เคซีอี แรงไม่หยุด ทำสถิติยอดขายและกำไรสูงสุดต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4

05 Aug 2014
เคซีอี ผู้ผลิตและส่งออกแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังร้อนแรงต่อเนื่อง โดยสามารถสร้างสถิติยอดขายและกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2557 สูงสุดต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 ด้วยยอดขายรวม 2,818.6 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 478.9 ล้านบาท มั่นใจจะรักษาผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งปีหลัง

นายบัญชา องค์โฆษิต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จํากัด (มหาชน) หรือ KCE เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2557 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย (กลุ่มบริษัท) ว่ามียอดขายรวม 2,818.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 478.9 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 24.6% และ 142.5% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2556 ที่มียอดขายรวม 2,261.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 197.5 ล้านบาท และคิดเป็นอัตราการเติบโต 1.9% และ 9% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2557 ที่มียอดขายรวม 2,765.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 439.4 ล้านบาท

“รายได้จากการขายและกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปีนี้ นับเป็นการทำสถิติสูงสุดรอบใหม่ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 นับจากที่ได้กลับมาเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตหลังการฟื้นตัวจากน้ำท่วมในปี 2554 ซึ่งยอดขายที่เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 24.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากสภาวะตลาดที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์และลูกค้ามีความต้องการสินค้า PCB เพิ่มขึ้น ส่วนยอดขายในไตรมาส 2/2557 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2557 นับว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.9 ของยอดขายในสกุลเงินบาท (ร้อยละ 2.6 ในสกุลเงินดอลล่าร์) ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องด้วยตามปกติไตรมาสนี้จะอยู่ในช่วงพักฤดูร้อนของทางยุโรป” นายบัญชา กล่าว นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/2557 กลุ่มบริษัทยังสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้เป็นจำนวน 444.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.8 ของยอดขายรวม ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการเติบโตของยอดขาย อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่ลดลง

ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/2557 อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 31.44 ต่อยอดขาย จากร้อยละ 31.54 ในไตรมาส 1/2557 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นมากจากร้อยละ 24.9 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการใช้กำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้น และประสิทธิภาพการผลิตที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับต้นทุนการผลิตอยู่ในระดับที่ทรงตัว

นายบัญชา กล่าวเพิ่มเติมถึงผลดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2557 (มกราคม-มิถุนายน) ว่า กลุ่มบริษัทมียอดขายรวม 5,583.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 918.3 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันในปี 2556 มียอดขายอยู่ที่ 4,261.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 469.3 ล้านบาท สำหรับกำไรต่อหุ้นพื้นฐาน (basic EPS) ในครึ่งแรกของปี 2557 เท่ากับ 1.76 บาท จาก 1.02 บาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผู้บริหารเชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งปีหลังของปี 2557

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit