นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร ผู้ก่อตั้ง บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า "ภายหลังจากที่เพย์ออลได้เปิดดำเนินธุรกิจครบรอบ 1 ปีก็ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งในแง่ของจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น หรือจำนวนผู้ที่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น และยอดขายที่เพิ่มขึ้นตลอด 1 ปีที่ผ่านมาถึงกว่า 200 % หรือประมาณ 250 ล้านบาทจากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนคน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จำนวนสมาชิกที่เข้ามาในระบบอาจสูงเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว
ทั้งนี้จากความสำเร็จดังกล่าว เพย์ออลได้เตรียมแผนรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ด้วยการปรับโครงสร้างภายในองค์กรใหม่ และได้แต่งตั้ง นายสมคิด ลวางกูร ให้เข้ามาเป็นกรรมการบริหาร เนื่องจากได้พิจารณาแล้วว่า นายสมคิดเป็นผู้ที่มีความสามารถ ตลอดจนเป็นนักสร้างแบรนด์มืออาชีพ เป็นบุคคลที่เหมาะสม อีกทั้งยังเคยบริหารสนามบินขนาดใหญ่ และทันสมัยที่สุดในโลกจนประสบความสำเร็จติดระดับ World Record มาแล้วถึง 2 สนามบิน
นอกจากนี้เพย์ออลยังเตรียมขยายการลงทุนเพิ่มเติมในปีนี้อีกประมาณ 100 ล้านบาทโดยแบ่งเป็นงบประมาณในส่วนการพัฒนาระบบการปฏิบัติการและการตลาดประมาณ 60 : 40 ทั้งนี้รวมถึง การขยายพื้นที่สำนักงานและการบริการเพิ่มเป็น 6 เท่าของพื้นที่เดิมที่มีอยู่เดิมประมาณ 500 ตร.เมตร เป็น 3,000 ตร.เมตร ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุม Lobby ในส่วนต้อนรับและการให้บริการ ซึ่งขณะนี้ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยคาดว่าจะเป็นสำนักงานใหม่ ในย่านถนนรัชดาภิเษก รวมถึงการปรับระบบงานโดยใช้ Software เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการแทนคน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น และที่สำคัญในปีนี้ เราได้นำเอา แอพพลิเคชั่น เพย์ออลไปต่อยอดธุรกิจ ด้วยระบบ MLC หรือ (Multilevel Consumer Network Platform ) เข้ามาช่วยในการทำงาน โดยยอดล่าสุดที่กำลังจะปิดในเดือนนี้ เพย์ออลมีสมาชิกที่สร้างรายได้ถึงเดือนละ 1 ล้านบาทแล้วถึง 3 คน และรายได้เดือนละ 100,000 บาท อีกมากกว่า 10 ราย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง ของการนำระบบ MLC เข้ามาใช้ในระบบ ช่วยให้เครือข่ายผู้บริโภคได้รวมกลุ่มกัน และมีความเหนียวแน่นมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันผ่านแอพพลิเคชั่นเพย์ออลแล้ว จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนกลับมา ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด แต้มสะสม และหากสมาชิกได้ใช้บริการแอพพลิเคชั่นของเพย์ออลแล้วบอกต่อ จะได้รับค่าแนะนำ ได้รับแต้มจากค่าใช้จ่ายจากคนที่แนะนำ และได้รับรายได้ตามแผนการตลาดของเพย์ออลอีก 7 ช่องทาง ที่สร้างรายได้จากค่าใช้จ่ายที่ระบบจัดสรรให้มากมาย จนสามารถทำเป็นธุรกิจได้เดือนละเป็นหลักแสนหลักล้าน คือ
1. รายได้จากการสมัครเป็นนักธุรกิจและการใช้จ่ายของตนเอง
2. ค่าแนะนำให้คนอื่นมาใช้ Application
3. รายได้จากค่าใช้จ่ายของคนทุกคนภายใต้องค์กรของเรา
4. ส่วนแบ่ง 20 % จากรายได้ของกลุ่มเครือญาติ ที่ได้จากรายได้ข้อที่ 3
5. รางวัลเกียรติยศ ท่องเที่ยวต่างประเทศ รถยนต์ คอนโด บ้าน ทองคำ
6. รายได้จากทีมโตข้างเดียว เป็นโบนัสพิเศษ
7. โปรโมชั่นแจกรถยนต์ จากการสร้างทีม
นายรัฐภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดแข็งของผู้บริโภคหรือสมาชิกที่ใช้แอพพลิเคชั่นเพย์ออล คือผู้บริโภคสามารถเปลี่ยนรายจ่ายให้เป็นรายรับได้ โดยแผนการตลาดของเพย์ออล ถูกออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้าน MLM ระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ที่ออกแบบมาเพื่อสมาชิกเพย์ออลโดยเฉพาะ โดยแผนดังกล่าวเน้นให้ทำงานง่าย และเกิด Passive income
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยด้าน MLM จากทั่วโลกที่พบว่า ผู้นำส่วนใหญ่ 1 คน จะหาเพชรของตัว เองได้ไม่เกิน 2 คน จึงมีการคิดค้นแผนไบนารี (แผนแบบ 2 ขา) ขึ้นมา หลังจากพบว่าแผนแบบเก่าหรือที่เรียกว่าแผนสแตร์สเต็ป (แผนแบบขั้นบันได) ล้าสมัย และมีผู้ประสบความสำเร็จน้อย รายได้ส่วนใหญ่จะไปรวมอยู่ที่ผู้นำเพียงไม่กี่คน
"แผนการตลาดของเพย์ออล สมาชิกทำงานได้ 2 สายงาน คือซ้ายและขวาเท่านั้น ไม่ว่าใครจะมาภายหลังก็สามารถมีคนในสายงานจำนวนมากได้เป็นพัน เป็นหมื่นในเวลาอันสั้น เพราะคนที่อยู่เหนือกว่า ทั้งหมดถูกแผนการตลาดเน้นให้ช่วยกันโดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่างหากใครมีผู้นำอยู่บนสายงาน 1,000 คน และมีสมาชิกอยู่ฝั่งซ้าย ผู้นำก็จะแนะนำคนลงมาได้ไม่ซ้ายก็ขวาเท่านั้น และหากผู้นำโยนไปซ้ายและขวาอย่างละคน ก็จะได้คนมา 1,000 คนฟรีๆ และจากการสมัครจะได้คนละ 35 พอยท์ เท่ากับ 1,000 คูณด้วย35 จะเท่ากับ 35,000 พอยท์ และหากช่วยเพื่อน ทำอีกฝั่งขึ้นมาทุกๆ 200 พอยท์ ซ้ายและขวาบวกกันจะได้เท่ากับ 800 Pa และจะไม่มีการตัดพอยท์ที่ค้างออก"
นอกจากนี้ นายสมคิด ลวางกูร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการเข้ามาร่วมงานกับเพย์ออลในครั้งนี้ว่า ตนมีความเชื่อมั่นในตัวของทีมงาน และวิสัยทัศน์ของคุณฟิล์ม จากแนวคิดในการทำธุรกิจ ที่สามารถช่วยเหลือคน ให้รายจ่ายที่มีเป็นจำนวนมากของแต่ละคนกลับมาเป็นรายได้ ซึ่งตนถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและสามารถพัฒนาต่อเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นได้ โดยเฉพาะในด้านการบริหาร การจัดการ การนำแอพพลิเคชั่นเพย์ออล ไป Run บน Business Platform MLC ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ล่าสุดที่เราคิดค้นขึ้นมาเป็นรายแรกของโลก เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ของเพย์ออล เลยก็ว่าได้ จึงมั่นใจว่า ระบบ MLC นี้ จะช่วยผลักดันให้เพย์ออลสามารถสร้างรายได้มากถึง 1,000 ล้านบาทภายใน 2 ปีข้างหน้า
จากผลการวิจัยด้านการตลาดจากเอไอบี ที่ระบุว่า ในปี 2558 ที่ผ่านมาการช้อปปิ้งผ่านอุปกรณ์ไร้สายจะสร้างรายได้รวมกันทั่วโลกได้ 163 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 12% ของรายได้จากการขายผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งผลการวิจัยดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของบริษัท ที่มองว่าการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านอุปกรณ์ไร้สายจะมีมูลค่า 31 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2559
ทั้งนี้ นายรัฐภูมิได้กล่าวสรุปเพิ่มเติม ถึงทิศทางการเติบโตในปีนี้ของเพย์ออลว่า " สำหรับเป้าหมายของบริษัทคือการเร่งสร้างแบรนด์แอพพลิเคชั่นเพย์ออลให้เป็นที่รู้จัก และใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นทุกด้านเพื่อให้สมาชิกและผู้ที่เข้ามาใช้บริการได้รับความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้นเพียงนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ หรือกลุ่มสินค้าและบริการที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท โดยปัจจุบัน เพย์ออลมีร้านค้า และบริการที่เข้าร่วมอยู่กว่า 1,000 ร้านค้า ล่าสุดเพย์ออลได้ร่วมกับ ลาซาด้า ( LAZADA ) ซึ่งมีร้านค้าอยู่ในเครืออีกกว่า 1 แสนราย จึงมั่นใจว่าภายใน 2 ปีหน้าแบรนด์เพย์ออล จะสามารถพัฒนาให้มีศักยภาพ แข็งแกร่งทั้งในและระดับสากล"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit