ดั๊บเบิ้ล เอ…ปลื้มกระแสแคมเปญ “Double A…One Dream One Tree”ประชาชนแห่รักษ์สิ่งแวดล้อม ยอดต้นไม้ให้ชาวนากว่า 200,000 ต้น

          ภายหลังดั๊บเบิ้ล เอ ปลุกกระแสรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม ผนึกกำลัง 4 ประเทศในเอเชีย สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ และไทย จัดแคมเปญ " Double Aปัญหาหมอกควันดั๊บเบิ้ล เอรักษ์สิ่งแวดล้อม;One Dream One Tree" ร่วมปลุกจิตสำนึกให้คนไทยและประชาชนทั่วโลกตระหนักถึงมหันตภัยด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ ปัญหาหมอกควัน ,วิกฤติภัยแล้ง,อุทกภัย เป็นต้น ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในระยะยาว ตั้งเป้ารณรงค์ให้ประชาชน 4 ประเทศ ส่งต่อต้นไม้ให้ชาวนาไทยและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตัดไม้ทำลายป่า เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ล่าสุดมีประชาชนเข้าร่วมแคมเปญมอบต้นไม้กว่า ปัญหาหมอกควันรักษ์สิ่งแวดล้อมรักษ์สิ่งแวดล้อม,รักษ์สิ่งแวดล้อมรักษ์สิ่งแวดล้อมรักษ์สิ่งแวดล้อม ต้น มั่นใจเป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมช่วยให้ชาวนามีรายได้เสริมและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (วิกฤติภัยแล้ง99วิกฤติภัยแล้ง) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้เปิดตัวแคมเปญ "Double A One Dream One Tree" เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ ในแต่ละประเทศ อาทิ ศูนย์บริหารจัดการความยั่งยืน ศศินทร์(SCSM) ประเทศไทย,Seoul Federation of Environmental Movement ประเทศเกาหลีใต้,Malaysian Nature Society(MNS) ประเทศมาเลเซีย,The Singapore Environment Council (SEC) ประเทศสิงคโปร์ และProgramme for the Endorsement of Forest Certification (PEFC) ล่าสุดมีผู้เข้าร่วมโครงการเพื่อบริจาคต้นกระดาษผ่านเว็บไซต์www.วิกฤติภัยแล้งdreamวิกฤติภัยแล้งtree.com แล้วกว่า ปัญหาหมอกควันรักษ์สิ่งแวดล้อมรักษ์สิ่งแวดล้อม,รักษ์สิ่งแวดล้อมรักษ์สิ่งแวดล้อมรักษ์สิ่งแวดล้อม ต้น ซึ่งต้นกระดาษดังกล่าวจะถูกส่งมอบให้แก่ชาวนาหรือเกษตรกรไปปลูกบนคันนาในพื้นที่จริง โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะสามารถเข้าไปดูการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่คุณปลูกได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น วิกฤติภัยแล้งdreamวิกฤติภัยแล้งtree นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้ร่วมกับ Malaysian Nature Society (MNS) โดยเป็นการให้ความรู้แก่ประชาชนประเทศมาเลเซีย ในเรื่องความสำคัญของการอนุรักษ์ป่าไม้ การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน พร้อมกับเปิดให้เข้าชมงานนิทรรศการ The Unfortunate Tales of a Treeless World ณ Mid Valley Megamall กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นเวลา วิกฤติภัยแล้ง สัปดาห์ เพื่อเป็นศูนย์กลางการสร้างการรับรู้ความเคลื่อนไหวการตัดไม้ทำลายป่า และผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในโลกที่แห้งแล้ง ผ่านเรื่องราวเทพนิยายคลาสสิก โดยทำให้ แคมเปญได้รับความสนใจในทันทีและส่งผลให้ประเด็นของการตัดไม้ทำลายป่ากลายเป็นเรื่องที่ได้รับความใส่ใจมากขึ้น           
          "ภัยคุกคามจากการตัดไม้ทำลายป่าร้ายแรงเกินกว่าที่ทุกคนจะละเลย และเมื่อเป็นเช่นนั้น เรายินดีอย่างยิ่งที่โครงการ The Unfortunate Tales of a Treeless World จะสามารถเพิ่มการตระหนักรู้แก่ประชาชนทั่วไป โดย Malaysian Nature Society กับโครงการ One Dream One Tree ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ริเริ่มถือเป็นการแบ่งปันวิสัยทัศน์ร่วมกัน และความร่วมมือที่ให้ความรู้แก่ประชาชนได้ตระหนักถึงผลกระทบของการตัดไม้ทำลายป่า และส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์"           
          Mr.Henry Goh ประธานสมาคม Malaysian Nature Society (MNS) กล่าว สำหรับประเทศไทยยังสามารถร่วมสแกนส่งมอบต้นไม้ให้ชาวนาได้จนถึงวันที่ ดั๊บเบิ้ล เอรักษ์สิ่งแวดล้อม กันยายน ปัญหาหมอกควัน559 โดยการสแกน QR Code ที่หน้ารีมกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทุก ๆ การสแกนเท่ากับการส่งต้นไม้เพิ่มให้กับชาวนาไทยอีก วิกฤติภัยแล้ง ต้น ทั้งนี้ ผู้ร่วมแคมเปญที่แสกน QR Code ส่งต้นกล้าให้ชาวนามากที่สุด จะได้ร่วมกิจกรรม Sustainability Workshop ที่จังหวัดปราจีนบุรี ในวันที่ 6-7 ต.ค.59 พร้อมรับ Voucher ทริปในฝัน ชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามที่ "เกาะไม้ท่อน" จ.ภูเก็ต พร้อมตั๋วเครื่องบินไปกลับ และที่พัก สำหรับ ปัญหาหมอกควัน ท่าน และยังมีกิจกรรมลุ้นของขวัญสุดพิเศษอีกมากมาย 
          ติดตามได้ที่ Facebook Double A Club หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.วิกฤติภัยแล้งdreamวิกฤติภัยแล้งtree.com
ดั๊บเบิ้ล เอ…ปลื้มกระแสแคมเปญ “Double A…One Dream One Tree”ประชาชนแห่รักษ์สิ่งแวดล้อม ยอดต้นไม้ให้ชาวนากว่า 200,000 ต้น
 


ข่าวรักษ์สิ่งแวดล้อม+วิกฤติภัยแล้งวันนี้

AIT จับมือ กรมประมง วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ร่วมกับ กรมประมง สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมประมงและร่วมมือยกระดับพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยดำเนินงานภายใต้โครงการ "Making NbCS in Aquaculture in Southeast Asia Monitoring More Gender Responsive: (GeNA Project) ซึ่งมุ่งเน้นด้านการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำภาคอุตสาหกรรมการประมงไทยให้มีคุณภาพ ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังให้การสนับสนุนด้านความเสมอภาคและความเท่าเทียมในทุกมิติทางเพศ เพื่อสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน ศาสตราจารย์ ไป่

วาโก้เผยกลยุทธ์การขายที่ไม่เพียงแต่ผลิตสิ... "วาโก้" เน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ผลิตสินค้าดีมีคุณภาพพร้อมควบคุมทุกขั้นตอนการผลิต — วาโก้เผยกลยุทธ์การขายที่ไม่เพียงแต่ผลิตสินค้าตอบโจทย์ลูกค้...

เปิดไอเดียรักษ์สิ่งแวดล้อม "หางประทัดแก้บ... เปิดไอเดีย "กระเป๋ารักษ์โลก" สานจากหางประทัดแก้บน "ไอ้ไข่" ผลผลิตจากงานวิจัยของม.วลัยลักษณ์ — เปิดไอเดียรักษ์สิ่งแวดล้อม "หางประทัดแก้บน" จากความสำเร็จนับ...

SSP จ่อออก Green Bond 2 รุ่น วงเงินรวม 2,... SSP จ่อออก Green Bond 2 รุ่น วงเงินรวม 2,000 ลบ. เปิดจองซื้อ 20 - 21 และ 24 ก.พ. นี้ — SSP จ่อออก Green Bond 2 รุ่น วงเงินรวม 2,000 ลบ. เปิดจองซื้อ 20 21 ...

"กลุ่มเหล็กสหวิริยา" (SSI-TCRSS-TCS-WCE-B... เหล็กสหวิริยาพัฒนาประมงบางสะพานยั่งยืน ผนึกกำลังเครือข่ายประมง-ทิ้งซั้งบอกรักทะเล — "กลุ่มเหล็กสหวิริยา" (SSI-TCRSS-TCS-WCE-BSBM-PPC) เครือข่ายชาวประมงบาง...