"คอตตอน ยูเอสเอ" เดินหน้าขยายจำนวนไลเซนซีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด "บริษัท แอสปายด์ คอนซูมเมอร์ เอนเทอไพรซ์ จำกัด" ผู้ผลิตผ้าอนามัยระดับพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ "ควิเซนต์" (Quiescent) ได้เข้าร่วมเป็นไลเซนซีในกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัย ชูจุดเด่นผลิตจากเส้นใยฝ้ายสหรัฐอเมริกา 100% แบรนด์แรกในประเทศไทย เล็งเจาะกลุ่มผู้ใช้ระดับพรีเมียมที่มีกำลังซื้อ และมองหาทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า ตั้งเป้ายอดขาย 3 ล้านบาทภายในสิ้นปี
นายไกรภพ แพ่งสภา ตัวแทนคอตตอน ยูเอสเอ ในกลุ่มประเทศอาเซียน กล่าวว่า "กลยุทธ์การตลาดของคอตตอน ยูเอสเอ ในปี 2559 นี้คือ ขยายการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง โดยเน้นสื่อสารผ่านคุณลักษณะเด่น 3 ประการของฝ้ายสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ความบริสุทธิ์ของเส้นใย (Purity) คุณภาพที่ดีของเส้นใย (Quality) รวมถึงเป็นผู้ผลิตที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (Responsibility) เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของคอตตอน ยูเอสเอ ว่าเป็นเบรนด์แห่งผลิตภัณฑ์คุณภาพ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคไทยหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากฝ้ายบริสุทธ์ และจาก กลยุทธ์การตลาดดังกล่าว จึงเป็นที่มาของแผนการตลาดเชิงรุกที่มุ่งเพิ่มจำนวนไลเซนซีให้มากขึ้น อีกทั้งขยายกลุ่ม ไลเซนซีที่จากเดิมมีเพียงกลุ่มแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นและแบรนด์เคหะสิ่งทอ โดยได้เพิ่มไลเซนซีใน "กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สิ่งทอ" (Non-Woven) รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงคุณสมบัติอันโดดเด่นของเส้นใยฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาที่สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าได้หลากหลายรูปแบบ"
"ปัจจุบันคอตตอน ยูเอสเอมีไลเซนซีในกลุ่มผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ทั้งหมดจำนวน 46 ราย โดยแบ่งเป็นไลเซนซีกลุ่มแบรนด์จำนวน 35 ราย ซึ่งประกอบไปด้วยแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำหรับเด็ก สุภาพสตรี และสุภาพบุรุษ และเครื่องใช้ภายในบ้าน และกลุ่มโรงงาน 11 ราย ซึ่งประกอบไปด้วยโรงงานปั่นด้าย และโรงงานทอผ้า เป็นต้น ล่าสุดคอตตอน ยูเอสเอ ได้ร่วมมือกับ "บริษัท แอสปายด์ คอนซูมเมอร์ เอนเทอไพรซ์ จำกัด" ผู้ผลิตผ้าอนามัยระดับพรีเมี่ยมภายใต้ แบรนด์ "ควิเซนต์" (Quiescent) เข้าร่วมเป็นไลเซนซีของคอตตอน ยูเอสเอในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สิ่งทอ ซึ่ง ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ นับเป็นสัญญาณที่ดีในการสานต่อเป้าหมายการเพิ่มจำนวนไลเซนซีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สิ่งทอของคอตตอน ยูเอสเอ อีกด้วย"
นางมนัสขวัญชนก ชาญปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสปายด์ คอนซูมเมอร์ เอนเทอไพรซ์ จำกัด ผู้ผลิตผ้าอนามัยแบรนด์ "ควิเซนต์" กล่าวว่า "ผ้าอนามัย ควิเซนต์ สร้างสรรค์ขึ้นมาจากมุมมองของผู้บริโภคอย่างแท้จริง เริ่มจากความตั้งใจของผู้บริโภคคนหนึ่งที่ต้องการผ้าอนามัยที่ไม่ก่อให้เกิดอาการผื่นแพ้ หลังจากประสบการณ์ในการใช้ผ้าอนามัยส่วนใหญ่ที่วางจำหน่ายในตลาด พบว่าเมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน ประกอบกับสภาพอากาศร้อนของเมืองไทย มักจะทำให้เกิดรอยแดงและผื่นแพ้ได้ง่าย เรามองเห็นว่านวัตกรรมในปัจจุบันสามารถนำวัสดุธรรมชาติ คือ ใยฝ้ายบริสุทธ์ มาประยุกต์ใช้แทนวัสดุที่นิยมใช้ในผ้าอนามัยทั่วไปอย่าง Polyethylene film ซึ่งผลิตมาจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นปลายเช่นเดียวกับขวดพลาสติก ขณะที่เส้นใยฝ้ายธรรมชาติมีคุณสมบัติเด่นในเรื่อง ความบริสุทธิ์ของเส้นใยที่ช่วยมอบผิวสัมผัสที่อ่อนโยนแก่ผู้ใช้ การเลือกใช้ฝ้ายธรรมชาติกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องสัมผัส กับจุดบอบบางของผู้หญิง อย่างเช่น ผ้าอนามัย จึงเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างจุดเด่นให้กับ ควิเซนต์ ได้อย่างชัดเจน อาทิ ความสามารถในการระบายอากาศ ที่ทำได้ดีกว่าผ้าอนามัยทั่วไปถึง 1.7 เท่า อีกทั้งยังลดการเสียดสี ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับผู้หญิงที่มีผิวแพ้ง่ายได้อีกด้วย"
ควิเซนต์ เป็นผ้าอนามัยแบรนด์แรกในเมืองไทยที่เลือกใช้เส้นใยฝ้ายสหรัฐอเมริกา 100% จากคอตตอน ยูเอสเอ ในการผลิตเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพดีเยี่ยม สามารถตอบสนองช่องว่างในตลาดของกลุ่มผู้หญิงอายุระหว่าง 18-39 ปี ที่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้นแม้ในบริเวณจุดซ่อนเร้น โดยมีให้เลือก 3 แบบ ในราคา 180-195 บาท ได้แก่ 1) ควิเซนต์ – เฟรช อิน เดอะ มอร์นิ่ง ผ้าอนามัยแบบกลางวัน ขนาดความยาว 240 มิลลิเมตร สำหรับวันมาน้อย 2) ควิเซนต์ – วัน ฟายน์ เดย์ ผ้าอนามัยแบบกลางวัน ขนาดความยาว 280 มิลลิเมตร ที่จะช่วยเติมเต็มความมั่นใจให้กับสาวแอคทีฟในวันมามาก และ 3) ควิเซนต์ – ฟรี ทู ดรีม ผ้าอนามัยแบบกลางคืน ขนาดความยาว 330 มิลลิเมตร ให้สาวๆ ได้พักผ่อนอย่างสบายใจ เตรียมพร้อมโลดแล่น ในเช้าวันใหม่ไปกับกิจกรรมสุดโปรด โดยช่องทางจำหน่ายในปัจจุบัน ได้แก่ เซ็นทรัล ฟู๊ด ฮอล์ และท็อปส์ มาร์เก็ต 21 สาขาในเขตกรุงเทพมหานคร และท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเชียงใหม่, พัทยา บีช และภูเก็ต เฟสติวัล รวมถึงช่องทางจำหน่ายออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.quiescent-life.com โดยทุกยอดซื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นส่วนช่วยสนับสนุน ศิริราชมูลนิธิเพื่อผู้ป่วยยากไร้โรงพยาบาลศิริราช และ/หรือ กองทุนเพื่อซื้อเครื่องมือแพทย์/สร้างตึกโรงพยาบาล"
"ปัจจุบันภาพรวมตลาดผ้าอนามัยในประเทศไทยในปีทีผ่านมามีมูลค่ารวมกว่า 6.1 พันล้านบาทพร้อมด้วยอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งแผนการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ "ควิเซนต์" ทั้งในสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์ ทำให้เราเชื่อมั่นว่าในเซ็กเมนต์เฉพาะอย่างผ้าอนามัยเพื่อสุขภาพของผู้หญิง ซึ่ง "ควิเซนต์" เป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในขณะนี้นั้น จะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อและมองหาสินค้าคุณภาพดี ระดับพรีเมี่ยม โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ราว 3 ล้านบาท ภายในปี 2559 หลังจากออกวางจำหน่ายเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและเพิ่มเป็น 10 ล้านบาทภายในสามปี" นางมนัสขวัญชนก กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit