ราคาทองคำในตลาดโลกเคลื่อนไหวอยู่ในบริเวณ US$1,285-1,295 ต่อออนซ์(Gold spot) โดยได้แรงหนุนจากคำแถลงการณ์ของนายเบน เบอร์นันเก้ ต่อคณะกรรมการธนาคาร ที่ยังจะไม่ยกเลิกมาตรการ QE หากเศรษฐกิจยังไม่มีการฟื้จตัว บวกกับปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยในคืนนี้และวันเสาร์ติดตามการประชุม G20 ซึ่งจะมีการหารือกันในประเด็นมาตรการ QE และเศรษฐกิจจีน และวันอาทิตย์ติดตามการเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่คาดกันว่า พรรคของนายชินโซ อาเบะ จะได้ครองเสียงข้างมาก ซึ่งจะทำให้สามารถดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ แต่ราคาทองคำอาจเผชิญกับปัจจัยลบในระยะสั้น หลังมูดีส์ปรับเพิ่มแนวโน้มเครดิตสหรัฐฯจาก เชิงลบ สู่ มีเสถียรภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าระหว่างวันที่ 31.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง 0.9 ตัน ที่ระดับ 935.17 ตัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 (GFQ13) ปิดที่ระดับ 19,060 บาท ปริมาณการซื้อขาย 685 สัญญา
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 ขนาด 10 บาท (GF10Q13) ปิดที่ระดับ 19,050 บาท ปริมาณการซื้อขาย 2,354 สัญญา
แนวโน้ทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า สำหรับการแถลงของประธาน FED ในช่วงสองวันที่ผ่านมาผมว่า “Nothing” เนื่องจากไม่ได้มีการให้สัญญาณใหม่แต่อย่างใด แต่อย่างน้อยที่สุดเรายังทราบว่า QE Tapering ยังเกิดในช่วงสั้น ๆ นี้ ซึ่งก็อาจจะหนุนราคาสินทรัพย์เสี่ยง ด้านทองคำเชื่อว่าระยะสั้นจะได้รับแรงหนุนจาก Demand ที่เพิ่มขึ้นทั้งเอเชียและอเมริกาเหนือแต่แน่นอนว่ายังไม่มีใครอยากลงทุนทองคำจำนวนมาก ๆ ในช่วงเวลาแบบนี้ ทางเทคนิคระดับ US$1,300 เป็นแนวต้านสำคัญและจุดตัดสินใจผ่านต้านนี้ได้มีโอกาสลุ้น US$1,330-1,350 ส่วนแนวรับ US$1,265 และ US$1,250
GT Wealth Management
www.gtwm.co.th
TEL : 02-673-9911-กภ-