นายธรรมยศ ศรีช่วย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า ประเทศไทยมีการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว 36-37% โดยอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานมาก ได้แก่ อุตสาหกรรมเคมี และอาหาร ซึ่งเป็นกลุ่มโรงงานหรืออาคารขนาดใหญ่ หน่วยงานเหล่านี้จึงต้องปฎิบัติตามกฎหมายและส่งรายงานการจัดการพลังงานให้กับ พพ.ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี โดย พพ. จะจัดส่งผู้เชี่ยวชาญไปถ่ายทอดองค์ความรู้รวมถึงการให้คำแนะนำต่าง ๆ พร้อมตั้งเป้าหมายลดใช้พลังงานในอีก 20 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2579) ลง 30%
"การจัดอบรมผู้ตรวจสอบด้านพลังงานเป็นรูปแบบหนึ่งในการจัดการพลังงาน โดยปีนี้เป็นปีแรก ๆ ที่กระทรวงฯ กำหนดให้รายงานดังกล่าวต้องได้รับการรับรองจากผู้ตรวจสอบพลังงานที่เป็นวิศวกรที่มีใบรับรองอนุญาตและผ่านการอบรมตามหลักสูตรจาก พพ. ซึ่งถ้าทุกบริษัทให้ความสำคัญ จะทำให้การจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากลได้เป็นอย่างดี " นายธรรมยศ กล่าวเพิ่มเติมนายจารุบุตร เกิดอุดม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟได้ให้ความสำคัญกับงานด้านพลังงานตลอดมา โดยมีนโยบายรณรงค์ประหยัดพลังงานเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานตั้งแต่ ปี 2547 มีเป้าหมายลดการใช้พลังงานร้อยละ 20 ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเป็นกฎหมายบังคับใช้เพื่อกำกับ ดูแล และส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรมและพาณิชย์ หรือที่เรียกตามกฎหมายว่า "กลุ่มโรงงานควบคุม/อาคารควบคุม"โดยบริษัทฯ มีหน้าที่แต่งตั้งผู้รับผิดชอบด้านพลังงานประจำหน่วยงาน พร้อมนำระบบการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอนไปปฏิบัติ รวมถึงจัดให้มีการตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงานก่อนส่งรายงานการจัดการพลังงานประจำปีให้ พพ. ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี
"ปัจจุบันซีพีเอฟมีโรงงานและอาคารควบคุม 88 หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ 80 ของปริมาณการใช้พลังงานทั้งหมด และมีบุคลากรด้านพลังงานที่มีความรู้ความสามารถที่จะพัฒนาให้เป็นผู้ตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงานตามกฎหมาย จึงร่วมกับ พพ. จัดอบรมบุคลากรด้านพลังงานของบริษัทฯ ในทุกหน่วยธุรกิจทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15-19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอคองคอร์ด กรุงเทพฯ นอกจากพนักงานแล้ว บริษัทฯ ยังได้รับใบอนุญาตตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงานจำนวน 2 ใบอนุญาตอีกด้วย โดยในปี 2559 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการใช้พลังงานรวมต่อตันการผลิตลดลงร้อยละ 10 และการใช้พลังงานไฟฟ้าต่อตันการผลิตลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปี 2558 สอดคล้องกับการรายงานเป้าหมายระดับสากล GRI-4 (Global Reporting Initiative)"นายจารุบุตร กล่าวเสริม
ซีพีเอฟมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน มีการดำเนินโครงการด้านการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อม และพลังงานได้อย่างยั่งยืน.