-- โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญบรรเทาทุกข์ในชื่อ "Tackle Ebola"
-- เตรียมแจกจ่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ 50,000 ชุดไปยังพื้นที่ประสบภัย พร้อมจัดหาเที่ยวบินขนส่งปัจจัยจำเป็น
คุณพอล จี. อัลเลน นักธุรกิจผู้ใจบุญ ประกาศริเริ่มโครงการใหม่ 2 โครงการตามแคมเปญบรรเทาทุกข์ในชื่อ "Tackle Ebola" เพื่อจัดหาปัจจัยและให้ความช่วยเหลือในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก โครงการดังกล่าวจะมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมถึง 6.6 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนธุรกิจและองค์กรที่ทำหน้าที่ขนส่งปัจจัยจำเป็น ซึ่งส่งผลให้ยอดเงินที่คุณอัลเลนบริจาคเพื่อต่อสู้กับอีโบลาเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านดอลลาร์แล้วในขณะนี้ นอกจากนั้นคุณอัลเลนจะประกาศบริจาคเงินเพิ่มเติมอีกในช่วงปลายสัปดาห์นี้
“การรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาต้องอาศัยความทุ่มเทและสร้างสรรค์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วทวีปแอฟริกาและทั่วโลก” คุณอัลเลนกล่าว “เราสามารถรับมือกับอีโบลาได้ แต่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างเร่งด่วนและพร้อมเพรียงกันทั่วโลก เนื่องจากเวลาเป็นตัวแปรสำคัญในศึกครั้งนี้”
โครงการดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า ปัจจัย และผู้คนในภูมิภาค โดยมูลนิธิพอล จี. อัลเลน แฟมิลี่ ฟาวน์เดชั่น (Paul G. Allen Family Foundation) และบรรดาธุรกิจชั้นนำ ได้รวมตัวกันแก้ไขวิกฤตด้วยการดำเนินการดังต่อไปนี้
อุปกรณ์ป้องกันโรคดังกล่าวได้รับการออกแบบเพื่อป้องกันคนที่มีสุขภาพดี เมื่อมีสมาชิกในครอบครัวแสดงอาการของการติดเชื้ออีโบลา โดยจะมีการอบรมวิธีการใช้อุปกรณ์ การกำจัดของเสีย และการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ นอกจากนี้ เงินดังกล่าวจะถูกนำไปใช้จัดหาปัจจัยที่จำเป็นให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขชุมชนจำนวน 2,371 คน เพื่อให้ความรู้แก่คนในชุมชนเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาด รวมถึงวิธีการป้องกันตนเองและครอบครัวจากเชื้ออีโบลา
“เราขอขอบคุณความเอื้อเฟื้อของมูลนิธิพอล จี. อัลเลน แฟมิลี่ ฟาวน์เดชั่น, ยูพีเอส และบรรดาพันธมิตรอย่าง USAID” คุณแคริล สเติร์น ประธานและซีอีโอของกองทุนสหรัฐเพื่อยูนิเซฟ กล่าว “ขณะนี้มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ราว 4.5 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ประสบภัยอีโบลา และยูนิเซฟกำลังทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อปกป้องชุมชนและครอบครัวจากไวรัสร้ายแรงนี้ โดยเงินสนับสนุนจากมูลนิธิพอล จี. อัลเลน แฟมิลี่ ฟาวน์เดชั่น และการสนับสนุนด้านการขนส่งจากยูพีเอส จะช่วยให้ยูนิเซฟสามารถเร่งขนส่งปัจจัยช่วยเหลือที่มีความจำเป็นต่อชีวิตไปยังภูมิภาคดังกล่าวได้”
นอกจากนี้ ด้วยยอดสมทบทุนของผู้บริจาครายอื่นๆจากกองทุนสหรัฐเพื่อยูนิเซฟและบรรดาพันธมิตร ชุมชนต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสร้ายแรงนี้จะได้รับอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มเติม รวมถึงเงินสนับสนุนเพื่อการเคลื่อนไหวทางสังคมและการดูแลรักษา
สอง ทางมูลนิธิได้สร้างความร่วมมือมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์กับแอร์ลิงค์ (Airlink) เพื่อเปิดเส้นทางการขนส่งปัจจัยจำเป็น โดยจะมีเที่ยวบินออกเดินทางเป็นประจำตลอดช่วง 3 เดือนข้างหน้า เพื่อขนส่งอุปกรณ์ป้องกันทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นไปยังแอฟริกาตะวันตก แอร์ลิงค์เป็นองค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเมื่อเกิดภัยพิบัติซึ่งทำงานตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด แอร์ลิงค์จะประสานงานกับสายการบินต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ผ่านการคัดเลือก ในการขนส่งสิ่งของจำเป็นทางอากาศ แอร์ลิงค์มีพันธกิจในการสนับสนุนองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ทำหน้าที่แสวงหาปัจจัยจำเป็นให้กับพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ด้วยการตอบสนองอย่างรวดเร็วเพื่อการขนส่งปัจจัยช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ทั้งนี้ เที่ยวบินแรกจะออกเดินทางในรอบสัปดาห์ที่ 21 กันยายน
“เนื่องด้วยห่วงโซ่อุปทานได้หดตัวลงอย่างมากเพราะสายการบินจำนวนมากตัดสินใจไม่บินไปยังแอฟริกาตะวันตกในช่วงนี้ เราจึงมีความซาบซึ้งอย่างยิ่งต่อการสนับสนุนจากมูลนิธิพอล จี. อัลเลน แฟมิลี่ ฟาวน์เดชั่น” คุณสตีฟ สมิธ กรรมการบริหารของแอร์ลิงค์ กล่าว “บรรดาองค์กรไม่แสวงผลกำไรต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เราเป็นความหวังเดียวในการขนส่งปัจจัยช่วยเหลือ ดังนั้นเงินช่วยเหลือเพื่อเปิดเส้นทางขนส่งจึงมอบโอกาสสำคัญให้กับองค์กรบรรเทาทุกข์อีกมากมาย”
การมอบเงินสนับสนุนและการสร้างความร่วมมือกับภาคธุรกิจในครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ประชาคมโลกต่างพยายามมอบความช่วยเหลือให้มากพอที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โดยองค์กรระดับนานาชาติอย่าง เมดิซีนส์ ซานส์ ฟรอนเทียร์ส (Medecins Sans Frontieres) และองค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่ากำลังประสบกับภาวะขาดแคลนทรัพยากรในการควบคุมการแพร่ระบาดและการรักษาผู้ป่วย ขณะที่เชื้อไวรัสอีโบลากำลังแพร่ระบาดอย่างหนักทั่วแอฟริกาตะวันตก ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยยอดผู้เสียชีวิตกว่า 2,300 รายใน 4 ประเทศ และประชากรหลายแสนคนหรืออาจแตะหลายล้านคนกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงหากการแพร่ระบาดไม่ได้รับการควบคุม
การประกาศเปิดตัวโครงการในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากที่มูลนิธิพอล จี. อัลเลน แฟมิลี่ ฟาวน์เดชั่น ได้มอบเงินช่วยเหลือถึง 9 ล้านดอลลาร์แก่มูลนิธิซีดีซี ฟาวน์เดชั่น (CDC Foundation) เพื่อก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในประเทศกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยศูนย์ปฏิบัติการเหล่านี้จะช่วยให้เกิดการตอบสนองอย่างเป็นระบบ ด้วยการยกระดับระบบบริหารจัดการข้อมูลและการสื่อสารในการติดตามโรคและติดต่อผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยตรวจจับและยุติการแพร่ระบาดของโรค
นอกจากนี้ มูลนิธิพอล จี. อัลเลน แฟมิลี่ ฟาวน์เดชั่น ยังได้มอบเงินสนับสนุน 2.8 ล้านดอลลาร์แก่สภากาชาดอเมริกาเมื่อเดือนสิงหาคม 2557 เพื่อสนับสนุนในส่วนของการจัดหาอุปกรณ์ อาสาสมัคร และสื่อสำหรับให้ความรู้ ในประเทศกินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถรับชมได้ที่ TackleEbola.com และติดตาม #TackleEbola บนทวิตเตอร์
เกี่ยวกับพอล จี. อัลเลน
พอล จี. อัลเลน เป็นนักลงทุน นักธุรกิจ และผู้ใจบุญคนดัง ซึ่งบริจาคเงินกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ให้แก่องค์กรการกุศลมาตลอดทั้งชีวิต เขาได้ก่อตั้งบริษัท วัลแคน อิงค์ (Vulcan Inc.) ในซีแอตเทิลเมื่อปี 2529 ร่วมกับคุณโจดี้ อัลเลน เพื่อดูแลธุรกิจและกิจกรรมการกุศลของเขาเอง ปัจจุบันบริษัทนี้ทำหน้าที่ดูแลการลงทุนและโครงการของคุณอัลเลนทั่วโลก ในปี 2546 เขาได้ก่อตั้งสถาบัน Allen Institute for Brain Science เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสมองของมนุษย์ในแง่ของสุขภาพและโรคภัย และหลังจากนั้น 10 ปี เขาได้ก่อตั้งสถาบัน Allen Institute for Artificial Intelligence เพื่อสำรวจโอกาสในการพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิพอล จี. อัลเลน แฟมิลี่ ฟาวน์เดชั่น ซึ่งได้มอบเงินช่วยเหลือกว่า 475 ล้านดอลลาร์แก่องค์กรไม่แสวงผลกำไรในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกาติดคาบมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Northwest) และภูมิภาคอื่นๆ ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2551 คุณอัลเลนได้มอบเงินราว 10 ล้านดอลลาร์ผ่านทางมูลนิธิและการบริจาคโดยตรง เพื่อสนับสนุนโครงการวิจัย การศึกษา และเทคโนโลยีทั่วแอฟริกา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถรับชมได้ที่ www.paulallen.com, www.pgafamilyfoundation.org และ www.vulcan.com
สื่อมวลชนติดต่อ:
อเล็กซา รูดิน
[email protected]
+1.206.342.2230
- สิทธิบัตรสหรัฐฯ สำหรับการใช้ opaganib ในการรักษาโรคไวรัสอีโบลามีผลการคุ้มครองถึงปี 2035 - การศึกษาทดลอง opaganib ระดับโลกระยะที่ 2/3 กับผู้ป่วยจำนวน 475 คนในการรักษาโรคโควิด-19 ขั้นรุนแรงกำลังจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมผลลัพธ์โดยรวมของการศึกษา - ยา opaganib นี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาทดลองด้านมะเร็งวิทยาในสหรัฐฯ ระยะที่ 2 อีก 2 โครงการ พร้อมทั้งโครงการพัฒนาอื่น ๆ สำหรับการรักษาอาการอักเสบและการติดเชื้อไวรัส รวมถึงเชื้อไวรัสอีโบลา - นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มการขยายขอบเขตของสิทธิบัตรในการคุ้มครอง RHB-104
‘ท่าเรือประจวบ’ ร่วมฝึกซ้อมแผนฯ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์การระบาด"อีโบลา"
—
โรงพยาบาลบางสะพาน ร่วมกับบริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด จัดซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินท...
ภาพข่าว: สร้างความตระหนัก
—
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิ์วัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิฯ กรมควบคุมโรค Dr.Yonas Tegegn WR...
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มอบป้าย DRA (Designated Receiving Area) และโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
—
ที่โรงพยาบาล...