ตั้งแต่มีการออกอากาศทีวี
ซีรี่ส์ เรื่อง Walking with Dinosaurs ได้มีการค้นพบ
ไดโนเสาร์ใหม่ๆ มากขึ้น ทำให้เราเกิดความ
เข้าใจสิ่งมีชีวิตสุดอัศจรรย์เหล่านี้ในอีกระดับ ได้มีการขุดค้นซากไดโนเสาร์ในทุกทวีป แสดงให้เห็นว่ามีการเคลื่อนที่เป็นกลุ่มทั่วโลกในยุค Mesozoic ซึ่งครอบคลุมยุคที่มีความสำคัญทางธรณีวิทยา ได้แก่ ยุคไทรแอสซิก ยุคจูราสซิก และยุคครีเทเชียส โดยภาพยนตร์สามมิติเป็นเรื่องราวที่เกิดในช่วงปลายยุคครีเทเชียส
การค้นพบล่าสุดที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเรื่อง WALKING WITH DINOSAURS ได้รวมถึง:
- โลกแห่ง WALKING WITH DINOSAURS
- ฝูงสัตว์
- มีการพบ “กองกระดูก” ขนาดใหญ่ที่อลาสก้าและแคนาดานานกว่า 20 ปีที่แล้ว ทำให้เราเกิดความสนใจซากสัตว์นับร้อยที่มีความคล้ายคลึงกัน มีทั้งอายุมากและน้อยที่กองอยู่รวมกัน เป็นการบอกโดยนัยว่าเกิดการล้มตายครั้งใหญ่จากภัยพิบัติ อาทิเช่น น้ำท่วมฉับพลัน (ในภาพยนตร์มีการนำเสนอฉากที่น้ำแข็งบนทะเลสาบแตกตัว) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสุดในเรื่องราวที่แสดงให้เห็นว่า ฝูงสัตว์กินพืชขนาดใหญ่ อาทิเช่น แพกคิไรโนซอรัส และ เอ็ดมอนโตซอรัส ต้องร่อนเร่ในยุคปลายครีเทเชียสอลาสก้า
- การอพยพ
- ฝูงสัตว์ขนาดใหญ่ไม่สามารถอยู่ในสถานที่แห่งเดียวได้โดยไม่ทำลายพืชผักที่เป็นแหล่งอาหารของพวกมัน ไดเสาร์บางชนิดจึงมีการอพยพทุกปีในระยะทางไกล เพื่อหาอาหารและปัจจัยทางสภาพแวดล้อมที่ชื่นชอบมากขึ้น เช่นเดียวกับกวางแคริบูในปัจจุบัน
- พฤติกรรมในครอบครัว
- เราพบแพทชี่อยู่ในรัง ได้รับการดูแลจากแม่และได้รับการปกป้องจาก บุลดัสท์ พ่อที่มีขนาดใหญ่มาก ไดโนเสาร์ทุกตัวจะมีการวางไข่ ฟอสซิลบางตัวแสดงให้เห็นว่าไดโนเสาร์บางสายพันธุ์มีการดูแลลูกน้อยของพวกมัน อาทิเช่น ฟอสซิลของไดโนเสาร์ที่ดูแลไข่ของพวกมัน และฟอสซิลของลูกไดโนเสาร์ที่อยู่ทั้งในและรอบๆ รัง
- กลุ่มฟอสซิลครอบครัว – มีการรวบรวมฟอสซิลโครงกระดูกและรอยเท้าที่แสดงให้เห็นว่าลูกไดโนเสาร์และไดโนเสาร์โตเต็มวัยหลายสายพันธุ์เดินทางกันเป็นกลุ่ม แสดงให้เห็นว่าไดโนเสาร์ทั้งอายุมากและน้อยยังคงเกาะกลุ่มกันอยู่ แม้ว่าจะออกจากอาณาของรังไปแล้วก็ตาม
- นักแสดงในเรื่อง WALKING WITH DINOSAURS
- ตัวละครมากหน้าหลายตาที่เราพบในภาพยนตร์ มีการอิงมาจากสัตว์การค้นพบฟอสซิลสัตว์จำนวนมากที่อลาสก้าและแครนาดา โดยเฉพาะที่ Prince Creek, Horseshoe Canyon, Bear Paw, Wapiti และ Dinosaur Provincial Park
- ระบบนิเวศ
- การขุดค้น The Denali ได้ต่อรูปร่างของระบบนิเวศในช่วงปลายยุคครีเทเชียสทั้งหมดขึ้นมา อาทิเช่น สายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่สำคัญ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นกต่างๆ (รวมถึงนกชายฝั่งทะเล พวกมุดโคลนและชอบว่ายในน้ำ) สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและแมลงต่างๆ การค้นพบเหล่านี้และเบาะแสอื่นที่ขุดพบในอลาสก้าและที่อื่นๆ ทำให้เราสร้างโลกขึ้นมาใหม่ ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของไดโนเสาร์ที่น่าทึ่งเหล่านี้
- ชีวิตของไดโนเสาร์ที่ถ่ายทอดสู่จอภาพยนตร์:
- การแก่งแย่งที่อาศัย
- ในช่วงที่มีการออกอากาศทีวีซีรี่ส์เรื่อง Dinosaurs เกิดการถกเถียงกันอย่างรุนแรงถึงแนวคิดว่านกมีการสืบทอดมาจากไดโนเสาร์ ตอนนี้ไม่มีข้อกังขาใดแล้ว มีการค้นพบครั้งใหม่จำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับไดโนเสาร์ที่เหมือนนกและนกที่เหมือนไดโนเสาร์ โดยเฉพาะพวกที่ปรากฏตัวในพื้นที่ๆ น่าตื่นเต้นอย่างประเทศจีน มีการยอมรับกันว่ามีความสัมพันธ์กันโดยตรงระหว่างไดโนเสาร์เทอโรพอด (เช่น กอร์โกซอรัส) และเชื้อสายของนกต่างๆ
- ฉะนั้นในทางตรงกันข้ามกับความเชื่อที่แพร่หลาย ไดโนเสาร์ไม่ได้สูญพันธุ์เมื่อ 66 ล้านปีที่แล้ว พวกมันยังวนเวียนอยู่รอบตัวเราในร่างของนก ในความเป็นจริงแล้วมีนกราว 10,000 สายพันธุ์สืบทอดสายพันธุ์มาจากไดโนเสาร์มากกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทุกวันนี้
- ผิวหนังและขน
- เราเคยพบการอธิบายถึงไดโนเสาร์ว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ คำว่าไดโนเสาร์นั้นหมายถึง “สัตว์เลื้อยคลานที่น่ากลัว” และเราเกิดจินตนาการว่าพวกมันจะเป็นแบบนั้น แต่อย่างไรก็ตามฟอสซิลจำนวนมากมีเนื้อเยื่อที่นุ่ม ร่องผิวหนังและร่องขน (โดยเฉพาะการค้นพบครั้งสำคัญของไดโนเสาร์ที่มีขนในประเทศจีนและมองโกเลีย) ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าไดโนเสาร์จำนวนมาก (และเทอโรพอดแทบทุกตัว) มีขน โดยเฉพาะของสายพันธุ์ที่น่าจะผลัดขนเมื่ออายุมากขึ้น
- สีสัน
- ในช่วงยุคปลายครีเทเชียส พืชดอกมีการพัฒนาขึ้นมา ทำให้โลกมีหลากหลายสีสัน จึงมีความเป็นไปได้ว่าไดโนเสาร์น่าจะมีการมองเห็นสีเพื่อผสมพันธุ์มากขึ้น หากเป็นเช่นนี้มีความเป็นไปได้ว่าพวกมันมีการสร้างสีสันให้ตัวเอง
- ฟอสซิลที่มีความพิเศษสุดถูกพบที่ประเทศจีนและมองโกเลีย ซึ่งมีการแสดงให้เราเห็นถึงสีสันของไดโนเสาร์ โดยเฉพาะ melanosomes (โครงสร้างของเม็ดสีในเซลล์สัตว์) ที่ถูกรักษาไว้ โดยจากรูปร่างของโครงสร้างเหล่านี้ เราสามารถค้นคว้าตัวอย่างสีสันและลวดลายที่สัตว์เลห่านี้มีได้ Anchiornis huxleyi มีสีขาว ดำ และสีน้ำตาลแดง Sinosauropteryx มีลายเหมือนขิง! นอกจากนั้นไดโนเสาร์อย่างไมโครแรปเตอร์ถูกพบว่ามีขนเหมือนสายรุ้ง ไม่ต่างจากนกจำนวนมากในปัจจุบันนี้ http://www.wired.com/wiredscience/2010/02/dinosaur-fossil-reveals-true-feather-colors/
- การค้นพบของ Hadrosaur ที่ถูกทำมัมมี่ รวมถึงเนื้อเยื่อที่มีความนุ่ม โครงสร้างผิวหนัง แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงของสีสันที่เป็นริ้ว http://news.bbc.co.uk/1/hi/sci/tech/7124969.stm
- แนวคิดใหม่เกี่ยวกับทีโรซอร์
- ทีโรซอร์เคลื่อนไหวบนพื้นดินได้ดีกว่าที่เราเคยเข้าใจ และน่าจะบินหรือร่อนทางไกลได้ดี
- ความสามารถด้านการปรับตัว
- ตอนนี้มีการพบไดโนเสาร์ทั่วทุกทวีปแห่งโลกดึกดำบรรพ์ รวมถึงทั้งสองขั้วโลกที่มีฤดูหนาวอันยาวนานและรุนแรง
- ทรูดอนที่พบในเรื่อง WALKING WITH DINOSAURS มีการอิงจากไดโนเสาร์ที่พบในอลาสก้า พวกมันมีดวงตาขนาดใหญ่ ซึ่งใหญ่กว่าตัวอื่นๆ ในสายพันธุ์ของทรูดอนที่อยู่ในบริเวณอื่นของโลก ดวงตาขนาดใหญ่ของพวกมันมีข้อได้เปรียบในช่วงฤดูหนาวแถบขั้วโลกที่มืดมิด และทำให้มันเป็นนักล่าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอาณาบริเวณ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวละครในภาพยนตร์ที่ออกคุกคามกินสัตว์อื่นเป็นอาหารตลอดเวลา
Walking with Dinosaurs (3D) – วอล์คกิ้ง วิธ ไดโนซอร์ เดอะ 3D มูฟวี่
25 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
https://www.facebook.com/WalkingwithDinosaursthe3DMovieThailand