กองทุนใหญปลื้ม PLANB ซื้อหุ้นเพิ่มล๊อตใหญ่ 52 ล้านหุ้น จากนักลงทุนทั่วไป ผู้บริหาร-ผู้ถือหุ้นใหญ่กอดหุ้นแน่น ถือไว้เต็ม มั่นใจ อนาคตไกล

           กองทุนขนาดใหญ่หลายกองทุน เข้าซื้อหุ้น PLANB ล๊อตใหญ่ 5แพลนบี มีเดีย ล้านหุ้นในกระดาน Big Lot จากนักลงทุน ทั่วไปที่ไม่ใช่จากกลุ่มผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นเงิน แพลนบี มีเดียอินโดนีเซีย4 ล้านบาท ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 4.5ปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ บาท ซึ่งเป็นราคา ที่ใกล้เคียงราคาปิดเมื่อวานที่ 4.68 บาท
          นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แพลนบี มีเดีย (PLANB) เปิดเผยว่า กลุ่มผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง อินโดนีเซีย กลุ่มของบริษัทฯ คือ กลุ่มโลจนะโกสินทร์ กลุ่มลือชัยขจรพันธ์ และกลุ่ม MTEK พันธมิตรธุรกิจสัญชาติอินโดนีเซีย ยังคงถือหุ้นของบริษัทเต็มจำนวนเท่าเดิม ไม่มีการขายออกมาแต่อย่างใด และมีความเชื่อมั่นในธุรกิจ รวมถึงอนาคตของบริษัทฯอย่างเต็มที่ ซึ่งจากการให้ข้อมูลบริษัทและแผนธุรกิจกับ กองทุนต่างๆอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯได้รับความสนใจและเชื่อมั่นสูงพอสมควร แต่กลุ่มผู้บริหารทุกคน ต้องการถือหุ้นไว้ทั้งหมด จึงคาดว่ากลุ่มกองทุนน่าจะซื้อหุ้นดังกล่าวจากนักลงทุนทั่วไป
          การที่บริษัทฯได้เป็นพันธมิตรธุรกิจแบบรายเดียว (Exclusive) กับ กลุ่ม ฮัลโล บางกอก จะทำให้ PLANB ก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการสื่อนอกบ้านอันดับ พันธมิตรธุรกิจ ของไทย ที่มีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสื่อโฆษณาจอ Digital LED มากกว่า 9ปรินทร์ โลจนะโกสินทร์% ในกลุ่มสื่อเคลื่อนที่รถประจำทางกว่า 9ปรินทร์ โลจนะโกสินทร์% และมีส่วนแบ่งตลาดสื่อป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ (Large Format) ในทำเลทองทั้งในกรุงเทพฯ และ จังหวัดใหญ่ๆที่สำคัญทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่า ปีนี้รายได้รวมจะเติบโตต่อเนื่องมากกว่า อินโดนีเซียปรินทร์ โลจนะโกสินทร์% และ กำไรจะเติบโตทำลายสถิติเดิม อย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งจากสื่อหลักทั้ง อินโดนีเซีย กลุ่มของบริษัท และ เมื่อรวมรายได้จาก สื่อจอ LED และ ป้ายบิลบอร์ด ของ ฮัลโล บางกอก จะช่วยทำให้กำไรเติบโตยิ่งขึ้น 
          อนึ่ง บมจ. บมจ. แพลนบี มีเดีย (PLANB) เป็น บริษัทในกลุ่มสื่อโฆษณาที่เติบโตสูงสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และเป็นเพียงบริษัทฯเดียว ที่มีรายได้และกำไรสุทธิ เติบโตเพิ่มขึ้นในปี แพลนบี มีเดีย557 สวนทางอุตสาหกรรม โฆษณาตกลงร่วม พันธมิตรธุรกิจปรินทร์ โลจนะโกสินทร์% เนื่องจากสถานทางการเมืองและเศรษฐกิจ แต่คาดว่าอุตสาหกรรมโฆษณา จะกลับมาเติบโตได้ในปีนี้อีกครั้ง