เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่
กลุ่มบริษัทอาร์แอลจี(รักลูก กรุ๊ป) น.ส.สุภาวดี หาญ
เมธี ประธาน
สถาบันอาร์แอลจี กล่าวใน
งานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ
หนังสือและการอ่าน เครื่องมือพัฒนาถึงการพัฒนา
ทักษะสมอง Executive Functions(EF) จัดโดย
รักลูกกรุ๊ป ร่วมกับแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน และสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ว่า สถาบันอาร์แอลจี ได้ศึกษาและพัฒนาเรื่องทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จ มาตั้งแต่ปี 2557 โดยมีองค์กรพันธมิตร คือ ศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้รวบรวมค้นคว้าวิจัยข้อมูล ซึ่งทางอาร์แอลจี ได้นำความรู้เรื่อง EF ไปเผยแพร่เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติ ค่านิยมและแนวทางการเลี้ยงดูพัฒนา และการจัดการเรียนการสอนแก่เด็กไทย เพื่อให้เด็กไทยเข้มแข็ง เป็นผู้ที่สามารถนำพาตนเองและสังคมประสบความสำเร็จดำรงชีวิตรอดอย่างมี คุณภาพในโลกศตวรรษที่ 21 ซึ่งตัวอย่างของการนำทักษะ EF ไปพัฒนานั้น เห็นชัดในการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ซึ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านป้องกันยาเสพติดด้วยหนังสือนิทานชุด "อ่านอุ่นรัก" ซึ่งใช้เป็นเครื่องมือการเรียนการสอนในกลุ่มครูและนักเรียน โดยจากการเก็บข้อมูลในระยะแรก พบว่าเด็กๆ ได้รับทักษะ EF
นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ปัจจุบันสถิติของเยาวชนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีอายุลดลงเรื่อยๆ เด็กมีการผสมยาเสพเองโดยดูฤทธิ์ของยาแต่ละตัวผ่านโซเชียลมีเดีย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ป.ป.ส.ยกระดับการป้องกันยาเสพติด โดยใช้เครื่องมือ EF เข้ามาช่วย และเริ่มปลูกฝัง EF ในเด็กตั้งแต่อายุ 0-6 ปี เพื่อให้เด็กฝึกการยับยั้งช่างใจ รู้จักคิด ซึ่งกระบวนการนี้อาจต้องใช้วลาในการประเมินถึง 5 ปี โดยปี 2557 ได้ริเริ่มนำนิทาน "อ่านอุ่นรัก" ส่งให้โรงเรียนเตรียมอนุบาลกว่า 53,000 แห่งทั่วประเทศ และปี2558 จะสร้างเครื่องมือของเล่นให้สอดคล้องกับนิทาน เพื่อเสริมสร้างพัฒนาภูมิคุ้มกันในเด็กไม่ให้ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด เชื่อว่าจะได้ผลหากปลูกฝังเด็กด้วยสิ่งที่ดีมาตลอด เด็กก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต