวิชาต่างๆ ได้ร่วมมือกันถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริการวิชาการเพื่อตอบโจทย์ของชุมชนพื้นที่ในการพัฒนาท้องถิ่น โดยการนำ ต้นทุน และ ศักยภาพ ที่มีอยู่มาส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ เพิ่มรายได้ สร้างอาชีพ และ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเพชรบุรีมีอัตลักษณ์ที่สำคัญในการดำรงชีวิตที่สะท้อนให้เห็นได้จากอาหารทั้งคาวหวานที่มีชื่อ วิถีเกษตรที่เป็นแหล่งเพาะปลูก จนทำให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจจนสามารถพึ่งพาตนเองได้ จึงได้ดำเนินการวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และแปรรูปอาหารจากกล้วยหอมทอง มาแปรรูป อาทิ กล้วยหอมทองอบแห้ง กล้วยหอมทองทอดกรอบปรุงรส แยมกล้วยหอมทอง และอื่นๆอาทิ ไอศกรีมตาลโตนด ไซรัปตาลโตนด เป็นต้น
          ชุดโคมไฟแอลอีดีกำลังสูงสำหรับแก้ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด เป็นอีกหนึ่งงานวิจัยที่ได้รับรางวัล ระดับ Silver Award ผลงานของนักวิจัย จากภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา นำโดย ผศ.ดร.นรรัตน์ วัฒนมงคล กล่าวถึงผลงานวิจัยชุดนี้ว่า ภาวะตัวเหลืองในเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก พบได้ประมาณ 25-50% ในเด็กทารกแรกคลอด นับเป็นปัญหาสำคัญที่แพทย์จะต้องวินิจฉัยและรักษาในเวลาที่เหมาะสม เพื่อลดอัตราการสูญเสียที่อาจจะเป็นอันตรายแก่ชีวิต หรืออาจทำให้เกิดความผิดปกติ วิธีการรักษาคือการส่องไฟรักษา เราจึงมักเห็นเด็กทารกแรกคลอดอยู่ในตู้อบนั่นเอง แต่ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะมีโอกาสได้รับการรักษาด้วยการส่องไฟอย่างทันท่วงที ถ้าเด็กคนนั้นเกิดในพื้นที่ห่างไกลหรือโรงพยาบาลขนาดเล็ก ที่ไม่มีงบประมาณในการจัดซื้อตู้อบมาให้การรักษาได้ "ตู้อบมาตรฐานที่ใช้ในโรงพยาบาลทั่วไปมีราคาอยู่ที่เครื่องละประมาณ 4-6 แสนบาท ในขณะที่ชุดโคมไฟแอลอีดีฯ นี้ มีต้นทุนในการผลิตประมาณ 1 แสนบาท เท่านั้น สามารถใช้งานร่วมกับตู้อบ (Incubator) ที่มีอยู่เดิม เพื่อเปิดไฟให้การรักษาได้ทันที นอกจากนี้ยังมีขนาดกะทัดรัดและเคลื่อนย้ายพกพาได้อย่างสะดวก จึงทำให้โคมไฟนี้สามารถทำงานได้ในรถยนต์ รถพยาบาลฉุกเฉิน หรือแม้แต่โซล่าร์ เซลล์ ได้ ช่วยลดความเสี่ยงจากอาการแทรกซ้อน และความพิการของทารกแรกเกิดที่เกิดสภาวะตัวเหลืองได้ ทำให้โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงเครื่องมือชิ้นนี้ได้ ประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อและบำรุงรักษา"และผลงานวิจัยนี้ ได้รับการยืนยันจากสถาบันมาตรวิทยา และภาควิชากุมารเวชศาสตร์ หอผู้ป่วยวิกฤตทารกแรกเกิด โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ว่าเป็นชุดอุปกรณ์ส่องไฟที่พัฒนาขึ้นผ่าน Clinical trial phase สามารถใช้รักษาอาการภาวะตัวเหลือในทารกแรกเกิดได้จริง และให้ประสิทธิภาพในการรักษาใกล้เคียงกับเครื่องมือราคาสูง
          นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจาก ๖๐๐ ผลงาน ของงานวิจัยที่มาจัดแสดงภายใน มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ๒๕๕๙ ที่ได้เปล่งแสงอวด ออร่า อย่างอลังการตลอดระยะเวลา ๕ วัน ได้ปิดฉากลงอย่างสง่างาม ปีหน้า สำหรับผู้ที่พลาดการเข้าชมงาม โปรดติดตามตอนต่อไป ในปี ๒๕๖๐ เพราะงานดีๆ แบบนี้ จัดเพียงปีละ ๑ ครั้งเท่านั้น หรือจะติดตามชมผลงานย้อนหลังได้ที่เว็ปไซต์ ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) www.nrct.go.th
ปิดฉากงาน “มหกรรรมงานวิจัยแห่งชาติ ๒๕๕๙ (Thailand Research Expo 2016)”ยิ่งใหญ่ วช.ส่งงานวิจัยสู่ชุมชนครบทุกมิติ
 

ปิดฉากงาน “มหกรรรมงานวิจัยแห่งชาติ ๒๕๕๙ (Thailand Research Expo 2016)”ยิ่งใหญ่ วช.ส่งงานวิจัยสู่ชุมชนครบทุกมิติ
 

ข่าวสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ+มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติวันนี้

นศ.สาขาเคมีสวนสุนันทาคว้า “เหรียญทองแดง” งานวิจัยแห่งชาติ’62

เมื่อเร็วๆ นี้ นายนันทวัฒน์ ขยันกสิกรรม นางสาวจิตตรา มาแสวง และนางสาวเกศินี ปาทา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา คว้าเหรียญทองแดง จากการส่งผลงานวิจัยนวัตกรรมสายอุดมศึกษาหัวข้อ "วัสดุคอมโพสิทจากยางพาราเพื่อบำบัดคราบน้ำมันรั่วไหลในทะเล" เข้าร่วมประกวดในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2562 (Thailand Research Expo 2019)จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-10 เมษายน 2562 จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับรางวัล Silver Awar... ม.แม่โจ้ คว้ารางวัล Silver Award งานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ Thailand Research Expo 2017 — มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับรางวัล Silver Award จากงานมหกรรมวิจัยแห่ง...

วช. ร่วมกับ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำ... วช. จับมือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สนับสนุนผลงานวิจัย — วช. ร่วมกับ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ลงนาม MOU เพื่อสนับสนุนและผล...

พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ... ภาพข่าว: วช. ลงนามบักทึกความร่วมมือ MOU กับ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น — พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมม...