การยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย โดยบริษัท Standard and Poor’s (S&P’s)

          นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยโดยบริษัท Standard and Poorตราสารหนี้จุฬารัตน์ สุธีธร7;s (S&Pตราสารหนี้จุฬารัตน์ สุธีธร7;s) ว่า S&Pตราสารหนี้จุฬารัตน์ สุธีธร7;s ได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวและระยะสั้นสกุลเงินตราต่างประเทศ (Long-term/Short-term Foreign Currency Rating) ที่ระดับ BBB+/A-ตราสารหนี้ และอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวและระยะสั้นสกุลเงินบาท (Long-term/Short-term Local Currency Rating) ที่ระดับ A-/A-ตราสารหนี้ รวมทั้งได้ยืนยันแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) นอกจากนี้ ยังยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยบน ASEAN Regional Scale ระยะยาวที่ axAA และระยะสั้นที่ axA-จุฬารัตน์ สุธีธร ตามลำดับ และการประเมินการเคลื่อนย้ายและความคล่องตัวในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจุฬารัตน์ สุธีธร ยังอยู่ในระดับ A ดังรายละเอียดสรุปตามตารางต่อไปนี้

          ตารางแสดงผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยโดย S&Pตราสารหนี้จุฬารัตน์ สุธีธร7;s ณ วันที่ ตราสารหนี้7 ธันวาคม ตราสารหนี้556
 

อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยโดย S&P’s

สถานะ

Outlook

อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้สกุลเงินตราต่างประเทศของรัฐบาล

 

 

ระยะยาว (Long-term Foreign Currency Rating)

ระยะสั้น (Short-term Foreign Currency Rating)

BBB+

A-2

Stable

-

อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้สกุลเงินบาทของรัฐบาล

 

 

ระยะยาว (Long-term Local Currency Rating)

ระยะสั้น (Short-term Local Currency Rating)

A-

A-2

Stable

-


          หลักการและเหตุผล
          สถานะภาคต่างประเทศของไทยที่แข็งแกร่ง หนี้รัฐบาลที่อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ และประวัติการดำเนินนโยบายการเงินที่มีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสนับสนุนต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ในขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่มีอย่างต่อเนื่องและการที่เศรษฐกิจมีรายได้ต่ำโดยเปรียบเทียบเป็นข้อจำกัดต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
          โดยปัจจัยที่ยังคงเป็นจุดแข็งของอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ได้แก่ สถานะการลงทุนระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งของไทยและสภาพคล่องที่เป็นเงินตราต่างประเทศที่เพียงพอ การเกินดุลการชำระเงินเป็นเวลานานทำให้มีทุนสำรองสำหรับรองรับดุลบัญชีเดินสะพัดได้ 7.5 เดือน และแม้ว่า S&P’s คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเล็กน้อยในช่วง 2 – 3 ปีข้างหน้า แต่จะสามารถชดเชยการขาดดุลดังกล่าวได้โดยอาศัยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและเงินทุนที่ไหลเข้ามาในตลาดทุน ทำให้หนี้ต่างประเทศที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม ภาระหนี้ต่างประเทศสุทธิอยู่ในระดับปานกลางที่ร้อยละ 26 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ซึ่งเกือบร้อยละ 70 มาจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและการลงทุนในหลักทรัพย์ และประเทศไทยอยู่ในฐานะเจ้าหนี้สุทธิในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 20 ของรายรับบัญชีเดินสะพัดตามนิยามหนี้ต่างประเทศสุทธิอย่างแคบ
          การเกินดุลขั้นต้นของรัฐบาลช่วยรักษาระดับหนี้ของรัฐบาลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในขณะที่การดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่เป็นผลจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดทางเศรษฐกิจทำให้หนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น S&P’s ยังคาดว่า หนี้ของรัฐบาลสุทธิจะยังอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวลที่ประมาณร้อยละ 26 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในช่วง 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ภาระดอกเบี้ยของรัฐบาลที่คิดเป็นประมาณร้อยละ 7 ของรายได้ของรัฐบาลกลางได้ก่อให้เกิดภาระเพียงเล็กน้อยต่อการคลังภาครัฐ
อัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพเป็นเสาหลักที่สำคัญของเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยอัตราเงินเฟ้อของประเทศเฉลี่ยแล้วต่ำกว่าร้อยละ 3 ในช่วง 15 ปี ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เสถียรภาพทางด้านราคาและการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวช่วยรักษาความสามารถทางการแข่งขันด้านการส่งออกของประเทศ การเติบโตของสินเชื่ออยู่ในระดับปานกลาง โดยสินเชื่อภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 130 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในปี 2556 จากร้อยละ 102 ในปี 25502 
          S&P’s คาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศต่อหัวของไทยในปี 2556 ไว้ที่ 6,200 เหรียญสหรัฐ ซึ่งระดับรายได้นี้นับเป็นข้อจำกัดของความน่าเชื่อถือของประเทศเช่นเดียวกับตัวชี้วัดทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณสุข และการศึกษาที่อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับกลุ่มประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่า
          ความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นจุดอ่อนหลักของความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยครั้งตั้งแต่ปี 2549 ทำให้การปฏิรูปโครงสร้างต้องล่าช้าออกไป รวมทั้งเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ความไม่แน่นอนดังกล่าวเป็นข้อจำกัดต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ในขณะที่การชุมนุมคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศ
          S&P’s ประเมินความสามารถและความตั้งใจในการชำระหนี้สกุลเงินบาทของประเทศไทยสูงกว่าสกุลเงินตราต่างประเทศ 1 ระดับ ที่ระดับ A- ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวของประเทศไทยสนับสนุนต่อความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศ และความลึกของตลาดทุนในประเทศช่วยอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านนโยบายการเงิน นอกจากนี้ ความมั่นคงของสถานะการคลังช่วยให้มีช่องทางในการตอบสนองเหตุการณ์รุนแรงที่ไม่คาดคิดได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือ
          แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือ
          แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพสะท้อนถึงการคาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะสามารถรักษาความแข็งแกร่งของภาคต่างประเทศ ภาคการคลัง และภาคการเงินภายใต้เหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในปัจจุบันไว้ได้ใน 2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ดี S&P’s อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ถ้าความสามารถในการปกครองประเทศ (เสถียรภาพทางด้านการเมืองและสถาบัน) ถดถอยลงไปมากกว่าที่ S&P’s สังเกตการณ์ไว้ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา หรือหากตัวชี้วัดทางด้านเศรษฐกิจหรือการคลังอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ ในทางกลับกัน หากผู้นำทางการเมืองของประเทศไทยทำให้เกิดเสถียรภาพทางการเมืองที่ดีขี้น S&P’s เชื่อว่า แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นและส่งผลให้สถานะความน่าเชื่อถือของประเทศแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย

          หมายเหตุ:
          1 การประเมินจะสะท้อนถึงแนวทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาลว่าเป็นไปตามหลักกลไกตลาดและความเปิดของเศรษฐกิจไทยต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยระดับ A สะท้อนว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะออกมาตรการจำกัดการเข้าถึงการแลกเปลี่ยนเงินตราของผู้ออกตราสารหนี้ที่ไม่ใช่รัฐบาลและมีฐานอยู่ในประเทศไทยน้อยกว่าความเป็นไปได้ที่รัฐบาลไทยจะผิดนัดชำระหนี้สกุลเงินตราต่างประเทศ 
          2 S&P’s ใช้ตัวเลขสินเชื่อภาคเอกชนจากฐานข้อมูล International Financial Statistics : IFS แต่ตัวเลขจากการประมาณการของธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างร้อยละ 80 -120 ขึ้นอยู่กับความกว้างของนิยาม

          ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
          โทร. 02 265 8050 ต่อ 5505, 5518

ข่าวสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ+จุฬารัตน์ สุธีธรวันนี้

สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2557

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอแถลงสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2557 ดังนี้ ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2557 มีจำนวน 5,662,574.29 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 46.85 ของ GDP โดยเป็นหนี้ของรัฐบาล 3,924,568.40 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,099,740.05 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 620,440.09 ล้านบาท และ หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 17,825.75 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะ

ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนกรกฎาคม 2557

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนกรกฎาคม 2557 ดังนี้ ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ1. การบริหารจัดการหนี้รัฐบาล 1.1 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐบาล ในเดือนกรกฎาคม 2557 กระทรวงการคลัง...

สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอแถลงสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ดังนี้ ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 มีจำนวน 5,642,430.04 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 46.60 ของ GDP โดยเป็นหนี้ของรัฐบาล 3...

ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนมิถุนายน 2557

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนมิถุนายน 2557 ดังนี้ ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ1. การบริหารจัดการหนี้รัฐบาล 1.1 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐบาล ในเดือนมิถุนายน 2557 กระทรวงการคลัง...

สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2557

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอแถลงสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2557 ดังนี้ ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2557 มีจำนวน 5,532,514.15 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 45.91 ของ GDP โดยเป็นหนี้ของรัฐบาล 3,907...

การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ.2557

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ แถลงว่า สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะดำเนินการออกพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 แบบไร้ใบตราสาร (Scripless) วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท...

ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนพฤษภาคม 2557

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนพฤษภาคม 2557 ดังนี้ ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ1. การบริหารจัดการหนี้รัฐบาล 1.1 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐบาล ในเดือนพฤษภาคม 2557 กระทรวงการคลัง...

สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2557

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอแถลงสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2557 ดังนี้ ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2557 มีจำนวน 5,583,828.29 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46.56 ของ GDP โดยเป็นหนี้ของรัฐบาล 3,957,385...

ภาพข่าว: ผอ.สบน. แถลงผลการจัดหาเงินกู้แก่ ธ.ก.ส. วงเงิน 50,000 ล้านบาท

ผอ.สบน. แถลงผลการจัดหาเงินกู้แก่ ธ.ก.ส. วงเงิน 50,000 ล้านบาท นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ แถลงข่าวผลการจัดหาเงินกู้วงเงิน 50,000 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายในโครงการรับจำนำข้าวแก่ธนาคารเพื่อการเกษตร...

การยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทย และการปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเป็นลบ โดยบริษัท Rating and Investment Information, Inc. (R&I)

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับ ผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยโดยบริษัท Rating and...