ศูนย์แพทย์ราชภัฏโคราช ห่วงใยกลุ่มเสี่ยงโรคอ้วน โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง

          ศูนย์แพทย์ชุมชน 9 มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ได้จัดโครงการ ̶มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา;ส่งเสริมสุขภาพสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันโรคอ้วน โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง̶มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา; เมื่อวันที่ 2มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา-2มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา พฤษภาคม 2557 ณ ห้องประชุมศูนย์วิทยาศาสตร์ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วิเชียร ฝอยพิกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการ โดยกิจกรรมภายในโครงการ ประกอบด้วย การบรรยายให้ความรู้เรื่อง กินอย่างไร ร่างกายสมส่วน ห่างไกลโรค เรื่อง อาหารแลกเปลี่ยน ลดหวาน มัน เค็ม เรื่องโรคอ้วน โรคเบาหวาน เรื่อง ขยับกาย เพื่อสุขภาพ เรื่องการปรับอารมณ์ เพื่อสุขภาพจิตที่ดี การฝึกปฏิบัติการออกกำลังกายและการฝึกปฏิบัติปรับอารมณ์
          การจัดโครงการในครั้งนี้เนื่องด้วยปัจจุบันอัตราการเจ็บป่วยจากโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและนำไปสู่การเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายเกิดความพิการหรือเสียชีวิตได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตันมากกว่าคนปกติประมาณ 2 เท่า มีอัตราเสี่ยงตาบอดสูงกว่าคนปกติ 25 เท่า อันตรายจากไตเสื่อมสูงกว่าคนปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา7 เท่า และผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องถูกตัดขาเนื่องจากแผลเน่าตายมากกว่าคนปกติ 5 เท่า โรคเบาหวานเป็นโรคที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก พบได้ประมาณร้อยละ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา.5 ของคนทั่วไป พบได้ทุกเพศและทุกวัย แต่จะพบมากในคนอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีภาวะอ้วนและน้ำหนักเกิน
          จากผลการตรวจสุขภาพบุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ปี 2556 จำนวน 43มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา คน พบว่ามีบุคคลที่มีภาวะน้ำหนักเกิน จำนวน มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมามหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา5 คนและจากผลการตรวจระดับน้ำตาลและไขมันในเส้นเลือดพบว่าบุคคลที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงและไขมันในเส้นเลือดสูง จำนวน มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมามหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา5 คน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินและส่งผลให้ความดันโลหิตสูงนั้นล้วนเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมและขาดการออกกำลังกาย
          กิจกรรมในครั้งนี้จะทำให้กลุ่มเป้าหมายสามารถดูแลตนเองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป