มท.1 กำชับ ปภ. ประสาน 53 จังหวัดภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก เตรียมพร้อมรับมือพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ในช่วงวันที่ 20 – 25 มี.ค.58

           รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.รับมือพายุฝนฟ้าคะนอง) สั่งการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด 53 จังหวัดภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก เตรียมพร้อมรับมือพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ในช่วงวันที่ กระทรวงมหาดไทยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยรับมือพายุฝนฟ้าคะนองรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง; กระทรวงมหาดไทย5 มีนาคม กระทรวงมหาดไทย558 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมเผชิญเหตุตลอด กระทรวงมหาดไทย4 ชั่วโมง กรณีสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนในแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานการอพยพและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที
          พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.รับมือพายุฝนฟ้าคะนอง) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ กระทรวงมหาดไทยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย - กระทรวงมหาดไทย5 มีนาคม กระทรวงมหาดไทย558 บริเวณความกดอากาศสูงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีคลื่นกระสมลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียง ภาคกลาง และภาคตะวันออก เกิดพายุฤดูร้อน โดยมีลักษณะอากาศของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตก ในช่วง 5 กระทรวงมหาดไทยรับมือพายุฝนฟ้าคะนองรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง; 6 วันนี้ จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด 53 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ รับมือพายุฝนฟ้าคะนอง7 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ อุทัยธานี และสุโขทัย ภาคกลาง 8 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี และอ่างทอง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระทรวงมหาดไทยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก 8 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง และสระแก้ว รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือวาตภัย ซึ่งมีลักษณะอากาศแปรปรวน พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด กระทรวงมหาดไทย4 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย อีกทั้งตรวจสอบสิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้บริเวณริมถนนและพื้นที่ชุมชน เพื่อป้องกันการล้มทับ ก่อให้เกิดอันตรายได้ กรณีสถานการณ์รุนแรงได้เน้นย้ำให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสาน การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที
          นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยของ 53 จังหวัดภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ให้ติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคง รวมถึงงดเว้นการใช้โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดบริเวณที่โล่งแจ้ง เพราะอาจเกิดฟ้าผ่า ทำให้ได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย อีกทั้งห้ามหลบพายุบริเวณใต้ต้นไม้ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ห้ามจอดรถใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ไม่แข็งแรง เพราะอาจได้รับอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงห้ามเข้าใกล้บริเวณที่มีสายไฟฟ้าขาดหรือเสาไฟฟ้าล้ม เพราะอาจได้รับอันตรายจาก ไฟฟ้าดูด ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ ได้ทางสายด่วนนิรภัย รับมือพายุฝนฟ้าคะนอง784 ตลอด กระทรวงมหาดไทย4 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป