สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 25 กันยายน 2555 โดย YLG
กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 25 กันยายน 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,761.66 – 1,769.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV12 อยู่ที่ 26,080 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,980 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV12 อยู่ที่ 1,065 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 13 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,052 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.20 น.ของวันที่ 25/09/12)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 26 กันยายน 2555
การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้ส่งผลให้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ หรือ เอสแอนด์พี ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.5% ซึ่งส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากจีนเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับต้นๆของโลก รวมทั้งวิกฤตหนี้ยุโรปยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยปัญหาในกลุ่มยูโรนั้นยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ผู้น้ำเยอรมนีและฝรั่งเศสมีความคิดเห็นที่ขัดแยังกันเกี่ยวกับประเด็นที่ว่าควรจะอนุมัติให้มีการใช้ระบบสหภาพการธนาคารในยูโรโซนเมื่อใด ประกอบกับกระทรวงการคลังเยอรมนีปฏิเสธรายงานข่าวก่อนหน้านี้เกี่ยวกับแผนการที่จะเพิ่มขนาดของกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) เป็น 2 ล้านล้านยูโร โดยระบุว่าข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงอย่างสิ้นเชิงเป้าหมายในปัจจุบันของ ESM ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรของยูโรโซนในการช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ประสบปัญหานั้น อยู่ที่ 5 แสนล้านยูโร ปัจจัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำได้เพียงชี้นำราคาทองคำระยะสั้นๆ แต่ด้วยมีปัจจัยหลายตัวที่เข้ามากดดันราคาทองคำ ทำให้การขยับขึ้นของราคาทองคำยังคงอ่อนแรง เบื้องต้นวายแอลจีประเมินแนวรับบริเวณ 1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งหากราคาไม่หลุดโซนนี้ จะมีแรงดีดตัวขึ้นไป แต่หากไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,780 หรือ 1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ อาจเกิดแรงขายทำกำไรออกมา ต้องระมัดระวังการไหลตัวลงสู่แนวรับที่บริเวณ 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนยังอยากให้นักลงทุนเก็งกำไรในระยะสั้นเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำในระยะสั้นยังเคลื่อนไหวในกรอบ ซึ่งบริเวณแนวต้าน 1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวัง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น โดยเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,755 (25,690บาท) 1,747 (25,570บาท) 1,735 (25,390บาท)
แนวต้าน 1,780 (26,050บาท) 1,787 (26,160บาท) 1,800 (26,350บาท)
GOLD FUTURES (GFV12)
แนวรับ 1,755 (25,900บาท) 1,747 (25,790บาท) 1,735 (25,610บาท)
แนวต้าน 1,780 (26,270บาท) 1,787 (26,370บาท) 1,800 (26,570บาท)
SILVER FUTURES (SVV12)
แนวรับ 33.50 (1,044บาท) 33.10 (1,032บาท) 32.50 (1,014บาท)
แนวต้าน 34.55 (1,074บาท) 35.00 (1,091บาท) 35.25 (1,098บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com
-กภ-
ข่าวสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์+โกลด์ฟิวเจอร์สวันนี้
ลอรีอัล กรุ๊ปเผยตลาดความงามครึ่งปีแรกคึกคัก ยอดโต 13.3%
ยอดขายมูลค่า 2.057 หมื่นล้านยูโร เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ได้คะแนน 85 คะแนนจาก 100 จากการจัดอันดับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส โกลบอล นายนิโคลา ฮิโรนิมุส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวถึงตัวเลขผลประกอบการดังกล่าวว่า "ในสถานการณ์ตลาดความงามที่คึกคักกว่าเดิม ลอรีอัล กรุ๊ปมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น และสามารถเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำระดับโลกช่วงครึ่งปีแรกได้มากขึ้น ธุรกิจเติบโตในวงกว้างในทุก ๆ แผนก ภูมิภาค กลุ่มผลิตภัณฑ์