มท.1 สั่งการ ปภ.ประสานจังหวัดช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุฤดูร้อน 19 จังหวัด

09 Apr 2015
มท.1 สั่งการ ปภ. ประสาน 19 จังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุฤดูร้อน โดยจัดเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ รวมถึงเร่งฟื้นฟูสิ่งสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตั้งแต่วันที่ 6 – 8 เมษายน 2558 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน 19 จังหวัด 28 อำเภอ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานจังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พร้อมนำเครื่องอุปโภคบริโภค วัสดุซ่อมแซมบ้านเรือนไปมอบแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น รวมถึงฟื้นฟูสิ่งสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 6 – 8 เมษายน 2558 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน 19 จังหวัด รวม 28 อำเภอ 53 ตำบล 132 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 1,642 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย แยกเป็น ภาคเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง และอุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่ เลย อำนาจเจริญ ยโสธร มหาสารคาม นครราชสีมา ร้อยเอ็ด ขอนแก่น นครพนม สกลนคร หนองบัวลำภู และหนองคาย ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี ภาคตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ ตาก ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่สระแก้ว ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ในพื้นที่ประสบภัยเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประสบภัยนำเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัย รวมถึงเร่งสำรวจความเสียหายของพื้นที่ประสบภัย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯสำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป