ซอร์สไฟร์ NEXT-GENERATION IPS อุปกรณ์ที่ให้ประสิทธิผลเป็นเลิศด้านการรักษา ความปลอดภัยจากผลการทดสอบล่าสุดโดย NSS Labs

18 Apr 2012

กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์

ซอร์สไฟร์ NEXT-GENERATION IPS อุปกรณ์ที่ให้ประสิทธิผลเป็นเลิศด้านการรักษาความปลอดภัยจากผลการทดสอบล่าสุดโดย NSS Labsอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยตระกูล FirePOWER โดดเด่นด้านการตรวจจับ การป้องกัน ประสิทธิภาพ รวมถึงความสามารถในการรองรับและการขยายระบบ

ซอร์สไฟร์ อิงค์ (Nasdaq: FIRE) ผู้นำด้านโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะสำหรับโลกอินเทอร์เน็ต เผยผลสำรวจของระบบ IPS จากองค์กรอิสระอย่าง NSS Labs เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า FirePOWER?สามารถป้องกันการถูกโจมตีจากภัยคุกคามทั้งหมดได้ถึงร้อยละ 99 ซึ่งทำลายสถิติเดิมของซอร์สไฟร์ ที่ทำไว้ที่ร้อยละ 98 ในปี 2554 ทั้งนี้ NSS Labs ได้ทดสอบอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย 3 รุ่น ได้แก่ 8260, 8250 และ 8120 สะท้อนให้เห็นถึงความสอดคล้องลงตัวในด้านประสิทธิผลการรักษาความปลอดภัย ประสิทธิภาพการทำงานที่โดดเด่น รวมถึงความสามารถในการรองรับและการขยายระบบบนแพลตฟอร์ม Next-Generation Intrusion Prevention System (NGIPS) ของซอร์สไฟร์

วิคราม ภาทัค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ NSS Labs กล่าวว่า “ในช่วงตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ซอร์สไฟร์ประสบความสำเร็จอย่างมากและต่อเนื่องสม่ำเสมอในด้านประสิทธิผลการรักษาความปลอดภัยบนฐานของการประเมินที่ใช้ได้จริงในทางปฏิบัติ ทั้งในส่วนของการป้องกันการบุกรุก อัตราการสกัดกั้นภัยคุกคาม และขีดความสามารถในการป้องกันภัย นอกจากนี้ ซอร์สไฟร์ FirePOWER ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเหนือกว่าการทดสอบในครั้งก่อนๆ จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับระบบไอทีที่ต้องการรองรับข้อมูลในปริมาณสูง”

ประสิทธิผลและประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย

อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในตระกูล FirePOWER ทั้ง 3 รุ่น ได้คะแนนทดสอบโดยรวมร้อยละ 99 ทั้งในส่วนของการตรวจจับและการป้องกัน ขณะที่รุ่น 8260 กลายเป็นระบบ IPS รุ่นแรกที่ถูกทดสอบที่ระดับเกินกว่า 30 Gbps ในสภาพการใช้งานจริง ส่วนคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ที่ผลการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของ NSS Labs ระบุไว้ ได้แก่

ซอร์สไฟร์ 8260

  • มีอัตราการผ่านของข้อมูล ขณะทดสอบ 34 Gbps เมื่อเทียบกับปริมาณข้อมูลเฉลี่ยในสภาพการใช้งานจริง
  • รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้มากกว่า 60M การเชื่อมต่อ
  • อัตรา TCO น้อยกว่า $15 ต่อ Mbps ที่ได้รับการป้องกัน

ซอร์สไฟร์ 8250

  • มีอัตราการผ่านของข้อมูล ขณะทดสอบ 17 Gbps เมื่อเทียบกับปริมาณข้อมูลเฉลี่ยในสภาพการใช้งานจริง
  • รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้มากกว่า 30M การเชื่อมต่อ
  • อัตรา TCO น้อยกว่า $19 ต่อ Mbps ที่ได้รับการป้องกัน

ซอร์สไฟร์ 8120

  • มีอัตราการผ่านของข้อมูล ขณะทดสอบ 3.4 Gbps เมื่อเทียบกับปริมาณข้อมูลเฉลี่ยในสภาพการใช้งานจริง
  • รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้มากกว่า 15M การเชื่อมต่อ
  • อัตรา TCO น้อยกว่า $34 ต่อ Mbps ที่ได้รับการป้องกัน

ด้วยประสิทธิภาพของเทคโนโลยี FirePOWER อุปกรณ์รุ่น 8260, 8250 และ 8120 สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กร ทั้งด้านองค์ประกอบที่ปรับตามความต้องการ การป้องกันสูงสุด และพลังการประมวลผลข้อมูลเครือข่ายที่เร็วขึ้น ขณะที่เทคโนโลยีการเพิ่มความเร็วของ FirePOWER ให้ประสิทธิภาพในระดับที่เหนือชั้นเมื่อเทียบกับอุปกรณ์รุ่นอื่นๆในตลาด ทั้งประหยัดพลังงานและช่วยให้องค์กรขนาดใหญ่มีระบบตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามที่ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังช่วยรักษาอัตรา total cost of ownership (TCO) ให้อยู่ในระดับมาตรฐาน ทั้งนี้จากรายงานการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์หลายฉบับระบุตรงกันว่า ผลการวัดประสิทธิภาพที่สูงและสม่ำเสมอของอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย FirePOWER ทำให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นที่น่าเชื่อถือสำหรับลูกค้าระดับองค์กรที่จำเป็นต้องสร้างระบบที่รองรับการติดตั้งและใช้มาตรการการรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายด้วยโมเดลที่มีอัตราการผ่านของข้อมูลสูงกว่าเดิม

มาร์ติน เรช ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของซอร์สไฟร์ กล่าว “ผลการทดสอบของ NSS Labs ช่วยตอกย้ำผลสำเร็จที่เราทำได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นั่นคือซอร์สไฟร์ถือเป็นผู้สร้างมาตรฐานใหม่ให้ระบบ Next-Generation IPS อย่างแท้จริง เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าลูกค้าไม่จำเป็นต้องเอาประสิทธิผลด้านการรักษาความปลอดภัย ประสิทธิภาพ หรืออัตรา TCO เข้าแลกกับคุณสมบัติที่จำเป็นอื่นๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งเครือข่ายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป”

ดาวน์โหลดรายงานผลการทดสอบ

Sourcefire Individual Test Reports จาก NSS Labs สำหรับอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยรุ่น 8260, 8250 และ 8120 สามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.sourcefire.com/NSSLabs

ติดตามชม Webcast วันที่ 9 พฤษภาคม 2555: Consistency in Security Effectivenessบ็อบ วอลเดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยของ NSS Labs และเจสัน เบวนนิค จากฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีของซอร์สไฟร์ จะมาร่วมเสวนาเกี่ยวกับความสำคัญของการตรวจจับความปลอดภัยที่สอดคล้องและประสิทธิภาพที่รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของระบบในส่วนของการติดตั้งและใช้งานระบบ Next-Generation IPS สำหรับองค์กรระดับวิสาหกิจ ลงทะเบียนได้ที่ http://www.sourcefire.com/NSSLabs-Webinar

เกี่ยวกับ NSS Labs, Inc

NSS Labs, Inc เป็นองค์กรอิสระชั้นนำที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในการวิจัยและการทดสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย โดยให้บริการด้าน security intelligence ในลักษณะ subscription-based แก่องค์กรระดับ enterprise ทั่วโลก การวิจัยบนฐานการทดสอบและบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญของ NSS Labs ช่วยให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีข้อมูลที่เป็นกลางที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ในการเลือกและดูแลรักษาผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยที่ซับซ้อนสำหรับองค์กรของตน โดย NSS Labs จะทำการประเมินทั้งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ network security และ endpoint security รวมถึงการจัดทำ individual Product Analysis Reports และ group Comparative Analysis Reports ทั้งนี้ การทดสอบแบบกลุ่มจะสรุปเป็น Security Value Map? NSS Labs, Inc ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nsslabs.com

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net