สศอ. ชี้ทิศทางอุตสาหกรรมไทย ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ( GDP) ของภาคอุตสาหกรรมปีนี้ ยังคงอัตราการเติบโตในเกณฑ์ อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ถึง 3% เป็นผลจากปัจจัยบวกยังมีแรงหนุนดี แต่ยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจากภายในและภายนอกประเทศอย่างใกล้ชิด
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า จากที่ในปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย558 ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาในหลายๆ ด้านทั้งจากภายในประเทศและจากต่างประเทศ เช่น ปัญหาการส่งออกที่หดตัว ปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีน และราคาน้ำมันที่ผันผวน เป็นต้น อย่างไรก็ตามคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของภาคอุตสาหกรรมในปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย558 ยังสามารถขยายตัวได้ร้อยละ อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ถึง 3 โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการปรับตัวดีขึ้นของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ การลงทุนที่ขยายตัวสูงขึ้นจากการเร่งรัดอนุมัติส่งเสริมการลงทุน การเร่งการใช้จ่ายและดำเนินโครงการลงทุนที่สำคัญของภาครัฐ การเริ่มกลับมาขยายตัวของการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในตลาดต่างประเทศ และการลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ ลดแรงกดดันด้านราคาและเพิ่มอำนาจซื้อ
สศอ. ยังคงประมาณการการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมตามที่ได้คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปี ล่าสุดตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของภาคอุตสาหกรรมไตรมาสแรกอยู่ที่อัตราร้อยละ อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย.3 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังอยู่ในกรอบที่ประมาณการไว้ และคาดว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3 ถึง 4 โดยการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเกิดจากการขยายตัวในอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์เคมี ปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์แก้ว ซีเมนต์ คอนกรีต กระเบื้อง และเซรามิค เหล็ก และสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ส่วนการขยายตัวของอุตสาหกรรมต่างๆ มีดังนี้
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม คาดว่าขยายตัวได้ร้อยละ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม.86 ถึง ทิศทางอุตสาหกรรมไทย.6ทิศทางอุตสาหกรรมไทย ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศที่เริ่มฟื้นตัว และสถานการณ์บ้านเมืองที่สงบ ทำให้มีการบริโภคและท่องเที่ยวมากขึ้น แต่มีปัจจัยที่ต้องพิจารณา คือ การผลิตกุ้ง ว่าจะสามารถฟื้นตัวจากโรคกุ้งตายด่วนได้หรือไม่ และการพิจารณาปัญหาแรงงานผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมประมงจะส่งผลต่อการระงับ/ลดระดับการค้าของไทยจาก EU และสหรัฐฯ
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน คาดว่าขยายตัวได้ร้อยละ ทิศทางอุตสาหกรรมไทย.48 ถึง อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย.34 จากตลาดส่งออกเป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจากการ Allocate การผลิตจากบริษัทแม่ แต่สำหรับตลาดภายในประเทศ อาจเติบโตจากปีก่อนเพียงเล็กน้อย
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าขยายตัวได้ร้อยละ ทิศทางอุตสาหกรรมไทย.67 ถึง 3.5อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย จากแนวโน้มการส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ประมาณร้อยละ 3 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า เช่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดในประเทศ ค่อนข้างทรงตัวตามกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เคมี คาดว่าขยายตัวได้ร้อยละ ทิศทางอุตสาหกรรมไทย.39 ถึง 3.64 จากความชัดเจนของการลงทุนในภาครัฐ และผลการเร่งรัดอนุมัติโครงการส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย557 ซึ่งคาดว่า จะเริ่มมีการดําเนินการโครงการในปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย558
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอุตสาหกรรมปิโตรเลียมคาดว่าขยายตัวได้ร้อยละ ทิศทางอุตสาหกรรมไทย.7ทิศทางอุตสาหกรรมไทย ถึง 3.ทิศทางอุตสาหกรรมไทย8 จากต้นทุนทางด้านพลังงานที่ลดต่ำลงทำให้มีความต้องการใช้มากขึ้น รวมถึงการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนมีคาดว่าจะมีการขยายตัวมากขึ้น
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์แก้ว ซีเมนต์ คอนกรีต กระเบื้อง และเซรามิคคาดว่าขยายตัวได้ร้อยละ 3.สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม6 ถึง 4.67 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เช่น รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จะทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาขยายการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมเซรามิค ซีเมนต์ คอนกรีต กระเบื้อง ขยายตัวไปในทิศทางเดียวกัน
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอุตสาหกรรมเหล็กคาดว่าขยายตัวได้ร้อยละ 4.37 ถึง 7.อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย6 จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มคาดว่าขยายตัวได้ร้อยละ ทิศทางอุตสาหกรรมไทย.ทิศทางอุตสาหกรรมไทยอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ถึง อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย.46 จากการขยายตัวของความต้องการสินค้าและวัตถุดิบของประเทศคู่ค้า สำหรับตลาดภายในประเทศขยายตัวตามชุดกีฬาที่ผลิตจากผ้าไนลอนเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามมีปัจจัยที่ต้องระวัง คือการที่จีนและไต้หวันเข้าไปลงทุนสิ่งทอต้นน้ำในเวียดนาม คาดว่าเมื่อมีการผลิตเต็มรูปแบบ ความต้องการเส้นด้าย และผ้าผืนจากไทยจะลดลง เนื่องจากคาดว่าราคาสินค้าจากเวียดนามจะถูกกว่าไทยจากต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่า รวมทั้งยังได้สิทธิ GSP จาก EU
อย่างไรก็ตามยังมีด้านปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและเศรษฐกิจอุตสาหกรรมปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย558 ที่ต้องเฝ้าระมัดระวัง ได้แก่
- ความไม่แน่นอนในการพื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย558 เนื่องจากแม้คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปจะเริ่มพื้นตัว แต่เศรษฐกิจของจีน และรัสเซีย ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว รวมทั้งเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มีอัตราการขยายตัวในระดับต่ำและเศรษฐกิจอาเซียนที่ขยายตัวได้ใกล้เคียงกับปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย557
- การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของไทยและประเทศคู่ค้าต่างๆ เช่น อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และจีนในปีช่วงครึ่งแรกของปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย558 เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจจากเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างชัดเจน ซึ่งการส่งออกของไทยจะดีขึ้นหรือไม่ขึ้นกับผลจากการลดอัตราดอกเบี้ยในประเทศต่างๆ ว่าเห็นผลมาน้อยแค่ไหน
- อัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯของไทยมีในปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย558 มีทิศทางที่ผันผวน (แต่มีแนวโน้มอ่อนค่าในเดือนพฤษภาคม) แต่คงระดับอยู่ที่ 3อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่หลายๆ ประเทศในอาเซียน ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป ค่าเงินมีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ไทยส่งออกสินค้าได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนพฤษภาคม อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย558 อัตราแลกเปลี่ยนของไทยเริ่มอ่อนค่ามาอยู่ในระดับ 33.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้าอัตราแลกเปลี่ยนในครึ่งปีหลังยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องจากเดือนพฤษภาคม จะทำให้สถานการณ์การส่งออกสินค้าของไทยในปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย558 ดีขึ้น
- ทิศทางราคาน้ำมันที่เริ่มผันผวนในช่วงต้นปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย558 หลังจากที่ปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของ ปี อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย557 การเติบโตของหนี้ภาคครัวเรือนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการบริโภคและการลงทุน ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยและประเทศคู่ค้า เช่น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ มีแนวโน้มลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาเงินฝืด และการส่งออกที่หดตัว เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
สศอ. ชี้ทิศทางอุตสาหกรรมไทย ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ( GDP) ของภาคอุตสาหกรรมปีนี้ ยังคงอัตราการเติบโตในเกณฑ์ 2 ถึง 3% เป็นผลจากปัจจัยบวกยังมีแรงหนุนดี แต่ยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจากภายในและภายนอกประเทศอย่างใกล้ชิด นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า จากที่ในปี 2558 ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาในหลายๆ ด้านทั้งจากภายในประเทศและจากต่างประเทศ เช่น ปัญหาการส่งออกที่หดตัว ปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีน
8 ม.ค.นี้ พบกับงานยิ่งใหญ่แห่งปีจาก สศอ. "OIE FORUM 2024: Industrial Reform ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย สู่เศรษฐกิจยุคใหม่"
—
พร้อมแล้วสำหรับการจัดงานประจำปี "OIE...
สศอ. ปรับโฉมใหม่ "iSingleForm"
—
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม โดย คุณวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจ พร้อมด้วย ดร.อริยาพร อำนรรฆสรเดช...
งาน "Halal Inspirium: สร้างแรงบันดาลใจนำอัตลักษณ์ฮาลาลไทยสู่สากล"
—
อย่าพลาด! โอกาสเติบโตในอุตสาหกรรมฮาลาลไทยสู่ตลาดโลก 4 กันยายนนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่ง...
รมว.พิมพ์ภัทรา" เปิดงานประจำปี สศอ. OIE Forum 2566 พลิกโฉมอุตสาหกรรมไทย เผยวาระเร่งด่วน 6 ด้าน หนุนภาคอุตฯ - ผู้ประกอบการไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
—
นางสาวพิมพ์...
รมว.อุตสาหกรรม เล็งปั้น "ฮาลาลฮับ" ในพื้นที่ SEC เจาะตลาดตะวันออกกลาง สั่งการ สศอ. ชี้เป้าศักยภาพพื้นที่ สร้างเศรษฐกิจนำอุตสาหกรรม
—
รัฐมนตรีว่าการกระทรวง...
EXIM BANK และ NEXI พบปะหารือปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม แนวทางความร่วมมือคุ้มครองความเสี่ยงและพัฒนาภาคอุตสาหกรรม
—
นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจ...
การประชุมหารือเพื่อความร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นครั้งที่ 5
—
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน องค์การส่งเสริมการค้าต่าง...