สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 27 มีนาคม 2556 โดย YLG
กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 27 มีนาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,593.23–1,600.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ13 อยู่ที่ 22,260 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 80 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,340 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ13 อยู่ที่ 808 โดยราคาปรับตัวลดลง 37 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 845 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.20 น.ของวันที่ 27/03/13)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 28 มีนาคม 2556
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดือนมกราคมใน 20 เมืองของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.1% ทำสถิติขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2549 ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนกุมภาพันธ์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสหนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะที่ราคาทองคำอ่อนตัวลงและยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ ขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2012 ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า จีดีพีสหรัฐจะขยายตัว 0.5% ในไตรมาส 4/2012 ซึ่งหากตัวเลขออกมาดีอย่างที่คาดการณ์อาจจะกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงทดสอบโซนแนวรับ แต่อย่างไรแล้ว การอ่อนตัวลงของราคาทองคำคงไม่มากนัก เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์ของไซปรัสอาจจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยูโรโซน ยังดึงดูดนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเมื่อราคาอ่อนตัวลง โดยความกังวลดังกล่าวสะท้อนผ่านสกุลเงินยูโรที่ทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ทำให้วายแอลจีเชื่อว่า ราคาทองคำในช่วงนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงไม่มาก ซึ่งนักลงทุนที่กำลังเข้ามาลงทุนอาจชะลอไปก่อน เนื่องจากทิศทางของราคายังไม่ชัดเจน ทำให้การลงทุนในช่วงนี้มีความเสี่ยงที่นักลงทุนไม่ควรต้องแบกรับ แต่หากราคาทองคำอ่อนตัวลงมาถึงจุดสำคัญในโซน 1,575-1,570 ดอลลาร์ต่อออนซ์อาจทยอยเข้าสะสมเป็นบางส่วน เพราะแม้ว่าการอ่อนตัวของราคาทองคำจะเกิดขึ้นต่อไปในระยะสั้น แต่เชื่อได้ว่าด้วยปัจจัยพื้นฐานที่มีจะสามารถทำราคาทองคำขยับขึ้นได้
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจี แนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากราคาทองคำยังมีแนวโน้มการเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ซึ่งราคาทองคำยังมีการแกว่งตัวเพียงเล็กน้อย ปริมาณการซื้อขายที่อาจเบาบางลง ซึ่งหากราคาทองคำลงมาทดสอบบริเวณแนวรับ 1,585 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และยังยืนเหนือได้จะ ดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน โดยประเมินแนวต้านไว้ที่ 1,608 หรือ 1,616 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากขึ้นไปทดสอบแนวต้านแล้วไม่สามารถผ่านไปได้ก็จะเห็นการย่อตัวของราคาลง โดยประเมินแนวรับที่ 1,575 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,570 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีควรการตั้งจุดตัดขาดทุนหรือจุดทำกำไรต้องชัดเจน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,585 (21,940บาท) 1,575 (21,800บาท) 1,570 (21,730บาท)
แนวต้าน 1,608 (22,260บาท) 1,616 (22,370บาท) 1,624 (22,480บาท)
GOLD FUTURES (GFJ13)
แนวรับ 1,585 (22,130บาท) 1,575 (21,990บาท) 1,570 (21,920บาท)
แนวต้าน 1,608 (22,450บาท) 1,616 (22,560บาท) 1,624 (22,670บาท)
SILVER FUTURES (SVJ13)
แนวรับ 27.90 (796บาท) 27.65 (789บาท) 27.40 (782บาท)
แนวต้าน 28.75 (821บาท) 29.05 (830บาท) 29.35 (839บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com
-กภ-
ข่าวสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์+โกลด์ฟิวเจอร์สวันนี้
ลอรีอัล กรุ๊ปเผยตลาดความงามครึ่งปีแรกคึกคัก ยอดโต 13.3%
ยอดขายมูลค่า 2.057 หมื่นล้านยูโร เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ได้คะแนน 85 คะแนนจาก 100 จากการจัดอันดับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส โกลบอล นายนิโคลา ฮิโรนิมุส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวถึงตัวเลขผลประกอบการดังกล่าวว่า "ในสถานการณ์ตลาดความงามที่คึกคักกว่าเดิม ลอรีอัล กรุ๊ปมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น และสามารถเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำระดับโลกช่วงครึ่งปีแรกได้มากขึ้น ธุรกิจเติบโตในวงกว้างในทุก ๆ แผนก ภูมิภาค กลุ่มผลิตภัณฑ์