ในที่สุด รายการ “
บาวยังบลัด ดนตรีสร้างคุณค่าชีวิต” ก็เดินทางมาถึงโค้ง
สุดท้ายกับรอบชิงชนะเลิศแล้ว ในวันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2558 ซึ่งตัวแทนสุดยอดวงดนตรีเยาวชน 5 วง จากทั้ง 5 ภาค ได้แก่ วงมโหรีวิถีถ่อง (
ผู้ชนะจากภาคเหนือ), วงบรรเจิด
พาราไดซ์ (ผู้ชนะจากภาคใต้), วงดิฟฟิวชั่น (ผู้ชนะจากภาคอีสาน), วงเหลนบาว (ผู้ชนะจากภาคกลาง) และ วงแอสซิส (ผู้ชนะจากกรุงเทพฯ) ซึ่งทั้ง 5 วง ต่างงัดเอาฝีมือทางดนตรีในแบบของตนเองมาสรรค์สร้างเพลงเพื่อชีวิตของวงคาราบาวทั้งแต่งเนื้อร้องเพิ่ม และทำดนตรีขึ้นมาใหม่ จนกลายเป็นเพลงเพื่อชีวิตในแบบที่ไม่เคยฟังที่ไหนมาก่อน ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ได้สักขีพยานคนสำคัญอย่าง วงคาราบาว ครบวงมาเป็นกำลังใจให้ถึงในสตูดิโอเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าของบทเพลงที่น้องๆแต่ละวงนำมาถ่ายทอดใหม่อย่างวงคาราบาว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้เห็นฝีมือเด็กๆที่รักในบทเพลงคาราบาวแบบนี้ทำให้พวกเราหมดห่วงได้ซักทีว่าจะมีผู้สืบทอดตำนานเพลงเพื่อชีวิตของคาราบาวหรือไม่ ถึงจะตายก็ตายตาหลับแล้ว โดยในรอบชิงชนะเลิศนี้ กรรมการทั้ง 3 คน ได้แก่ เขียว คาราบาว - กิรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร, แมว-จิรศักดิ์ ปานพุ่ม และ พลพล พลกองเส็ง ก็ยังคงรับหน้าที่ตัดสินทั้ง 5 วงดนตรีคุณภาพเพื่อหาว่าวงใดจะเป็นผู้ชนะเลิศของรายการ “บาวยังบลัด ดนตรีสร้างคุณค่าชีวิต” ซึ่งในครั้งนี้ยังได้รับเกียรติ จากกรรมการภาคสนามทั้ง 3 คน อย่าง บี๋ -คณาคำ อภิรดี, อ๋อ อินคา – นล สิงหลกะ และ โช้ย-จักรพัฒน์ เอี่ยมหนุน