ไนท์แฟรงค์เผยตลาดคอนโดชานเมืองขับเคลื่อนการเติบโตของตลาด คอนโดกรุงเทพฯช่วงครึ่งแรกของปีนี้

กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์

คุณริษิณี สาริกบุตร อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าคอนโดมิเนียมชานเมืองมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมกรุงเทพมหานครด้วยจำนวน 22,465 ยูนิตหรือคิดเป็นประมาณ 70% ของโครงการเปิดตัวใหม่ทั้งหมด โดยการเติบโตนั้นเด่นชัดที่สุดในพื้นที่ใกล้กับเส้นทางขนส่งมวลชนส่วนขยายต่างๆ ฝ่ายวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทยได้ทำการสำรวจอุปทานคอนโดมิเนียมของกรุงเทพมหานครในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ พบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นมีจำนวนยูนิตใหม่เข้าสู่ตลาดราว 32,244 ยูนิตหรือคิดเป็นการเติบโต 12% จากสิ้นปี ค.ศ. 2012 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ส่วนมากนั้นอยู่ในพื้นที่ชานเมือง ส่วนคอนโดมิเนียมในย่านรอบนอกของตัวเมือง และย่านธุรกิจใจกลางเมืองคิดเป็น 25% และ 5% ของโครงการเปิดใหม่ตามลำดับ การเติบโตของคอนโดมิเนียมย่านชานเมืองได้รับอานิสงส์จากการขยายเครือข่ายขนส่งมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายเส้นทางเดินรถไฟบีทีเอสจากอ่อนนุชไปถึงแบริ่งซึ่งครอบคลุมกรุงเทพฝั่งตะวันออกตามแนวถนนสุขุมวิทตอนนอกและจากกรุงธนบุรีไปบางหว้าซึ่งครอบคลุมทางใต้ของเมืองข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปถึงเขตธนบุรี นอกจากนี้ยังมีโครงการใหม่จำนวน 13 โครงการรวม 5,486 ยูนิตขึ้นใกล้กับเส้นทางรถไฟเอ็มอาร์ทีสายสีม่วงส่วนขยายซึ่งเชื่อมต่อระหว่างโซนตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเทพจากบางซื่อไปยังนนทบุรี ส่วนบริเวณใกล้กับบีทีเอสส่วนขยายจากอ่อนนุชไปแบริ่งนั้นมีโครงการขึ้นใหม่ 12 โครงการรวม 3,136 ยูนิต เมื่อนับจำนวนยูนิตใกล้เส้นทางขนส่งมวลชนส่วนขยายเหล่านี้แล้วได้เป็นจำนวนประมาณ 9,123 ยูนิตหรือ 46% ของอุปทานใหม่ทั้งหมดในช่วงครึ่งปีแรกของปี ค.ศ. 2013 คุณริษิณีกล่าวเพิ่มเติมว่าคอนโดมิเนียมใหม่ใกล้เส้นทางเดินรถไฟบีทีเอสส่วนขยายจากกรุงธนบุรีไปบางหว้ามีดีมานด์มากที่สุดหรือประมาณ 51% ของอุปทานใหม่ทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว มีบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายรายเข้าสู่ตลาดในเซ็กเมนท์นี้เนื่องจากเป็นทำเลสำคัญสำหรับการพัฒนาคอนโดมิเนียมจากการที่มีเส้นทางขนส่งมวลชนทั้งบีทีเอสและเอ็มอาร์ทีซึ่งสามารถให้บริการประชาชนที่พักอาศัยในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี พื้นที่ตั้งแต่ถนนสุขุมวิทตอนนอกจากอ่อนนุชไปสมุทรปราการก็ได้กลายมาเป็นทำเลสำคัญสำหรับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมด้วยเช่นกัน คอนโดมิเนียมในย่านนี้มีอัตราการขายที่ดี มียอดขายเกือบ 49.68% อยู่ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ การเติบโตตรงจุดนี้สะท้อนให้เห็นถึงปริมาณที่ดินที่ยังมีเหลืออยู่และมีราคาไม่สูงเหมือนกับย่านถนนสุขุมวิทตอนใน ทั้งยังสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้โดยใช้ทั้งถนนหรือระบบขนส่งมวลชนต่างๆด้วย พื้นที่ในย่านนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าขายปลีกและศูนย์จัดนิทรรศการในจำนวนที่เพียงพอต่อการใช้งาน ประกอบกับการที่ในปัจจุบันมีอุปทานในปริมาณที่ค่อนข้างต่ำจึงทำให้เราเชื่อว่าจะต้องมีการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมอย่างมีนัยยะสำคัญอย่างแน่นอนในอนาคต ตัวเลขจากฝ่ายวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทยชี้ให้เห็นว่าอัตราการซื้อในตลาดคอนโดมิเนียมกรุงเทพมหานครโดยรวมอยู่ในระดับที่ดี ยูนิตที่เปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มีอัตราการซื้อประมาณ 56.55% หรือขายได้แล้ว 18,234 ยูนิต สำหรับในพื้นที่ชานเมืองกรุงเทพมหานครนั้นอัตราการซื้อก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ 52.81% หรือขายได้แล้ว 11,864 ยูนิต อุปสงค์สำหรับคอนโดมิเนียมในย่านชานเมืองกรุงเทพมหานครจะอยู่ในเซ็กเมนท์ระดับกลางและระดับล่าง มีกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมายคือกลุ่มที่เดิมใช้วิธีเช่าอพาร์ทเมนท์พักอาศัย แต่ในปัจจุบันต้องการเป็นเจ้าของยูนิตในคอนโดมิเนียมและผ่อนค่างวดในระดับที่ใกล้เคียงกับเงินที่เดิมจ่ายเป็นค่าเช่า ห้องจึงมีขนาดเล็กแต่ผู้ซื้อก็ได้ประโยชน์จากการที่ได้อยู่ใกล้กับเส้นทางของบีทีเอสหรือเอ็มอาร์ที คอนโดมิเนียมย่านชานเมืองที่มีราคาขายเฉลี่ยสูงสุดคือโครงการตามเส้นทางบีทีเอสส่วนขยายจากกรุงธนบุรีไปบางหว้าซึ่งสร้างเสร็จแล้ว มีราคาอยู่ที่ราว 106,083-109,111 บาทต่อตารางเมตรซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงการที่ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยทำโครงการใกล้กับสถานีบีทีเอส อาทิ Ideo Sathorn-Thapra และ Nye by Sansri ซึ่งมีราคายูนิตขนาดประมาณ 30 ตารางเมตรแบบหนึ่งห้องนอนอยู่ที่ราว 2.79-2.99 ล้านบาท ราคาขายโดยเฉลี่ยของโครงการที่ตั้งอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนขยายจากอ่อนนุชไปแบริ่งอยู่ที่ 85,046-97,672 บาทต่อตารางเมตร และราคาขายโดยเฉลี่ยของโครงการที่ตั้งอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีสายสีม่วงอยู่ที่ประมาณ 56,330-65,341 ต่อตารางเมตร คุณริษิณี คาดว่าอุปทานของโครงการคอนโดมิเนียมย่านชานเมืองของกรุงเทพมหานครจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงส่วนขยายของเครือข่ายระบบขนส่งมวลชนในเขตธนบุรี บริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จะลงทุนเพิ่มเติมเพื่อตอบรับอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ซื้อที่พักอาศัยเป็นครั้งแรกซึ่งต้องการคอนโดมิเนียมที่สามารถทำให้ตนเดินทางเข้าเมืองได้โดยสะดวกโดยการใช้ระบบขนส่งมวลชน แต่การซื้อยูนิตในโครงการใกล้รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีสายสีม่วงยังคงเป็นไปอย่างเชื่องช้า ปัจจุบันยังมีจำนวนยูนิตเหลืออีกมาก ด้วยเหตุนี้เองผู้พัฒนาต่างๆจึงควรระมัดระวังว่าอาจเกิดสภาวะโอเวอร์ซัพพลายในอนาคตได้ -กภ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์+ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยวันนี้

แต่งตั้ง ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ตัวแทนบริหารการขาย โครงการ Dhepa (เทพา) Courtyard Urban Home

คุณภาวุฒิ วรรธนะกุล กรรมการ บริษัท เอเซียถือหุ้น จำกัด และ คุณชุติพงษ์ วิชัยดิษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริมทราย จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ Dhepa (เทพา) Courtyard Urban Home ลงนามแต่งตั้ง บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นตัวแทนบริหารการตลาดและการขาย โดยมี มร.แฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหาร หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านที่พักอาศัย เข้าร่วมงาน เมื่อเร็วๆ นี้ (วันที่ 23 พ.ย. ณ โครงการเทพา รามคำแหง 118) ด้านรายละเอียด โครงการ Dhepa (เทพา) Courtyard

ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเผยตลาดคอนโดมิเนียมในภ... ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเผยซัพพลายคอนโดมิเนียมในภูเก็ตสูงขึ้นในขณะที่ดีมานด์ลดลงเล็กน้อย — ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเผยตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ตในช่วง 9 เดือนของปี 20...

ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเปิดเผยว่าราคาเฉลี่ยขอ... ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเผยราคาขายคอนโดเกรดเอ ติดโค้งน้ำเจ้าพระยาพุ่งสูง — ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเปิดเผยว่าราคาเฉลี่ยของคอนโดมีเนียม เกรดเอ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ...

“เมโทรโพลิสฯ” ลุยเปิดโครงการหรู “วิลล่า นครินทร์” บ้านเดี่ยว เฟสใหม่ โซนสวยชูจุดขาย flexible deal ทำเล-คุ้มราคา เดินทางสู่แลนด์มาร์คสำคัญ

ด้าน "ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย" ตัวแทนขาย เผยดีมานด์บ้านหรู อ่อนนุช-วงแหวน พุ่ง 87 เปอร์เซนต์ คาดปีหน้า ซัพพลายบริเวณอ่อนนุช-วงแหวนขาดแคลน กลุ่มบริษัท เมโทร โพลิสพรอพ...