สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ทำการศึกษาและประเมินผลโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ซึ่งกำเนิดขึ้นจากแนวพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เพื่อช่วยเหลือราษฎรมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์4 ปี โดยจัดตั้งสถานีสาธิตและถ่ายทอดการเกษตร ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม บ้านแปกแซม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นแห่งแรกในปี จังหวัดเชียงใหม่543 และหลังจากนั้นได้มีการจัดตั้งสถานีอื่นๆ มาเป็นลำดับ ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ครอบคลุมใน 6 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา พิษณุโลก กำแพงเพชร มีจำนวนทั้งสิ้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์8 สถานี โดยได้ดำเนินการประเมินผลใน 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านป่าไม้ เน้นการฟื้นฟูและอนุรักษ์สภาพพื้นที่ป่าต้นน้ำ และการส่งเสริมให้ราษฎรมีส่วนร่วมในการป้องกันฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อมโทรมให้มีสภาพที่สมบูรณ์ขึ้น มีผลผลิตจากป่าเพิ่มขึ้น รวมทั้งการอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน และด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร ได้แก่ จัดหาน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเกษตรกรรม การส่งเสริมให้ราษฎรมีทางเลือกในการประกอบอาชีพ รวมถึงด้านการบริหารจัดการโครงการฯ และการบูรณาการระหว่างหน่วยงานในการดำเนินโครงการฯ
นายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กล่าวว่า สำนักงาน กปร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของโครงการฯจึงเห็นควรจัดให้มีการประเมินผลโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามแนวพระราชดำริ เพื่อประมวลเรื่องให้ทราบถึงแนวทางการดำเนินงาน และรูปแบบในการบริหารจัดการโครงการฯ ที่ผ่านมา ที่ทำให้เกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมชัดเจน และนำผลของการประเมินไปใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบาย และแนวทางในการพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยเฉพาะที่อยู่บนพื้นที่สูง และอื่นๆ ต่อไป การประเมินได้เลือกสถานีเป็นกรณีศึกษา 3 แห่ง ได้แก่ สถานีสาธิตและถ่ายทอดการเกษตร ป่าไม้ สิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านแปกแซม จังหวัดเชียงใหม่ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ
ปางขอน จังหวัดเชียงราย และสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ภูพยัคฆ์ จังหวัดน่าน ในการประเมินผลฯ นั้นได้มีการดำเนินการอย่างครอบคลุม นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในโครงการฯ ไปจนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ และประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ ประกอบด้วย ชาวไทยภูเขาเผ่าลีซอ พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จำนวน จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้าน ประมาณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์95 ครัวเรือน ประชากร 8มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ คน พื้นที่จังหวัดเชียงราย ชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า และเผ่ามูเซอ จำนวน 3 หมู่บ้าน ประมาณ 4มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ครัวเรือน ประชากร จังหวัดเชียงใหม่,จังหวัดเชียงใหม่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ คน และชาวไทยภูเขาเผ่าลั๊ว จำนวน จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้าน ประมาณ จังหวัดเชียงใหม่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ครัวเรือน ประชากร 98มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ คน ในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เป็นผู้ทำการศึกษา และติดตามผลการประเมินผล ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ได้ดำเนินงานศึกษาเอกสาร ติดตามเก็บข้อมูลภาคสนาม และวิเคราะห์ข้อมูล จัดทำ (ร่าง) สรุปผลการประเมินโครงการฯ เสร็จเรียบร้อยแล้วและเพื่อให้สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงฯ ตลอดจน สำนักงาน กปร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบผล และร่วมกันพิจารณาความครบถ้วนของรายงานการประเมินผลโครงการฯ ดังกล่าว รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับการดำเนินงานโครงการฯ ในระยะต่อไป
ในการสัมมนาฯ ครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประมาณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ คน จากหน่วยงานที่เกี่ยงข้องที่เป็นส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ได้แก่ สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมชลประทาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (พิษณุโลก) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์จังหวัดเชียงใหม่(นครสวรรค์) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์3(แพร่) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์5(เชียงราย) และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์6(เชียงใหม่) โครงการชลประทานเชียงราย โครงการชลประทานเชียงใหม่ โครงการชลประทานน่าน หัวหน้าสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ในพื้นที่ภาคเหนือทั้ง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์8 สถานี และผู้แทนในส่วนของราษฎรผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ เป็นต้น
โอกาสนี้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ได้กล่าวในพิธีเปิดการสัมมนาที่ โรงแรม ดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย จังหวัดเชียงราย ว่า โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรทีสูงตามพระราชดำริ เป็นโครงการรูปแบบหนึ่งในหลายๆ โครงการ ซึ่งได้ดำเนินงานมาเป็นเวลาประมาณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์4 ปี โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริที่ได้ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลานานนั้น มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในหลายๆ มิติ ซึ่งต่างก็ล้วนเอื้ออำนวย ก่อให้เกิดประโยชน์สุขกับราษฎร พร้อมๆ กับช่วยฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร ผมได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยียนโครงการต่างๆ เป็นประจำในแต่ละปี เป็นจำนวนหลายโครงการฯ ในปลายปี จังหวัดเชียงใหม่556 และต้นปี จังหวัดเชียงใหม่557 ที่ผ่านมานี้ ได้เดินทางไปสถานีสาธิตและถ่ายทอดการเกษตร ป่าไม้ และสิ่งแวดล้อม บ้านแปกแซม จังหวัดเชียงใหม่ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านปางขอน จังหวัดเชียงราย และสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ
ภูพยัคฆ์ จังหวัดน่าน พบว่า จากภาพของอดีตที่สภาพพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ลดลง ราษฎรประกอบอาชีพทำไร่เลื่อนลอย แพ้วถางและเผาป่า ภาพในปัจจุบันมิได้เป็นไปเช่นนั้น ภาพที่เห็นเป็นภาพของการพัฒนาในหลายๆ เรื่อง เช่น ป่าไม้ได้รับการฟื้นฟู ได้รับการดูแล หวงแหน และพื้นที่ป่าไม้มีเพิ่มมากขึ้นจากการปลูกป่าหรือพืชเศรษฐกิจทดแทน มีการรวมกลุ่มและส่งเสริมการปลูกพืช ตลอดจนหาช่องทางการตลาดให้แก่ราษฎร ทำให้ราษฎรมีคุณภาพชีวิตและรายได้ที่ดีขึ้นจนราษฎรในบางโครงการเป็นที่กล่าวขานกันว่า มีรายได้จากการประกอบอาชีพตามแนวทางของโครงการฯ จำนวนถึงล้านบาท
อย่างไรก็ดี ยังคงเป็นที่สังเกตเห็นเช่นกันได้ว่า สภาพพื้นที่ป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร ที่ดีขึ้นนั้น ยังคงมีพื้นที่อีกหลายๆ ส่วน ที่จำเป็นจะต้องได้รับการพิจารณาดำเนินการฟื้นฟูแก้ไขอีกด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตรอยต่อหรือใกล้เคียงของโครงการ และการดำเนินการตามแผนงานหรือกิจกรรมใดๆ นั้น ก็สมควรที่จะได้รับการพิจารณาให้เป็นพื้นที่ยอมรับจากประชาชนในท้องถิ่นเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของการพัฒนาด้วย เพื่อสนองพระราชดำริและเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ผมขอฝากให้พวกเรา เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานทุกท่าน ได้ร่วมมือ ร่วมใจกันสืบสาน แนวพระราชดำริของโครงการให้บังเกิดผลประโยชน์สูงสุด และให้เกิดความยั่งยืนกับพี่น้องประชาชน ผลสรุปของบทเรียน หรือกรณีศึกษาดังกล่าว ที่จะได้จากการติดตามประเมินผลครั้งนี้ก็น่าที่จะเป็นประโยชน์ และให้ประชาชนได้รับประโยชน์ เรียนรู้ และสามารถประยุกต์ใช้อย่างยั่งยืนต่อไป
ม.ศรีปทุม ให้การต้อนรับ ม.ราชภัฎเชียงใหม่ เข้าศึกษาดูงานการบริหารจัดการองค์กรสู่ความเป็นเลิศ และเยี่ยมชมการบริหารจัดการและการจัดการเรียนการสอน ของคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม โดย รศ.กัลยาภรณ์ ปานมะเริง รองอธิการบดี และอาจารย์เปรมจิตร เสาวคนธ์ รองอธิการบดี ให้การต้อนรับ ผศ.พรพิมล วงศ์สุข รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลากร จำนวน 80 คน ในโอกาสเข้าศึกษาดูงานการบริหารจัดการองค์กรสู่ความเป็นเลิศ และคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ SPU ภายในงาน ผศ.ดร
มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ จับมือ ปางช้างแม่แตง เปิดโรงเรียนควาญช้าง เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมการเลี้ยงช้างไทยและเชิดชูควาญช้างไทย
—
มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงให...
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ เข้าทัศนศึกษาภายในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ
—
วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 คณะครูและนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 1 3 จากโรงเรียนสาธิต...
เยาวชนเชียงใหม่จัดสัมมนาเพื่อลดผู้ใช้เหล้าและสารเสพติดในรั้วมหาวิทยาลัย
—
เมื่อวันที่ 28 – 29 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา เครือข่ายเยาวชนป้องกันปัญหาจากเครื่อ...