โคตี้ อิงค์ ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ภายใต้การนำของ “มิเชล สแกนนาวินี”

          โคตี้ อิงค์ (Coty Inc.) (NYSE: COTY) เปิดเผยโครงสร้างองค์กรใหม่ที่มุ่งส่งเสริมแนวทางการขยายธุรกิจของบริษัทและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับจุดยืนของบริษัทในฐานะผู้นำระดับโลกด้านความงาม การออกแบบโครงสร้างใหม่ พัฒนาขึ้นมาจากธุรกิจที่เป็นอิสระจากกันและกัน 2 แผนก ได้แก่ Coty Prestige และ Coty Beauty เพื่อรวมเป็นโมเดลที่รวมกลุ่มกันมากขึ้นตามประเภทและภูมิภาค ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาชื่อเสียงและความแตกต่าง และการดูแลรักษาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการสร้างแบรนด์, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริหารการขาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญของความสำเร็จ

          ความเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดว่า จะนำมาซึ่งมุมมองที่ครบถ้วนบริบูรณ์ของวิวัฒนาการของผู้บริโภคและโอกาสในการเติบโตตามสายผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังส่งผลให้บริษัทมีวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับนวัตกรรมที่ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงระดับโลกครั้งนี้ยังคาดว่า จะช่วยยกระดับความร่วมมือและการแบ่งปันทรัพยากรในกลุ่มช่องทางและตลาดต่างๆ และเพิ่มความใส่ใจกับความต้องการที่มีลักษณะเฉพาะตัวของผู้บริโภคและร้านค้าปลีกในแต่ละภูมิภาค นอกจากนี้ ยังจะช่วยลดความซ้ำซ้อนซึ่งจะส่งผลให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพในที่สุด นับเป็นการเร่งปูทางไปสู่การเติบโตของกำไรของโคตี้ และการสร้างทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อนำกลับมาลงทุนในแบรนด์ที่ทรงพลังของโคตี้และตลาดที่เป็นยุทธศาสตร์

          องค์กรใหม่จะมีโครงสร้างดังต่อไปนี้:

          ประเภทและนวัตกรรม
          เรนาโต เซเมรารี ประธานของ Coty Beauty จะมีบทบาทใหม่ในฐานะประธานฝ่ายประเภทและนวัตกรรม กลุ่มงานใหม่ภายใต้การนำของเรนาโต จะประกอบไปด้วย ฝ่ายการตลาด, R&D, การสื่อสาร, ดิจิตอล และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวก้บตลาดผู้บริโภค ซึ่งจะกลายเป็นกลไกที่สำคัญของกลยุทธ์สำหรับการแบ่งประเภทและพัฒนาแบรนด์ แบรนด์ของโคตี้ อิงค์ จะอยู่ภายใต้ประเภทของผลิตภัณฑ์ 4 ประเภทที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภค ได้แก่ น้ำหอม, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว, เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลเรือนร่าง ผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทจะมีทีมงานเฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญและความสามารถเฉพาะในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและหลากหลายที่ให้ความสำคัญกับแก่นแท้ของแบรนด์และจุดยืนในตลาด ผู้บริหารผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ประเภท มีรายชื่อดังนี้ :

          - สตีฟ มอร์โมรีส ซึ่งก่อนหน้านี้รับผิดชอบ Coty Prestige ในการทำการตลาดน้ำหอมในสหรัฐ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นซีเอ็มโอของฝ่ายน้ำหอม
          - โจฮานนา บูซิเนลลี ก่อนหน้านี้รับผิดชอบ Coty Beauty ในการทำการตลาดเครื่องสำอางหลากสีสัน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นซีเอ็มโอของฝ่ายเครื่องสำอางหลากสีสัน
          - จิลล์ สคาลามันเดร์ ก่อนหน้านี้รับผิดชอบ Coty Prestige – ในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ได้รับแต่งตั้งเป็นซีเอ็มโอฝ่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
          - เจอร์เก็น ชาร์เฟนสไตน์ ก่อนหน้านี้รับผิดชอบ Coty Beauty – ในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์ Adidas และน้ำหอมไลฟ์สไตล์ ได้รับแต่งตั้งเป็นซีเอ็มโอของ Body Care

          ตลาดโลก
          ฌอน มอร์เทียร์ ก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งรองประธานของ Coty Prestige จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานฝ่ายการตลาดระดับโลก เพื่อบริหารจัดการในเรื่องการนำจุดแข็งของบริษัทมาใช้ให้ดียิ่งขึ้นและดูแลการบริหารที่แข็งแกร่งขึ้น การทำตลาดจะแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค ได้แก่ อเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก/ตะวันออกกลางและแอฟริกา และละตินอเมริกา แต่ละภูมิภาคจะมีรองประธานและทีมผู้บริหารโดยเฉพาะเพื่อควบคุมทิศทางของธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค, ร้านค้าปลีกและลำดับความสำคัญต่างๆ โครงสร้างใหม่นี้จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจทั่วโลกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต

          ผู้บริหารของทั้ง 4 ภูมิภาค มีรายชื่อดังต่อไปนี้:

          - อเมริกาเหนือ: มาร์ค เรย์ ซึ่งจะดำรงตำแหน่งประธานโคตี้ ยูเอสเอ อีกหนึ่งตำแหน่ง
          - ยุโรป: สตีเฟน ซาสซิส
          - เอเชียแปซิฟิก/ตะวันออกกลางและแอฟริกา: เพ็กกี เอลส์โรด
          - ละตินอเมริกา: แมนลิโอ พิซซอร์นี

          นอกจากนี้ ยังจะมีการปรับโครงสร้างของกลไกการดำเนินงานด้านห่วงโซ่อุปทาน, การเงิน, ไอที, ทรัพยากรมนุษย์ และกฎหมายใหม่ เพื่อที่จะสนับสนุนสินค้าแต่ละประเภทและภูมิภาคให้ดีที่สุด รวมทั้งการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดภายใต้มาตรฐานการให้บริการระดับสูงผ่านขั้นตอนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ

          “การออกแบบองค์กรใหม่นี้จะช่วยให้เรามีความก้าวหน้าในการปูทางไปสู่การเติบโตของผลกำไร” มิเชล สแกนนาวินี ซีอีโอของโคตี้กล่าว “เราจะมีความเชี่ยวชาญมากขึ้นในการกำหนดความสำคัญและจัดสรรทรัพยากรได้ดีขึ้นจากแรงผลักดันของผู้บริโภค มีความคล่องตัวมากขึ้น, ลดความซ้ำซ้อนและสิ่งที่ไม่จำเป็น เรามั่นใจว่าองค์กรใหม่นี้จะช่วยให้เราสามารถปลดปล่อยศักยภาพของแบรนด์และภูมิปัญญาของเราได้อย่างเต็มที่”

          เกี่ยวกับ โคตี้ อิงค์
          โคตี้ เป็นบริษัทความงามชั้นนำระดับโลกที่มีรายได้สุทธิ 4.6 พันล้านดอลลาร์ในปีงบการเงิน ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556 โคตี้ก่อตั้งขึ้นที่กรุงปารีสในปีพ.ศ.2447 ในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจความงามครบวงจรอย่างแท้จริง โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์น้ำหอม เครื่องสำอาง ตลอดจนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณและเรือนร่าง ซึ่งเป็นที่รู้จักและวางจำหน่ายในกว่า 130 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก โคตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ระดับโลก เช่น adidas, Calvin Klein, Chloe, Davidoff, Marc Jacobs, OPI, philosophy, Playboy, Rimmel และ Sally Hansen

          ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า
          เนื้อหาบางส่วนของข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองในปัจจุบันของโคตี้ อิงค์ (“บริษัท”) ตามกลยุทธ์ด้านธุรกิจของบริษัท การประกาศโครงการปรับโครงสร้างองค์กร และผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ รวมไปถึงผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัท ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ระบุเป็นคำศัพท์หรือประโยค เช่น “มุ่ง”, “จะ”, “คาดว่า”, “นำมาซึ่ง”, “กลายเป็น”, “เชื่อมั่น”, “ผลลัพธ์” และคำศัพท์หรือประโยคที่คล้ายกัน ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจจะแตกต่างไปจากผลลัพธ์จากการคาดการณ์อันเนื่องมาจากความเสี่ยงและความไม่แน่นอนซึ่งรวมถึง ความสามารถของบริษัทในการดำเนินการตามโครงการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ให้เป็นไปตามแผน; ความสามารถของบริษัทในการบรรลุกลยุทธ์ธุรกิจระดับโลกและการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพในตลาด; และโครงสร้างองค์กรใหม่ในการปรับปรุงความร่วมมือและการจัดสรรทรัพยากรที่ดียิ่งขึ้น, ลดการซ้ำซ้อน, เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการบริหารการขายที่แข็งแกร่ง, การสร้างทรัพยากรเพิ่มขึ้น, การผลักดันนวัตกรรมที่ดีที่สุดในวงการเพื่อสนับสนุนการเติบโต ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่เป็นไปได้ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินการทางธุรกิจและการเงินของบริษัทได้รวบรวมเอาไว้ภายใต้หัวข้อ “ปัจจัยเสี่ยง” และ “การบริหาร” และการวิเคราะห์สถานะทางการเงินและผลประกอบการในรายงานประจำปีของบริษัทบนแบบฟอร์ม Form 10-K  สำหรับปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2556 และรายงานประจำงวดที่บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เมื่อครบกำหนด บริษัทไม่ได้ตั้งสมมติฐานเรื่องความรับผิดชอบในการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่จัดทำขึ้นแต่อย่างใด