Earth Hour 2016 “พลังคุณ เปลี่ยนโลก”กลับมาอีกครั้งกับการปิดไฟเพื่อส่องแสงให้โลกของเราจากเส้นขอบฟ้าสู่ไทม์ไลน์โลกโซเชียล

17 Mar 2016
เนื่องจากปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ WWF จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันและรณรงค์การเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับโครงการ Earth Hour 2016 ที่จะเฉลิมฉลองร่วมกันในวันเสาร์ที่ 19 มีนาคมนี้ เวลา 20.30-21.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น
Earth Hour 2016 “พลังคุณ เปลี่ยนโลก”กลับมาอีกครั้งกับการปิดไฟเพื่อส่องแสงให้โลกของเราจากเส้นขอบฟ้าสู่ไทม์ไลน์โลกโซเชียล

ปีที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่ก็ทำให้เป็นปีที่นานาประเทศต่างพร้อมใจร่วมมือกันหาทางแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนี้อย่างจริงจังในการประชุมสุดยอด ณ กรุงปารีส ครั้งที่ผ่านมา และด้วยสภาพภูมิอากาศของโลกที่ยังคงแปรปรวนอย่างน่าเป็นห่วงนี้ จึงถึงเวลาของ Earth Hour 2016 ที่จะเปิดโอกาสให้ชาวโลกได้ร่วมแสดงพลังเพื่อวางรากฐานอันมั่นคงแก่ยุคสมัยใหม่และอนาคตที่ดียิ่งกว่าสำหรับดาวเคราะห์ของเรา

"การเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในวันนี้จะเป็นตัวตัดสินว่าสภาพภูมิอากาศในหลายปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร Earth Hour จะเป็นสื่อกลางเพื่อให้คนทุกคนบนโลกได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงพลังในการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของการเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในครั้งนี้ ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม การรณรงค์แบบปฏิสัมพันธ์ และแม้แต่เครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ ด้วย"

นายซิดดาร์ธ ดาส ผู้อำนวยการบริหาร Earth Hour สากล กล่าว

ปี 2559 นี้จะเป็นปีที่สิบที่ Earth Hour ได้ส่องแสง นับตั้งแต่ที่ได้เริ่มโครงการเป็นครั้งแรกในปี 2550 ณ กรุงซิดนีย์ โดยตลอดเก้าปีที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ WWF และ Earth Hour ทั่วโลกต่างก็ได้พยายามรวมพลังขับเคลื่อนในการแรงสนับสนุนและกองทุนในการเข้าถึงแหล่งพลังงานทดแทนใหม่ๆ การคุ้มครองสัตว์ป่าและถิ่นที่อยู่ของพวกมัน การเสริมสร้างสนับสนุนวิถีชีวิตอย่างยั่งยื่น รวมถึงการส่งเสริมการออกกฎหมายและนโยบายเพื่อผลที่ดีต่อสภาพภูมิอากาศของโลกเราเสมอมา

ในปีนี้ Earth Hour ก็จะยังคงเป็นกำลังสำคัญของความพยายามในการเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับสามัญชน ซึ่งรวมถึงการผลักดันคำร้องให้เกิดการใช้พลังงานทดแทน 100 เปอร์เซ็นต์ในสเปน การปกป้องพื้นที่ป่าและความหลากหลายทางชีวภาพในแอฟริกา และให้ความร่วมมือกับรัฐบาล กลุ่มธุรกิจ และชุมชนในการหาทางออกสำหรับวิกฤตการณ์หมอกควันอย่างรุนแรงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการคุ้มครองพื้นที่ป่าพรุและการทำน้ำปาล์มอย่างยั่งยืนและนอกจากการจัดกิจกรรม Earth Hour เพื่อปิดไฟเพื่อส่องแสงให้โลกของเราในพื้นที่สำคัญต่างๆ

แล้ว ผู้สนับสนุนทุกท่านยังสามารถร่วมแสดงจุดยืนของตนบนพื้นที่ส่วนตัวในโลกออนไลน์ได้อีกด้วย โดยการร่วมบริจาคพื้นที่บนเฟซบุ๊กฟีดส์ในการเผยแพร่การรับรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อโลกของเรานี้ ด้วยเพียงการเพิ่มฟิลเตอร์ Earth Hour ลงบนรูปโปรไฟล์ของบัญชีเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ผ่านทาง earthhour.org/climateaction เพื่อแสดงให้เพื่อนและเหล่าผู้ติดตามของคุณได้เห็นง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก

"มันไม่มีขอบเขตใดๆ สำหรับโซเชียลมีเดีย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเองก็เช่นกัน" นายดาส กล่าวเสริม "เพียงการกระทำง่ายๆ บนโซเชียลมีเดีย จะเป็นการแสดงจุดยืนที่ทรงพลังและสามารถกระตุ้นให้เพื่อนและชุมชนออนไลน์สามารถเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาระดับโลกนี้ได้"

สำหรับในประเทศไทยนั้น WWF-ประเทศไทยขอเชิญชวนทุกคนแสดงพลังเปลี่ยนโลก โดยเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงทีละนิดในทุกๆ วัน เพื่อให้โลกของเรามีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นผ่านการแชร์ภาพโพสต์ "สวัสดี...ภารกิจ 7 วันเพื่อโลก" (7 Days Challenge) ที่ทุกคนทำได้ อาทิ การเชิญชวนให้ปิดไฟที่ไม่ใช้, เชิญชวนปลูกต้นไม้ หรือการพกแก้ว พกถุง ในการจับจ่ายซื้อสินค้า

นับตั้งแต่ปี 2550 Earth Hour ได้ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นให้กลุ่มธุรกิจ องค์กร รัฐบาล และร้อยกว่าล้านคนในเมืองกว่า 7,000 แห่ง ในกว่า 170 ประเทศและเขตการปกครองต่างๆ ทั่วโลก ในการร่วมกันลงมือปฏิบัติเพื่ออนาคตอันยั่งยืนของโลกของเรามาอย่างต่อเนื่อง

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit