รอรีย์ แมคอิลรอย นักกอล์ฟไนกี้ แสดงฝีมือยอดเยี่ยมจนสามารถคว้าชัยชนะในรายการ ดิ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ ชิงถ้วย Claret Jug มาครองได้อย่างงดงาม และถือเป็นผู้เล่นคนที่ 7 ในประวัติศาสตร์วงการกอล์ฟถ้วยใหญ่ที่เป็นผู้นำตั้งแต่ต้นจนจบวันสุดท้าย และขณะนี้ รอรีย์ มาได้เกินครึ่งทางสู่แกรนด์ สแลม ในช่วงอายุ 25 ปี ซึ่งถ้าเขาสามารถทำได้ก็จะกลายเป็นนักกอล์ฟ 1 ใน 3 คน ที่อายุน้อยที่สุดในสถิตินี้
“รายการ ดิ โอเพ่น นี้เป็นรายการที่เราทุกคนมุ่งหวังและพยายามฝ่าฟันเพื่อชัยชนะ การที่มีโอกาสที่ได้คว้าถ้วย Claret Jug ใบนี้มาไว้ในมือ ถือว่าเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมสุดๆ” รอรีย์ แมคอิลรอย กล่าวในพิธีปิดการแข่งขัน
รอรีย์ แมคอิลรอย ได้รับชัยชนะจากรายการเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ นี้เป็นรายการที่ 3 ของฤดูกาล ด้วยการไดร์ฟที่หนักแน่นและการพัตต์ที่น่าประทับใจ จากการใช้ไดร์ฟเวอร์ Nike Covert 2.0 Tour Driver และลูกกอล์ฟ Nike RZN Black ที่เขาเคยกล่าวไว้ว่าเป็นการรวมตัวที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยได้สัมผัสมา รอรีย์สามารถตีจากแท่นที-ออฟได้ไกลเฉลี่ยถึง 328 หลา ในสภาพมีลมอ่อน ซึ่งไกลกว่าค่าเฉลี่ยของสนามถึง 45 หลา รวมทั้งออกพัตต์ที่โดดเด่นของเขาด้วยพัตเตอร์ Nike Method 006 Putter ที่ค่าเฉลี่ย 1.53 พัตต์ต่อหลุม
การได้รับชัยชนะในครั้งนี้ มีคำสองคำที่ช่วยให้รอรี่ย์ฟันฝ่าอุปสรรคตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาและนำชัยชนะมาได้คือ" ความมุ่งมั่นและวิธีการปฏิบัติ จดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าขณะที่เราพัตต์ ไม่ใช่ที่ผลลัพธ์ของมัน” แค่เพียงเราตั้งใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า นี่คือสิ่งที่ผมได้รับตอบแทนจากความตั้งใจและการฝึกซ้อมอย่างหนัก” รอรีย์กล่าว
การแข่งขันครั้งนี้ รอรีย์ มีอุปกรณ์ใหม่ล่าสุดจากไนกี้ในถุงกอล์ฟของเขา คือ หัวเหล็กต้นแบบ Nike MMPROTO 2 ซึ่งเพิ่งจะได้เปิดตัวออกมาทดลองใช้ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใน Scottish Open ส่วนเครื่องแต่งกายที่ใช้ในการแข่งขันนั้นมาจาก Performance Collection ของไนกี้ กอล์ฟ และรองเท้ากอล์ฟ Nike Lunar Control
รอรีย์ เป็นนักกอล์ฟของไนกี้คนที่สอง ที่ได้รับชัยชนะจากรายการเมเจอร์ หลังจากที่เดือนก่อนนี้ มิเชล วี ได้ชัยชนะจากรายการ U.S. Women’s Open
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit