ทั้งนี้ สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ จะมาจากการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลประมาณ 70% ส่วนอีก 30% มาจากจำหน่าย น้ำมันปาล์ม เพื่อใช้สำหรับบริโภค โดยบริษัทฯประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 3,400 ล้านบาท
เนื่องจากบริษัทฯมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการกลั่นน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่ 1,150 ตันต่อวัน จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 350 ตันต่อวัน ซึ่งจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯสามารถรองรับคำสั่งซื้อ(ออเดอร์)ได้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
“ ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 9% อัตรากำไรสุทธิ 4.4% ซึ่งถือเป็นอัตรากำไรที่สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯมา โดยเป็นผลจากที่บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายอนุรักษ์ กล่าว
บริษัทฯ มีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอไอ พอร์ตส์ แอนด์ เทอมินัลส์ จำกัด (AIPT) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือและคลังน้ำมันเชื้อเพลิง 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร และอำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร และบริษัท เอไอ โลจิสติกส์ จำกัด (AIL) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งทางทะเล ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเรือขนส่งคุณภาพสูงให้บริการรวม 2 ลำคือ “เรือธารีรัตนา 1” และ “เรือธารีรัตนา 3” ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯสามารถบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายได้โดยเฉลี่ยต่อปีได้เป็นจำนวนมาก
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่าระหว่างวันที่ 4 พ .ย – 19 พ.ย. นี้ AIE เตรียมเดินสายให้ข้อมูลนักลงทุน 15 จังหวัด ได้แก่ ระยอง , ชลบุรี , นครปฐม , ราชบุรี ,เชียงใหม่ ,นครราชสีมา ,ขอนแก่น ,อุดรธานี ,พิษณุโลก ,นครสวรรค์ ,อุบลราชธานี , ภูเก็ต , สงขลา , สมุทรสาคร และ กรุงเทพฯ ทั้งนี้ เพื่อให้นักลงทุนตามจังหวัดดังกล่าวได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของAIE ได้มากขึ้น เนื่องจากAIE เป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานดีเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนน้ำมันไบโอดีเซลจากฟอสซิล รวมถึงธุรกิจคลังน้ำมันและการขนส่งน้ำมันทางทะเล ดังนั้น เชื่อว่าการโรดโชว์ในครั้งนี้ จะสามารถสร้างความเข้าใจระหว่างนักลงทุน และ บริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนทั่วทุกจังหวัดอย่างแน่นอน