นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นที่ระลึกและเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีพระราชดำริเรื่องการอนุรักษ์ช้างป่า และปลูกจิตสำนึกให้เกิดความรัก รวมทั้งการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้าง ตลอดจนความเชื่อที่ยึดถือกันมายาวนานและความผูกพันกับวิถีชีวิตสังคมไทย นั่นคือ ช้างไทยเป็นสัญลักษณ์ของความมีพลังอำนาจ บารมี เป็นเครื่องหมายของความดีและความชอบ ข้อสำคัญเป็นสัตว์คู่บุญคู่บารมีแห่งกษัตริย์ไทย
ดังนั้น จากความร่วมมือระหว่างกรมธนารักษ์กับโรงกษาปณ์ประเทศอังกฤษ ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและทักษะฝีมือการผลิตเหรียญกษาปณ์ที่ดำเนินการต่อเนื่องด้วยดีมาโดยตลอด จึงได้ทำข้อตกลงร่วมกันจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกช้างไทย ในรูปแบบช้างไทยคู่แม่-ลูก ที่สื่อให้เห็นอย่างชัดเจนกับความเชื่อและความศรัทธาเหล่านั้น รวมไปถึงการกระตุ้นให้เกิดสายใยรักของแม่ที่มีต่อลูก
อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวต่อไปว่า เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกช้างไทยได้จัดทำเป็น 3 ชนิด คือ (1) ชนิดทองคำขัดเงา ราคาหน้าเหรียญ 4,000 บาท ผลิตจากทองคำ 99.9 น้ำหนัก 31.21 กรัม เส้นผ่าศูนย์กลาง 32.69 มิลลิเมตร ผลิตเพียง 1,000 เหรียญเท่านั้น (2) ชนิดทองคำขัดเงา ราคาหน้าเหรียญ 2,000 บาท
ผลิตจากทองคำ 99.9 น้ำหนัก 7.8 กรัม เส้นผ่าศูนย์กลาง 22 มิลลิเมตร จำนวนผลิต 2,000 เหรียญ และ (3) ชนิดเงินขัดเงา ราคาหน้าเหรียญ 200 บาท ผลิตจากเงินแท้ 99.9 น้ำหนัก 31.61 กรัม เส้นผ่าศูนย์กลาง 31.21 มิลลิเมตร จำนวนผลิต 5,000 เหรียญ
สำหรับลวดลายของเหรียญทั้ง 3 ชนิด ด้านหน้ากลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ผินพระพักตร์ทางซ้าย ทรงฉลองพระองค์ชุดสากล ภายในวงรอบขอบเหรียญมีข้อความว่า "His Majesty King Bhumibol Adulyadej" ด้านหลังกลางเหรียญมีรูปช้าง 2 ตัว เบื้องบนรูปช้างมีการนำเทคนิคภาพแฝง (Latent Image) มาใช้ ทำให้เกิดรูปนกวายุภักษ์สลับกับรูปอักษร RTM เพื่อสื่อให้เห็นถึงสัญลักษณ์ของโรงกษาปณ์ไทย ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า "Thai Wildlife : Elephant" เบื้องล่างมีข้อความบอกราคาว่า "4,000 Baht" "2,000 Baht" และ "200 Baht" ตามลำดับ และมีข้อความว่า "Thailand 2015"
เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกทั้ง 3 ชนิด จะนำไปเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติได้เห็นในเวทีระดับโลกซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของผู้ผลิตและผู้ค้าเหรียญกษาปณ์ชั้นนำจากทั่วโลกในงานนิทรรศการ "World Money Fair 2016" ระหว่างวันที่ 1 – 9 กุมภาพันธ์ 2559 ณ ประเทศเยอรมนี ช่วงเวลาการจำหน่ายจะเปิดจำหน่ายพร้อมกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวในตอนท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit