บทความ: บุหรี่และมะเร็งปอด 2556

กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--คอร์ แอนด์ พีค

นพ.เจษฎา มณีชวขจร อายุรแพทย์มะเร็ง โรงพยาบาลราชวิถี กรรมการสมาคมมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทยและ แพทย์จากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย จากข้อมูล CDC (Centers of Disease Control and Prevention) ของสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2543-2547 พบว่าการสูบบุหรี่มีผลต่ออัตราการเสียชีวิตในโรคสำคัญต่างๆ ดังนี้ 1. มะเร็งปอด 29 เปอร์เซ็นต์ 2. มะเร็งชนิดอื่นๆ 8 เปอร์เซ็นต์ 3.หัวใจขาดเลือด 28 เปอร์เซ็นต์ 4. ถุงลมปอดโป่งพอง 21 เปอร์เซ็นต์ 5. สมองขาดเลือด 4 เปอร์เซ็นต์ และ โรคอื่นๆ 10 เปอร์เซ็นต์ และพบว่ามีสารหลายชนิดในส่วนประกอบของบุหรี่ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ได้แก่ 1.สารทาร์ หรือ น้ำมันดิน เป็นส่วนประกอบสำคัญของใบยาสูบ มีลักษณะเหนียว สีน้ำตาลเข้ม เป็นสารก่อมะเร็ง โดยสารที่เรียกว่า Benzopyrene สารนี้ก่อการระคายเคืองเรื้อรังทำให้มีอาการไอ ถุงลมโป่งพอง 2.สารกัมมันตรังสี ในควันบุหรี่มีสารโพโลเนียม – 210 ที่ให้รังสีแอลฟา ทำให้เกิดการระคายเคืองเรื้อรังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งอีกส่วนหนึ่งและ 3.ยาฆ่าแมลงหรือสารตกค้างในใบยาสูบจากการพ่นสารพิษเพื่อฆ่าแมลง แม้บุหรี่จะมีไส้กรองด้านท้ายบุหรี่ก่อนสูบเข้าสู่ร่างกาย แต่ก็ไม่สามารถกรองสารพิษเหล่านี้ได้ในทางตรงกันข้ามการกรองสารเหล่านี้ให้ผ่านเข้าทางเดินหายใจด้วยขนาดเล็กลงจะทำให้เข้าสู่ถุงลมส่วนปลายได้ง่ายและเร็วขึ้น ในระยะหลังจึงพบพยาธิสภาพที่หลอดลมส่วนปลายหรือถุงลมได้มากขึ้นและมีความรุนแรงของโรคมากขึ้นไม่เหมือนหลอดลมส่วนต้น ผู้ป่วยมะเร็งปอดส่วนปลายหรือบริเวณถุงลมปอด มักมาพบแพทย์ช้าเนื่องจากในช่วงแรกไม่ค่อยมีอาการจนเมื่อเป็นมาก มีอาการเหนื่อยจึงมาพบแพทย์การรักษาด้วยยาเฉพาะจึงทำได้ยากเนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่แข็งแรงเพียงพอ ในสภาวะนี้ที่จะรับยาเคมีบำบัดหรือรับยาไม่เต็มที่และผลตอบสนองต่อการรักษาที่ทำให้โรคมีขนาดเล็กลงก็มีไม่ถึงครึ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงคงที่หรือชะลอโรคเท่านั้น การป้องกันหรือเฝ้าระวังในผู้ป่วยสูบบุหรี่ แม้จะพยายามเอ็กซเรย์ปอดทุก 6-12 เดือนก็ไม่สามารถป้องกันได้เต็มที่ เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการเพียง 1-2 เดือนเท่านั้น การเลี่ยงบุหรี่หรือลดความเสี่ยงน่าจะเป็นคำตอบมากกว่า โดยที่ถ้างดสูบบุหรี่ในวันนี้จะส่งผลให้อุบัติการณ์การเกิดโรคมะเร็งปอดลดลงเท่าคนไม่สูบบุหรี่ในอีก 5-10 ปีข้างหน้าและโรคมะเร็งปอดส่วนใหญ่มักเป็นในอายุ 50-60 ปี ดังนั้นท่านหรือคนใกล้ชิดท่านจึงไม่ควรรอที่จะงดสูบบุหรี่ สำหรับสถิติในประเทศไทย จากการสำรวจในปี 2544 พบว่ามีผู้สูบบุหรี่เป็นประจำจำนวน 10.6 ล้านคนหรือร้อยละ 20.6 ของประชากรที่มีอายุมากกว่า 11 ปี แม้ปัจจุบันจะมีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ มีการจำกัดอายุผู้ซื้อบุหรี่ มีการปกปิดเลี่ยงการโฆษณาสินค้าบุหรี่ทั้งในจุดจำหน่ายและผ่านสื่อ รวมถึงการแสดงคำเตือนหน้าซองบุหรี่ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทำให้ผู้สูบบุหรี่ลดปริมาณได้มากนัก เนื่องมาจากการไม่เอาจริงจังในการบังคับใช้กฏหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนทั่วไปมักละเลยในการแจ้งผู้เกี่ยวข้องให้ทำหน้าที่จึงได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับผู้สูบบุหรี่ (passive smoker) เมื่อเกิดผลกระทบจากพิษภัยบุหรี่ ท่านที่มีคนใกล้ชิดเป็นโรคเหล่านี้ได้แก่ มะเร็งปอด, ถุงลมโป่งพอง, หัวใจขาดเลือด เป็นต้น คงทราบดีว่าต้องมีภาระที่จะต้องดูแลผู้ป่วยเหล่านี้มากเพียงใด รวมทั้งมีภาระค่าใช้จ่ายสูงโดยเฉพาะในโรคมะเร็งที่รักษาไม่หายขาด ได้แต่บรรเทาอาการ ถ้าผู้ป่วยเหล่านี้เป็นกำลังสำคัญเป็นเสาหลักของครอบครัวก็เท่ากับทำให้ครอบครัวเหล่านั้นเดือดร้อนและเป็นภาระต่อสังคมรวมถึงประเทศชาติ เนื่องในโอกาสวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันงดสูบบุหรี่โลก เราจึงควรเลือกเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามเลิกสูบบุหรี่อย่างน้อยก็คนใกล้ตัวหรือตนเอง เพื่อนสนิท ผู้ร่วมงาน รวมถึงผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือที่ยังสูบบุหรี่อยู่ สำหรับบุคคลทั่วไปก็ควรทำหน้าที่แจ้งเตือนผู้สูบบุหรี่หรือผู้เกี่ยวข้องที่ทำหน้าที่ควบคุมกฏหมายให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง ส่วนหน่วยงานภาครัฐก็น่าจะทำให้บุหรี่ซื้อหาได้ยากขึ้นหรือจัดอยู่หมวดสินค้าควบคุมที่อาจเสพติดได้เช่นยานอนหลับ ซึ่งไม่อาจซื้อได้ในสถานที่ทั่วไป รวมทั้งเข้มงวดกวดขันการจำหน่ายบุหรี่ ทั้งที่ถูกและผิดกฏหมายซึ่งเรามักพบในตลาดทั่วไปหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ต่างประเทศหรือบุหรี่ในประเทศที่ขายทั้งใบยาและเครื่องมวนบุหรี่เอง นอกจากนี้หน่วยงานรัฐยังควรส่งเสริมการเลิกบุหรี่โดยตั้งเป็นศูนย์บำบัดเช่นเดียวกับยาเสพติดโดยใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จากภาษีบุหรี่ที่ได้รับมาดีกว่านำเงินนี้ไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่นๆ ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณโดยรวมของประเทศและได้กำลังสำคัญของชาติกลับคืนมา -กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย+มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทยวันนี้

บทความ: บุหรี่และมะเร็งปอด 2556

นพ.เจษฎา มณีชวขจร อายุรแพทย์มะเร็ง โรงพยาบาลราชวิถี กรรมการสมาคมมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทยและ แพทย์จากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย จากข้อมูล CDC (Centers of Disease Control and Prevention) ของสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2543-2547 พบว่าการสูบบุหรี่มีผลต่ออัตราการเสียชีวิตในโรคสำคัญต่างๆ ดังนี้ 1. มะเร็งปอด 29 เปอร์เซ็นต์ 2. มะเร็งชนิดอื่นๆ 8 เปอร์เซ็นต์ 3.หัวใจขาดเลือด 28 เปอร์เซ็นต์ 4. ถุงลมปอดโป่งพอง 21 เปอร์เซ็นต์ 5. สมองขาดเลือด 4 เปอร์เซ็นต์ และ โรคอื่นๆ 10 เปอร์เซ็นต์

นายเฉลิมพล สมาคม (ที่4 ทางซ้าย) ผู้จัดการ... บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) รับรางวัล Healthy Organization Award — นายเฉลิมพล สมาคม (ที่4 ทางซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปสายงานสนับสนุนการผลิต บริษัท ไท...

สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับภาคี... สมาคมโรคเบาหวานฯ จัดงานมหกรรมสุขภาพ วันเบาหวานโลก 2566 ชูแคมเปญ "รู้ว่าเสี่ยง รู้แล้วต้องเปลี่ยน" — สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับภาคีเครือข่ายคนไท...

ว่าที่ร้อยตรีจิรชัย สาฤาษี ผู้จัดการทั่วไ... บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี รับรางวัล Healthy Organization Award ประจำปี — ว่าที่ร้อยตรีจิรชัย สาฤาษี ผู้จัดการทั่วไปสายงานสนับสนุนการผลิต บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี ...

โรงพยาบาลลานนา รับการตรวจรับรองมาตรฐานห้อ... โรงพยาบาลลานนา รับการตรวจรับรองมาตรฐานห้องไต — โรงพยาบาลลานนา รับการตรวจรับรองมาตรฐานห้องไต.นพ.ศุภชัย สินไตรรัตน์ กรรมการบริหาร โรงพยาบาลลานนา และ พญ...

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยมีความเ... ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพจากมลพิษฝุ่นจิ๋ว PM2.5 และข้อปฏิบัติตัวที่สำคัญ — ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยมีความเป็นห่วงผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพจากมลพิษ...

เมื่อเร็ว ๆ นี้ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งป... ภาพข่าว: รวมสมอง ร่วมใจ “สู้ภัย COVID-19” — เมื่อเร็ว ๆ นี้ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคม...

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาค... เรียนรู้สู้โควิด — ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความเป็นห่วงผลกระทบต่อชีวิต...

ศ.นพ.สมชาย เอี่ยมอ่อง ประธานราชวิทยาลัยอา... ภาพข่าว: ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ จัดแถลงข่าว ปอดบวมจากอู่ฮั่น: ประเทศไทยจุดไหน “ใช่พอดี” — ศ.นพ.สมชาย เอี่ยมอ่อง ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย (...