นายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา ได้รับตัวอย่างส่งตรวจจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา จำนวน ศูนย์วิทยาศาสตร์ ตัวอย่าง จำแนกเป็น ของเหลวใสในขวดแก้วสีชา จำนวน สำนักงานสาธารณสุข ตัวอย่าง และตัวอย่างเครื่องดื่มน้ำหมักในภาชนะบรรจุปิดสนิท จำนวน จังหวัดนครราชสีมา ตัวอย่าง ได้แก่ เครื่องดื่มน้ำหมักพืชแท้เต็มพลัง ตราผู้ใหญ่สุพรรณ และเครื่องดื่มน้ำสมุนไพรหมักเต็มพลัง ตราโสมตังเซียม ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบเชื้อโคลิฟอร์ม ( Coliforms ) และ อี. โคไล ( E. coli ) ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษ ในปริมาณที่เกินมาตรฐานกำหนด รวมทั้งมีส่วนผสมของยาและสารเคมีอันตรายในเครื่องดื่มน้ำหมักทั้ง จังหวัดนครราชสีมา ตัวอย่าง ได้แก่ สารไดคลอโรมีเทน (Dichloromethane) สารไซ-โปรเฮปตาดีน (Cyproheptadine) โดยพบสารไดคลอโรมีเทนในเครื่องดื่มน้ำหมักพืชแท้เต็มพลัง ตราผู้ใหญ่สุพรรณ 4,695 มิลลิกรัม/ลิตร ในน้ำสมุนไพรหมักเต็มพลัง ตราโสมตังเซียม พบไดคอลโรมีเทน 5,สำนักงานสาธารณสุข74 มิลลิกรัม/ลิตร ส่วนในของเหลวใสในขวดแก้วสีชา ตรวจพบสารไดคลอโรมีเทน ในปริมาณสูงถึง 69จังหวัดนครราชสีมา,กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์88 มิลลิกรัม/ลิตร ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สหรัฐอเมริกา กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ยามีปริมาณไดคลอโรมีเทนเจือปนได้ไม่เกิน 6กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ส่วนในล้านส่วน หรือคิดเป็น 6กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มิลลิกรัม/ลิตร นอกจากนี้สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม สหรัฐอเมริกา กำหนดให้มีปริมาณไดคลอโรมีเทนปนเปื้อนในน้ำดื่มได้ไม่เกิน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์.กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์5 มิลลิกรัม/ลิตร อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา ได้รายงานผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยผู้บริโภคไม่ควรซื้อน้ำหมักดังกล่าวมาบริโภค
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า หากผู้บริโภคดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรน้ำหมักที่มีสารไดคลอโรมีเทน จะทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อาจทำให้เกิดแผลและมีเลือดออกในทางเดินอาหาร ทำให้มีเอ็นไซม์ตับสูงขึ้น และอาจจะเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ได้ นอกจากนี้เชื้อโคลิฟอร์ม และอี. โคไล ที่ตรวจพบในน้ำหมักจะทำให้ผู้บริโภคเกิดอาการท้องร่วงเล็กน้อย จนกระทั่งรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว อาจจะมีเลือดปน และมีไข้ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสมุนไพรจะได้รับเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ถ้าผู้ผลิตยังเติมสารอันตรายลงในผลิตภัณฑ์ และมีสุขลักษณะการผลิตที่ไม่ดี ผู้บริโภคจึงมีความเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
นางธิดารัตน์ บุญรอด ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่า ไดคลอโรมีเทน จัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ สำนักงานสาธารณสุข ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. จังหวัดนครราชสีมา5ศูนย์วิทยาศาสตร์5 ของกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นสารที่มีสภาพเป็นของเหลวใสไม่มีสี ระเหยได้ง่าย ไม่ติดไฟและไม่ระเบิด ใช้เป็นตัวละลายไขมันและเป็นตัวทำละลายแว็กซ์และเรซิน จึงมีการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตสี พลาสติก และฟิล์มถ่ายภาพ หากกลืนกินจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน เกิดแผลและมีเลือดออกในทางเดินอาหาร หากหายใจเอาสารดังกล่าวเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคือง ไอ หายใจลำบาก เจ็บแน่นทรวงอก กล้ามเนื้อหัวใจตาย และหัวใจหยุดเต้นได้ นอกจากนี้ มีรายงานว่า สารไดคลอโรมีเทน เป็นสารที่ก่อให้เกิดเนื้องอกในระบบทางเดินหายใจ ตับ และเต้านมในสัตว์ทดลอง รวมถึงอาจเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ด้วย สำหรับการปฐมพยาบาล ถ้ากลืนกินสารเข้าไปอย่ากระตุ้นให้อาเจียน ควรนำส่งแพทย์ทันที ถ้าหายใจเข้าไปให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกสู่บริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ หากผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยผายปอด และนำส่งแพทย์ ถ้าสัมผัสถูกผิวหนังให้ล้างออกด้วยสบู่ ถ้าถูกลูกตาให้ล้างทันทีด้วยน้ำอย่างน้อย สำนักงานสาธารณสุข5 นาที
สำหรับไซโปรเฮปตาดีน เป็นยาในกลุ่มแอนติฮีสตามีน จัดเป็นยาแผนปัจจุบันประเภทยาอันตราย ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. จังหวัดนครราชสีมา5สำนักงานสาธารณสุขกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ใช้รักษาอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน น้ำมูกไหล ลมพิษ ทั้งยังมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ใช้ป้องกันอาการปวดศีรษะจากไมเกรน และยานี้มีผลข้างเคียงทำให้ง่วงซึม ปากแห้ง หรือมองภาพไม่ชัดเจน ช่วยกระตุ้นให้ทานอาหารได้ การรับประทานยาไซโปรเฮปตาดีนจึงควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร
N Health Novogene จับมือ ศิริราชพยาบาล และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ เท็นกุ (Xcoo) บริษัทจากประเทศญี่ปุ่น พัฒนาแพลตฟอร์มแปลผลการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็ง โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และข้อมูลจากโครงการจีโนมิกส์ประเทศไทย บริษัท เอ็นเฮลท์ โนโวยีน จีโนมิกส์ จำกัด ภายใต้การบริหารงานของ N Health ในเครือ BDMS ผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์พันธุกรรมที่ครอบคลุมทุกมิติของการดูแลและรักษาสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล ผ่านห้องปฎิบัติการจีโนมิกส์โดยใช้เทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์ทางพันธุศาสตร์ขั้นสูงและได้มาตรฐานสากล
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เสริมความรู้ผู้ประกอบการโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต กระบี่ และพังงา เฝ้าระวังตัวเรือด เชื้อลีจิโอเนลลา และเชื้อไวรัสโนโร ด้วย 3C
—
กรมวิทยาศาส...
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เสริมความรู้ความเข้าใจ ระบบคุณภาพ OECD GLP สร้างความเข้มแข็งหน่วยตรวจสอบขึ้นทะเบียนแห่งชาติ
—
สำนักมาตรฐานห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศา...
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมเครือข่ายเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัส hMPV
—
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมเครือข่ายเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัส hMPV ทางห้องปฏิบัติการ ...
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยโควิด 19 สายพันธุ์ JN.1* ยังเป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในไทย แนะกลุ่มเสี่ยงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้ออย่างสม่ำเสมอ
—
นายแพทย์ยงย...
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พัฒนาคุณภาพการตรวจน้ำตาลสะสมในเลือด มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพิ่มความแม่นยำในการรักษาเบาหวาน
—
นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิท...
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดบ้านให้นักเรียน ชมห้องแล็บ เรียนรู้สร้างแรงบันดาลใจ
—
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดบ้านให้คณะครูและนักเรีย...
กรมวิทย์ฯ เผยผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์ของเชื้อไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย และการกลายพันธุ์ของยีน ย้ำวัคซีนยังมีประสิทธิภาพสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้
—
นายแพทย์ยงย...
นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในงาน 30 บาทรักษาทุกที่
—
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ใ...