เอนก เต็งหนึ่ง นั่งเก้าอี้ กก.ผอ.ใหญ่ อสมท เริ่มงาน1 ตุลาคมนี้
กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--อสมท
ภายหลังการแสดงวิสัยทัศน์การคัดเลือกตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท จากผู้ผ่านการคัดเลือก 8 คน และได้ ถอนตัวไป 2 คน วันนี้ ประธานคณะกรรมการสรรหา เผยว่าได้คัดเลือกผู้ที่จะดำรงตำแหน่งแล้ว หลังฟังวิสัยทัศน์ เริ่มงาน 1 ต.ค.
นายเปรมกมลย์ ทินกร ณ อยุธยา รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท และ ประธานคณะกรรมการสรรหา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท เปิดเผยว่า “หลังจาก รับฟังการแสดงวิสัยทัศน์การคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า มีผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ 8 คน ได้แก่ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ, นายอาณัฐชัย รัตตกุล, นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์, นายจุลภาศ เครือโสภณ, นายสุรพันธุ์ ตนุมัธยา, นายณัฐศิลป์ จงสงวน, นายธนวัฒน์ วันสม และ นายอนันต์ อ่านเปรื่อง โดยมีผู้ถอนตัว 2 คน ได้แก่ นายสุรพันธุ์ และ นายธนวัฒน์ จึงทำให้มีผู้แสดงวิสัยทัศน์รวม 6 คน หลังจากเสร็จสิ้นการรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์ฯ คณะกรรมการฯสรรหาได้ลงมติเลือกนายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ เลขาธิการสภาการศึกษา และอดีตกรรมการ บมจ. อสมท เพื่อดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมทแล้ว โดยในวันนี้ (6ก.ย.) ได้นำผลการคัดสรรเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.อสมท เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมโดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์เป็นผู้เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง กก.ผอ. ใหญ่ บมจ. อสมท ตามที่คณะกรรมการฯ สรรหาเสนอ ซึ่งนายเอนกฯ เป็นนักบริหารที่มีวิสัยทัศน์ และศึกษาการดำเนินงานระบบทีวีดิจิตอลมาเป็นอย่างดี รวมทั้งศึกษาเรื่องการเตรียมองค์กรรับกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กสทช. และ การมุ่งดำเนินธุรกิจให้ได้ผลกำไร จึงมีความเหมาะสมเป็นอย่างมากที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้”
ขั้นตอนต่อไปคณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนฯ จะดำเนินการเจรจาต่อรองเรื่องค่าตอบแทนและเงื่อนไขการจ้าง จากนั้นส่งให้กระทรวงการคลังพิจารณาเพื่อนำเข้าบอร์ดอีกครั้ง ก่อนเซ็นสัญญา และ กก.ผอ.ใหญ่ บมจ.อสมท.คนใหม่ จะเริ่มงานในวันที่ 1 ตุลาคม 2555ส่วนนายเปรมกมลย์ ทินกร ณ อยุธยา ยังคงดำรงตำแหน่ง กรรมการ บมจ. อสมทต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร โทร. 0 2201 6392-3 , 0 2201 6162
-นท-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ข่าวเปรมกมลย์ ทินกร+คณะกรรมการวันนี้
สคส. ย้ำ พ.ร.ก.ไซเบอร์ฉบับใหม่ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล-ผู้เสียชีวิต ฝ่าฝืนเจอโทษหนักถึงจำคุก 5 ปี
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ย้ำ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "พ.ร.ก.ไซเบอร์" ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในมาตรา 11/2 ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปกป้องข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการซื้อขายข้อมูลมีโทษหนักขึ้นถึงจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000
แอลจี จับมือ ลัคกี้ สุกี้ ส่งมอบระบบปรับอากาศเชิงพาณิชย์ในร้านอาหารเครือลัคกี้ สุกี้ ทุกสาขา ตอกย้ำความสำเร็จธุรกิจ B2B
—
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเ...