อย่างไรก็ตาม การขนส่งก๊าซเอ็นจีวีจากพื้นที่ส่วนกลางมายังภาคใต้ตอนล่างด้วยระยะทางที่ไกลกว่า 800 กิโลเมตร และใช้เวลาการขนส่งนานกว่า 25 ชั่วโมง/เที่ยว ทำให้ปริมาณก๊าซเอ็นจีวีที่ลดลงกว่าช่วงปกติ และมีความจำเป็นต้องปิดสถานีบริการฯ 4 แห่งในช่วงวันที่ 20 – 29 สิงหาคม 2559 ประกอบด้วย สถานีบริการเอ็นจีวี ปตท . ทักษิณออยล์ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฏร์ธานี สถานีบริการเอ็นจีวี อรพรรณก๊าซ ทุ่งสง จ. นครศรีธรรมราช สถานีบริการเอ็นจีวี ปตท. สายแก้วปิโตร 1999 ถ.ราษฏร์อุทิศ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สถานีบริการเอ็นจีวี ปตท.จะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา และสถานีบริการอีก 1 แห่ง ในช่วงวันที่ 23 – 29 สิงหาคม 2559 (จำนวน 7 วัน) คือ สถานีบริการเอ็นจีวี ปตท. ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
"ปตท. มีความห่วงใยผู้ใช้รถ จึงได้วางแผนจัดสรรก๊าซเอ็นจีวีให้ผู้ใช้รถให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งนี้เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางในช่วงดังกล่าว ปตท. ใคร่ขอแนะนำให้ผู้ใช้รถยนต์ที่มีเชื้อเพลิง 2 ระบบ (น้ำมันและก๊าซเอ็นจีวี) โปรดพิจารณาเลือกใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง และผู้ที่เดินทางในเส้นทางดังกล่าวโปรดวางแผนการใช้เชื้อเพลิงล่วงหน้า หากบริษัทผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งเจดีเอดำเนินการซ่อมบำรุงแล้วเสร็จ ปตท. จะเร่งจัดส่งก๊าซเอ็นจีวีเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้รถเอ็นจีวีตามปกติโดยเร็วที่สุด" นายสมเกียรติ กล่าวเสริมในตอนท้าย
ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ PTT Contact Center โทร. 1365 หรือศึกษาข้อมูลสถานีบริการได้ที่โมบายแอพพลิเคชั่น PTT Life Station
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit