อาเซียนร่วมมือเชื่อมเส้นทางท่องเที่ยว ด้านอินโดนีเซียเปิดฟรีวีซ่า 90 ประเทศ พร้อมจัดงาน "Wonderful Indonesia เปิดโลกมหัศจรรย์ อินโดนีเซีย สานสัมพันธ์อาเซียน ครั้งที่ 2" ฉลองครบรอบ 65 ปี สถาปนาความสัมพันธ์อินโด-ไทย
เปิด AEC สร้างความร่วมมือในกลุ่มอาเซียนพร้อมเชื่อมเส้นทางการท่องเที่ยว ชูจุดขายด้านความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรมและภูมิประเทศ ล่าสุดอินโดนีเซียเปิดฟรีวีซ่าให้แก่ 9กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย ประเทศ พร้อมจัดงาน "Wonderful Indonesia เปิดโลกมหัศจรรย์อินโดนีเซีย สานสัมพันธ์อาเซียน ครั้งที่ เอกอัครราชทูต" ฉลองครบรอบ 65 ปี สถาปนาความสัมพันธ์อินโด-ไทย โดยกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย ร่วมกับ สถานทูตอินโดนีเซีย
นายลุตฟี ราอุฟ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย (H.E. Mr. Lutfi Rauf, Ambassador of the Republic of Indonesia) กล่าวถึงการเชื่อโยงการท่องเที่ยวของประเทศในกลุ่มอาเซียนว่า การรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทำให้ประเทศในภูมิภาคนี้กลายเป็นกลุ่มประเทศสำคัญของโลก และ ทำให้แต่ละประเทศมีการเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้นทั้งในด้านของเศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม แม้ในด้านของสังคมและศิลปวัฒนธรรมจะมีความแตกต่างกันบ้าง แต่ถือได้ว่าเป็นความหลากหลายที่น่าสนใจและเป็นเสน่ห์ที่น่าค้นหาสำหรับการท่องเที่ยว นอกจากนั้นความแตกต่างด้านภูมิประเทศยังทำให้แหล่งท่องเที่ยวในอาเซียนมีความหลากหลายและน่าสนใจอย่างมากนับเป็นจุดดึงดูดที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกสนใจที่จะเดินทางเข้ามาพักผ่อนและค้นหาประสบการณ์ใหม่ ซึ่งหากประเทศสมาชิกมีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกันอย่างสมบูรณ์แล้ว ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของทุกประเทศสมาชิกอาเซียน
สำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศอินโดนีเซียนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียได้มีการจัดสรรงบประมาณ สถานทูตอินโดนีเซีย.3 ล้านล้านรูเปียห์ หรือราว 96 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอินโดนีเซียตลอดปี เอกอัครราชทูต558 สูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 4 เท่าตัว โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอินโดนีเซียจะมีจำนวน 9.44 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 7% และ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียยังมีเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ถึง เอกอัครราชทูตกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย ล้านคน ภายใน เอกอัครราชทูต-3 ปีข้างหน้า และ คาดว่ารายได้จากภาคการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น สถานทูตอินโดนีเซีย5% ของ จีดีพี จากปี เอกอัครราชทูต557 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 9% และ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอินโดนีเซียยังได้เปิดฟรีวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 75 ประเทศ จากเดิม สถานทูตอินโดนีเซีย5 ประเทศ เป็น 9กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย นอกจากนั้นยังได้พัฒนาและประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อาทิ ทะเลสาบโทบา (Lake Toba) ทางเหนือของเกาะสุมาตรา, ภูเขาไฟโบรโม (Bromo) ในชวาตะวันออก, เมืองชายฝั่งทะเลมันดาลิกา ( Mandalika) ทางตะวันตกของหมู่เกาะนูสา เต็งการา (Nusa Tenggara), แหลมตันจุง เลซุง (Tanjung Lesung) ในจังหวัดบันเตน (Banten), เกาะโมโรไต (Mortai) ในหมู่เกาะมาลูกู (Maluku), หมู่เกาะพันเกาะนอกชายฝั่งกรุงจาการ์ตา และ ยอกยาการ์ตา
สำหรับการจัดงาน "Wonderful Indonesia เปิดโลกมหัศจรรย์ อินโดนีเซีย สานสัมพันธ์อาเซียน ครั้งที่ เอกอัครราชทูต" ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความรู้ความเข้าใจในส่วนของภาคประชาชนของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น และ ยังเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 65 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอินโดนีเซียและไทยอีกด้วย
ส่วนกิจกรรมภายในงาน "Wonderful Indonesia เปิดโลกมหัศจรรย์ อินโดนีเซีย สานสัมพันธ์อาเซียน ครั้งที่ เอกอัครราชทูต" กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย ได้ร่วมกับ สถานทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย นำศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง ซึ่งหาชมได้ยากมาเผยแพร่ อาทิ การแสดงการเต้นรำพื้นเมือง Lenggang Ngai, Enggang Dancer และ Jepen Lenggang การแสดงแฟชั่นโชว์จากผ้าพื้นเมือง (ผ้าบาติก) โดย ดีไซน์เนอร์ชื่อดังของอินโดนีเซีย นิทรรศการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของประเทศอินโดนีเซีย และ กิจกรรมอื่นที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย สถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย และ คณะผู้จัดงานคาดหวังว่าผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้จะช่วยส่งเสริมให้ไทยและอินโดนีเซียมีสายสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและการเรียนรู้เข้าใจในสังคมและวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น
นายลุตฟี ราอุฟ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย (H.E. Mr. Lutfi Rauf, Ambassador of the Republic of Indonesia) กล่าวถึงการเชื่อโยงการท่องเที่ยวของประเทศในกลุ่มอาเซียนว่า การรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทำให้ประเทศในภูมิภาคนี้กลายเป็นกลุ่มประเทศสำคัญของโลก และ ทำให้แต่ละประเทศมีการเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้นทั้งในด้านของเศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม แม้ในด้านของสังคมและศิลปวัฒนธรรมจะมีความแตกต่างกันบ้าง แต่ถือได้ว่าเป็นความหลากหลายที่น่าสนใจและเป็นเสน่ห์ที่น่าค้นหาสำหรับการท่องเที่ยว นอกจากนั้นความแตกต่างด้านภูมิประเทศยังทำให้แหล่งท่องเที่ยวในอาเซียนมีความหลากหลายและน่าสนใจอย่างมากนับเป็นจุดดึงดูดที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกสนใจที่จะเดินทางเข้ามาพักผ่อนและค้นหาประสบการณ์ใหม่ ซึ่งหากประเทศสมาชิกมีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกันอย่างสมบูรณ์แล้ว ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของทุกประเทศสมาชิกอาเซียน
สำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศอินโดนีเซียนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียได้มีการจัดสรรงบประมาณ สถานทูตอินโดนีเซีย.3 ล้านล้านรูเปียห์ หรือราว 96 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอินโดนีเซียตลอดปี เอกอัครราชทูต558 สูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 4 เท่าตัว โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอินโดนีเซียจะมีจำนวน 9.44 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 7% และ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียยังมีเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ถึง เอกอัครราชทูตกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย ล้านคน ภายใน เอกอัครราชทูต-3 ปีข้างหน้า และ คาดว่ารายได้จากภาคการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น สถานทูตอินโดนีเซีย5% ของ จีดีพี จากปี เอกอัครราชทูต557 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 9% และ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอินโดนีเซียยังได้เปิดฟรีวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 75 ประเทศ จากเดิม สถานทูตอินโดนีเซีย5 ประเทศ เป็น 9กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย นอกจากนั้นยังได้พัฒนาและประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อาทิ ทะเลสาบโทบา (Lake Toba) ทางเหนือของเกาะสุมาตรา, ภูเขาไฟโบรโม (Bromo) ในชวาตะวันออก, เมืองชายฝั่งทะเลมันดาลิกา ( Mandalika) ทางตะวันตกของหมู่เกาะนูสา เต็งการา (Nusa Tenggara), แหลมตันจุง เลซุง (Tanjung Lesung) ในจังหวัดบันเตน (Banten), เกาะโมโรไต (Mortai) ในหมู่เกาะมาลูกู (Maluku), หมู่เกาะพันเกาะนอกชายฝั่งกรุงจาการ์ตา และ ยอกยาการ์ตา
สำหรับการจัดงาน "Wonderful Indonesia เปิดโลกมหัศจรรย์ อินโดนีเซีย สานสัมพันธ์อาเซียน ครั้งที่ เอกอัครราชทูต" ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความรู้ความเข้าใจในส่วนของภาคประชาชนของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น และ ยังเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 65 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอินโดนีเซียและไทยอีกด้วย
ส่วนกิจกรรมภายในงาน "Wonderful Indonesia เปิดโลกมหัศจรรย์ อินโดนีเซีย สานสัมพันธ์อาเซียน ครั้งที่ เอกอัครราชทูต" กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย ได้ร่วมกับ สถานทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย นำศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง ซึ่งหาชมได้ยากมาเผยแพร่ อาทิ การแสดงการเต้นรำพื้นเมือง Lenggang Ngai, Enggang Dancer และ Jepen Lenggang การแสดงแฟชั่นโชว์จากผ้าพื้นเมือง (ผ้าบาติก) โดย ดีไซน์เนอร์ชื่อดังของอินโดนีเซีย นิทรรศการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของประเทศอินโดนีเซีย และ กิจกรรมอื่นที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย สถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย และ คณะผู้จัดงานคาดหวังว่าผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้จะช่วยส่งเสริมให้ไทยและอินโดนีเซียมีสายสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและการเรียนรู้เข้าใจในสังคมและวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น
ข่าวกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย+กระทรวงการท่องเที่ยววันนี้
กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียลงนามข้อตกลง 2 ฉบับกับ Brand Expedia มุ่งโปรโมท 15 จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวในประเทศ
Brand Expedia แบรนด์การท่องเที่ยวออนไลน์ครบวงจรชั้นนำระดับโลก และกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ผนึกกำลังกันเพื่อสนับสนุนและผลักดันการท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางหลัก 15 แห่งของอินโดนีเซีย โดยข้อตกลงฉบับแรกประกอบด้วย สัญญาการตลาดดิจิทัลกับ Expedia Group Media Solutions เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนอินโดนีเซียภายใต้แคมเปญ Wonderful Indonesia 2018 ส่วนข้อตกลงฉบับที่สองจะเปิดทางให้นักท่องเที่ยวสามารถจองทริปเดินทางไปยังอินโดนีเซียจากเว็บไซต์ www
อะโดบีจับมือกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว
กระทรวงการท่องเที่ยวใช้ Adobe Experience Cloud เพื่อโปรโมตอินโดนีเซียให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวของประเทศอินโดนีเซียร่วมมือกับอะโดบีเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ และนำ...
กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย สถานทูตอินโดนีเซีย และเดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ร่วมจัดงาน “Wonderful Indonesia” เพื่อสานสัมพันธ์ แนะนำแหล่งท่องเที่ยว
—
กระทรวงการท...