นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเคียว เน็ตเวิร์ค โอเปอเรชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ เอสน็อคเปิดเผยว่า การโจมตีแบบ DDoS หรือ Distributed Denial of Service เป็นรูปแบบการโจมตีออนไลน์ เพื่อให้ระบบหยุดการทำงาน ไม่สามารถใช้งานได้ หรือทำให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้ โดยในปัจจุบันงานวิจัยในต่างประเทศพบว่า สัดส่วนการโจมตีแบบ DDoS มีมากกว่า 50% โดยมีความถี่มากกว่า 2,000 ครั้งต่อวันโดยพบว่าก่อให้เกิดความเสียหายเฉลี่ยประมาณ 1.3 ล้านบาท ต่อชั่วโมง เนื่องจากสามารถดำเนินการได้ง่ายและมีผู้ให้บริการรับจ้างโจมตีในราคาต่ำ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยค่าบริการ เพียง 20 บาท สำหรับการโจมตี จากผู้ให้บริการในประเทศ ส่วนต่างประเทศแค่ 3 เหรียญ ต่อการว่าจ้างให้โจมตีกลุ่มเป้าหมาย1 ชั่วโมง
อีกทั้งปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าการโจมตีแบบ DDoS นั้นมีความรุนแรงมากขึ้นๆ ทุกปี โดยในต่างประเทศ การโจมตีแต่ละครั้งจะเป็นข่าวใหญ่ในระดับโลก วัตถุประสงค์หลักในการโจมตีแบบ DDoS ทั้งไทยและในต่างประเทศนั้นก็เพื่อสกัดกั้นการเติบโตทางธุรกิจของคู่แข่งขัน รวมถึงยังเป็นการโจมตีที่หวังผลลบต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานหรือองค์กรนั้นๆเช่น การหยุดระบบการใช้อินเทอร์เน็ต การหยุดระบบเว็บไซต์ หรือหยุดการทำธุรกรรมทางการเงินทุกรูปแบบ ตัวอย่างการโจมตีที่ผ่านมา เช่น การโจมตีระบบออนไลน์ของเครื่อง เกมเพลย์สเตชั่น และ เอ็กซ์บ็อกซ์ จนผู้เล่นไม่สามารถเล่นผ่านระบบออนไลน์ได้ หรือการที่ประเทศเกาหลีเหนือไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทั้งประเทศ เป็นต้น
ขณะที่องค์กรทั้งรัฐและเอกชนในประเทศไทย มีความเสี่ยงสูง ที่สำคัญ หลายองค์กรถูกโจมตีแบบ DDoS แทบทุกวัน เนื่องจากยังไม่มีระบบการป้องกันที่ดีเพียงพอ และผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตยังขาดความเข้าใจระบบ ซึ่งการถูกโจมตีและความเสียหายที่เกิดขึ้นจะไม่มีการเปิดเผย เพราะกระทบต่อชื่อเสียง โดยเป้าหมายหลักที่ถูกโจมตีเป็นองค์กรในทุกกลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโลกออนไลน์และอินเทอร์เน็ต แต่กลุ่มที่พบเป็นประจำ ได้แก่ กลุ่มธุรกรรมการเงินออนไลน์, บริการเกมออนไลน์, บริการภาครัฐและสถาบันการเงิน ยิ่งปัจจุบันกล่าวได้ว่า ทุกองค์กร ต่างใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว โอกาสถูกโจมตีจึงสูงขึ้น
นายกิตติพันธ์ กล่าวต่อไปว่า จากประสบการณ์ให้บริการอินเทอร์เน็ตกว่า 17 ปี และมีความชำนาญในด้านการรักษาความปลอดภัย จึงได้จดทะเบียนบริษัท เอสน็อค ขึ้นมาเพื่อให้บริการด้านความปลอดภัยแบบครบวงจร และได้ร่วมมือกับ บริษัท เน็กซัสการ์ด ผู้ให้บริการระบบป้องกัน DDoS ผ่านระบบคลาวด์ ซึ่งมีเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วโลก เป็นพันธมิตรทางเทคโนโลยี เข้ามาลงทุนระบบ DDoS Protection โดยตรงเป็นรายแรกในประเทศไทยซึ่งมีความสมบูรณ์ในการให้บริการมากที่สุด เพื่อให้บริการกับทุกองค์กรในประเทศไทย มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ลูกค้าองค์กรที่มีธุรกรรมและบริการออนไลน์ ผู้ให้บริการเกมออนไลน์ หน่วยงานรัฐและราชการ รวมถึงสถาบันการเงินต่างๆ โดยมั่นใจว่าสามารถป้องกันความเสียหายและสูญเสียรายได้จากการโจมตี
“ทางออกที่ผ่านมา องค์กรเอกชนต้องไปใช้บริการในต่างประเทศ เพราะไม่มีทางเลือกในประเทศไทย ซึ่งได้รับบริการไม่เต็มที่ ขณะที่หน่วยงานราชการ ลงทุนซื้ออุปกรณ์มาป้องกันเอง ใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท แต่ผลที่ได้คือ ไม่สามารถป้องกันได้ 100% ซึ่งถือว่าไม่คุ้มค่า อีกทั้งไม่ได้เป็นบริการหลัก และอาจไม่ทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้น เอสน็อค จึงเป็นคำตอบสำหรับทุกองค์กร เป็นเทคโนโลยีที่ใช่ ภายใต้งบประมาณที่เอื้อมถึง รับรองผลในการป้องกัน 99%” นายกิตติพันธ์ กล่าว
นายไบรอัน แซท ผู้จัดการฝ่ายจัดจำหน่าย เอเชีย แปซิฟิก จาก เน็กซัสการ์ด กล่าวว่า เน็กซัสการ์ด คือผู้ให้บริการป้องกันการโจมตีแบบ DDoS ระดับโลก โดยการให้บริการจะดำเนินการผ่านระบบคลาวด์ที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ดังนั้นจึงสามารถป้องกันการโจมตีและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก และมีการตั้งระบบในประเทศไทย ทำให้สามารถป้องกันการโจมตีที่เกิดขึ้นทั้งในไทยและจากต่างประเทศ กล่าวได้ว่า ครบวงจรมากที่สุด
“หลายครั้งกว่าที่องค์กรต่างๆ จะรู้ตัวและเริ่มป้องกัน ก็คือตอนที่โดนโจมตีไปแล้ว ความเสียหายเกิดขึ้น ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ สูญเสียรายได้และชื่อเสียงในทันที หรือบางกรณี องค์กรอาจกลายเป็นเครื่องมือในการสร้าง DDoS ไปโจมตีผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการป้องกันอย่างถูกต้องโดยระบบที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด” นายไบรอัน กล่าว
นอกจากการป้องกันการโจมตีแบบ DDoS แล้ว บริการ Ddos Protection ยังมี Feature Web Application Firewall (WAF) สำหรับป้องกันการแฮ็คเว็บไซต์, load balance server, SSL Offload และ Caching สำหรับทำให้เข้าใช้งานเว็บไซต์ได้รวดเร็วมากขึ้น ทั้งหมดเพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าระบบจะอยู่ในความปลอดภัยตลอดเวลา
นายวิศรุต มานูญพล หัวหน้าฝ่ายเทคนิค ของ เอสน็อค เปิดเผยว่า การดำเนินการในประเทศไทย เอสน็อคและเน็กซัสการ์ด ได้ตั้งระบบป้องกัน DDoS ผ่านระบบคลาวด์ในประเทศไทย ทำให้สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีระบบป้องกันในไทยโดยตรง รวมถึงมีบริการหลังการขายผ่านทางโทรศัพท์และอีเมล์ โดยเจ้าหน้าที่คนไทยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ง่ายต่อการให้บริการ และมีค่าบริการที่สามารถเข้าถึงได้ โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นหลักหมื่นบาทเท่านั้น ต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นที่ติดตั้งระบบในต่างประเทศ และมีค่าบริการเริ่มต้นที่สูงกว่า
สำหรับในเบื้องต้น เอสน็อค ได้เตรียมให้ลูกค้าทดลองใช้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายผ่านแคมเปญ “ใครโดนโจมตียกมือขึ้น” โดยองค์กรใดที่โดนโจมตีด้วย DDoS เพียงติดต่อเข้ามา ทางเอสน็อคจะดำเนินการป้องกันให้ทันทีรับรองผลภายใน 1 วัน การันตีการป้องกันได้ 99% เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้ และเห็นประโยชน์ ซึ่งทางเอสน็อคได้ตั้งเป้าหมายในปีแรก จะมีลูกค้ามาใช้บริการ 100 ราย และมีรายได้กว่า 50 ล้านบาท
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุน ดิจิทัล อีโคโนมี หรือ เศรษฐกิจดิจิทัล ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีการพัฒนาและให้บริการผ่านทางออนไลน์และอินเทอร์เน็ตอย่างกว้างขวาง ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่ทุกคนต้องตระหนักและมีการป้องกันก่อนที่จะเกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทในการเปิดให้บริการในประเทศไทย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit