ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ยืนยันการรับประทานถั่วไม่ทำให้อ้วน

กรานาดา, สเปน--23 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์


- การบริโภคถั่วทุกวันช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด

นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำได้เปิดเผยผลการศึกษาขนาดใหญ่ล่าสุดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการบริโภคถั่วเปลือกแข็งกับสุขภาพ โดยเฉพาะการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคหลอดเลือดสมอง ตลอดจนโรคหัวใจและหลอดเลือดต่างๆ โดยผลการศึกษาเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการรับประทานถั่วเป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคในกลุ่มหัวใจและหลอดเลือดแล้ว ยังส่งผลดีต่อการทำงานของไต โรคเบาหวาน กระบวนการรับรู้ โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคอ้วนลงพุง ตัวบ่งชี้การอักเสบทางชีวภาพ ฯลฯ นับเป็นเรื่องสำคัญที่จะเน้นย้ำให้เห็นว่า หลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า การบริโภคถั่วไม่มีส่วนเพิ่มความเสี่ยงให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น แต่กลับยิ่งสนับสนุนว่าถั่วเป็นแหล่งสารอาหารที่สำคัญ

รับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่

http://www.multivu.com/mnr/62432-scientifically-proven-nuts-are-not-fattening

ในการประชุม International Congress of Nutrition (ICN) ที่เมืองกรานาดา ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 15-20 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น International Nut and Dried Fruit Council ได้จัดงานอภิปรายเรื่อง “ถั่วกับสุขภาพและโรคภัย” โดยมีนักวิจัยชั้นนำของโลก 5 ท่านร่วมแบ่งปันผลการศึกษาที่ค้นพบล่าสุด

หนึ่งในข้อมูลสถิติที่ได้รับความสนใจได้แก่ การวิจัยชื่อ PREDIMED ที่มุ่งศึกษาว่า การบริโภคถั่วเปลือกแข็งวันละ 1 กำมือ (วอลนัต 15 กรัม เฮเซลนัต 7.5 กรัม และอัลมอนด์ 7.5 กรัม) ช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด (โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคหลอดเลือดสมอง และการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด) ถึง 28% ได้อย่างไร

ดร. โมนิกา บุลโล ผู้วิจัยหลักของโครงการ EPIRDEM สรุปว่า การรับประทานถั่วพิสตาชิโอเป็นประจำมีผลโดยตรงต่อการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยมีการศึกษาความสัมพันธ์ของถั่วพิสตาชิโอกับระดับไขมันในเลือด และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆของโรคหัวใจและหลอดเลือด เพื่อประเมินผลกระทบที่มีต่อกระบวนการเผาผลาญกลูโคส ภาวะดื้อต่ออินซูลิน และความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์แฟรงค์ หู จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดยังได้นำเสนอผลการศึกษาที่สำคัญเกี่ยวกับการระบาดวิทยา และถั่วเปลือกแข็ง ตลอดจนผลของการรับประทานถั่วที่มีต่อกลุ่มโรคเรื้อรัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การบริโภคถั่วมากขึ้น (มากกว่าหรือเท่ากับ 5 ครั้งต่อสัปดาห์) มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ 30%

ลินดา แท็ปเซลล์ ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยวูลองกอง ประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า การบริโภคถั่วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น พร้อมกับแนะนำให้รับประทานถั่วในมื้ออาหารเพื่อป้องกันโรคอ้วนและโรคเรื้อรังอื่นๆ

ด้านดร. ซาบาเต ศาสตราจารย์ประจำโรงเรียนสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยโลมา ลินดา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาประโยชน์ของถั่วที่มีต่อสุขภาพ กล่าวสรุปว่า “ข้อมูลทางระบาดวิทยาบ่งชี้ว่า การเพิ่มถั่วในอาหารมีความเสี่ยงน้อยมากต่อการที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งข้อสรุปนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากการศึกษาทางคลินิกจำนวนมากอีกด้วย”

เว็บไซต์: http://www.nutfruit.org

แหล่งข่าว : INC International Nut & Dried Fruits

-ปป-

ข่าวโรคหัวใจและหลอดเลือด+โรคหลอดเลือดสมองวันนี้

เมอร์ค ร่วมสนับสนุน "สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ" รณรงค์โครงการ "อยากให้คนไทยไม่เป็นเบาหวาน" ชวนคนไทยประเมินความเสี่ยงผ่าน QR Code ง่ายๆ เพียง 1 นาที

นายพอล ลิดเคอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์ค จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีจัดให้เป็นวันเบาหวานโลก โดยปัจจุบันพบว่าคนไทยมีภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) สูงถึง 1 ใน 3 และมีโอกาสเสี่ยงสูงกว่าคนปกติที่จะเกิดโรคเบาหวานในอนาคตอันใกล้ได้มากถึง 7 เท่า ซึ่งภัยเงียบจากการเกิดโรคเบาหวาน ไม่เพียงแต่จะทำให้พบว่ามีน้ำตาลในเลือดสูง แต่ยังส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนที่อันตรายต่อชีวิตได้ในอนาคต เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมองและเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไต จอประสาทตา

โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ พร้อมด... แพ็กเกจผ่าตัดเหมาจ่าย อุ่นใจ สบายกระเป๋า ที่โรงพยาบาล บี.แคร์ฯ — โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ พร้อมดูแลคุณในทุกมิติ ด้วยเทคโนโลยี และทีมแพทย์เฉพาะทา...

โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ร่วมกับลูกค้าที่สั่ง... รพ.ไทยนครินทร์ จัดโครงการส่งต่อวัคซีนทางเลือก Moderna ให้กับกลุ่ม 608 — โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ร่วมกับลูกค้าที่สั่งจองวัคซีนทางเลือก Moderna จัดโครงการ "ลูก...

องค์กรโรคหลอดเลือดสมองแห่งยุโรป เผยปัจจัยเสี่ยงใหม่ของโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวายเพิ่มขึ้นมากในผู้หญิง

ผลการศึกษาใหม่ที่ได้รับการนำเสนอในการประชุมขององค์กรโรคหลอดเลือดสมองแห่งยุโรป (European Stroke Organisation: ESO) ระบุว่า ความเครียดจากการทำงาน ความผิดปกติด้านการนอน และความเหนื่อยล้า ซึ่งเป็นปัจจัย...

วันหัวใจโลก: การเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเกือบ 1 ใน 5 มีสาเหตุจากมลพิษทางอากาศ คร่าชีวิตปีละ 3 ล้านคนทั่วโลก

- เนื่องในโอกาสวันหัวใจโลก (World Heart Day: WHD) วันที่ 29 กันยายนนี้ สมาพันธ์หัวใจโลก (World Heart Federation: WHF) รณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมลพิษทางอากาศกับ...

โรคหัวใจและหลอดเลือด นับเป็นปัญหาสุขภาพขอ... รพ.ราชวิถี ชวนคนไทยใส่ใจสุขภาพ ให้ห่างไกลโรคหัวใจ — โรคหัวใจและหลอดเลือด นับเป็นปัญหาสุขภาพของคนทั่วโลก โดย สหพันธ์โรคหัวใจโลก ระบุว่า โรคหัวใจและโรคหลอด...