บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดพิธีลงนาม MOU ร่วมกับ 17 สถาบันการเงิน โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (Micro Entrepreneurs) ระยะที่ 2 หนุนพ่อค้า แม่ค้า ตลาดสด แผงลอย เสริมสภาพคล่องธุรกิจ 3 ธนาคาร ออมสิน- ทิสโก้-ไทยเครดิต เพื่อรายย่อย พร้อมปล่อยสินเชื่อ เม.ย. นี้
นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า วันนี้ (31 มีนาคม 2559) บสย. ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (Micro Entrepreneurs) ระยะที่ 2 กับสถาบันการเงิน 17 แห่ง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว เพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อ และลดปัญหาการกู้เงินนอกระบบ
เบื้องต้นมีสถาบันการเงิน 3 แห่ง ที่มีความพร้อมในการรับคำขอค้ำประกันสินเชื่อภายในเดือนเมษายนนี้ ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ส่วนธนาคารอื่นๆ จะทยอยเปิดตัวสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยหลังจากนี้
จุดเด่นของโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย ระยะที่ 2 คือ มีวงเงินให้ความช่วยเหลือที่เพิ่มขึ้นจาก 5,000 ล้านบาท เป็น 13,500 ล้านบาท ทำให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2560 ซึ่งจะทำสถาบันการเงินต่างๆ มีเวลาในการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยร่วมกันกับ บสย.
อนึ่ง โครงการนี้มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีทรัพย์สินถาวร (ไม่รวมที่ดิน) ไม่เกิน 5 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระจายให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยได้อย่างทั่วถึง โดย บสย. สามารถค้ำประกันได้เต็ม 100% ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการไม่ต้องหาหลักทรัพย์ หรือบุคคลมาค้ำประกันต่อธนาคาร
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดภาระของผู้ประกอบการรายย่อย ทางรัฐบาลได้เป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อแทนผู้ประกอบการในปีแรก ส่วนปีถัดไปคิดค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 1-3% โดย บสย. จะให้การค้ำประกันต่อรายสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท มีระยะเวลาการค้ำประกันสูงสุด 10 ปี ความรับผิดในการจ่ายค่าประกันชดเชยอยู่ที่ 30-50% ขึ้นอยู่กับค่าธรรมเนียมค้ำประกัน
สำหรับโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย ระยะที่ 2 นี้ มีเป้าหมายหลักที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่มีการทำธุรกิจ กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ตลาดสด แผงลอย ร้านขายของชำ ร้านตัดผม ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น เพื่อเสริมสภาพคล่อง แก้ปัญหาการพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ โดยสามารถขอให้ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อผ่านโครงการนี้เพื่อไปชำระหนี้นอกระบบได้ ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องทางการเงินดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ดีขึ้น
โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย ระยะที่ 2 ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ในวงเงินค้ำประกัน 13,500 ล้านบาท มีระยะเวลาสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 โดย บสย. คาดว่าจะสามารถช่วยผู้ประกอบการรายย่อยได้มากถึง 135,000 ราย
ทั้งนี้ โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย ระยะที่ 1 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อสิ้นปี 2558 บสย. อนุมัติค้ำประกันสินเชื่อเต็มวงเงิน 5,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยเป็นจำนวนถึง 49,600 ราย ผ่าน 5 ธนาคาร คือ ธนาคารออมสิน, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน), ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)