ซอร์สไฟร์ เผยโซลูชั่น Next-Generation Firewall ผสานด้วยเทคโนโลยี Next-Generation IPS เป็นรายแรกในตลาด

กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์

แพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดที่ล้ำหน้าผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีการรับรู้สภาพเครือข่าย ความสามารถในการปรับแต่งการป้องกันอัตโนมัติ และความสามารถในการป้องกันการโจมตีที่ดีที่สุด ซอร์สไฟร์ อิงค์ (Nasdaq: FIRE) ผู้นำด้านโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะในโลกอินเทอร์เน็ต เผยโฉมนวัตกรรมล่าสุด Sourcefire Next-Generation Firewall (NGFW) ซึ่งพัฒนาจากความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Next-Generation IPS (NGIPS) และใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม FirePOWER ที่เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพจากซอร์สไฟร์ ทำให้ซอร์สไฟร์ Next-Generation Firewall เป็นโซลูชั่นที่ผสมผสานระบบป้องกันการบุกรุก IPS ที่ทรงพลังที่สุดในโลก แอพพลิเคชั่นคอนโทรลแบบครบวงจร และคุณสมบัติอันโดดเด่นของไฟร์วอลล์เข้าไว้ในอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยประสิทธิภาพสูงในหนึ่งเดียว ทั้งนี้ ด้วยการผสมผสานระหว่าง NGIPS และ NGFW ซอร์สไฟร์ได้สรรค์สร้างเอ็นเทอร์ไพรส์ไฟร์วอลล์โซลูชั่นรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับทัศนวิสัยในการดูแลรักษาระบบไอทีขององค์กร (enterprise visibility) ที่ครบครันและครอบคลุมระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์และขีดความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง มร.เกรก ยัง รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ (Gartner) กล่าวว่า “การบุกรุกต่างๆมีการพัฒนาสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นระบบป้องกันการบุกรุกบนเครือข่ายจึงต้องพัฒนาเพื่อให้เกิดประสิทธิผลในการจัดการการบุกรุกร้ายแรงเหล่านี้ที่มุ่งโจมตีเป้าหมายเฉพาะจุดได้ องค์กรระดับเอ็นเทอร์ไพรส์ควรกำหนดให้เจ้าของผลิตภัณฑ์เพิ่มคุณสมบัติด้านการป้องกันการบุกรุกใหม่ๆ เข้าไปในผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยของเครือข่ายด้วย โดยส่วนใหญ่องค์กรระดับเอ็นเทอร์ไพรส์มีแนวโน้มจะปรับเปลี่ยน Next Generation Firewall ยุคที่หนึ่ง ที่ใช้งานอยู่ด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับขีดความสามารถอันหลากหลาย เช่น Next-Generation IPS (NGIPS)” ด้วยการผนวกวิสัยทัศน์ของ Agile Security? เข้าไปในตลาด NGFW ที่กำลังเติบโต ซอร์สไฟร์กำลังนำเสนอโซลูชั่นในกลุ่ม NGFW ที่สอดคล้องกับบริบทและปรับเปลี่ยนตามความต้องการได้ เพื่อให้ลูกค้ามีขีดความสามารถด้านการป้องกันและควบคุมที่เหนือชั้นกว่าโดยไม่กระทบกับประสิทธิภาพการทำงาน ซอร์สไฟร์ Next-Generation Firewall ให้การป้องกันที่สูงขึ้นอีกขั้นด้วยการผสมผสานความสามารถที่หลากหลายเพื่อระบุและควบคุมการบุกรุกสำหรับแอพพลิเคชั่นกว่า 1,000 แอพพลิเคชั่นด้วยทัศนวิสัยที่ครอบคลุมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ประกอบกับการทำงานแบบอัตโนมัติและประสิทธิผลของการป้องกันการบุกรุกที่นับได้ว่ายอดเยี่ยมที่สุดในตลาดขณะนี้ ขีดความสามารถเหล่านี้ถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่เรียกว่า Sourcefire Vulnerability Research Team (VRT?) รวมถึงความรู้เรื่องซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยอันชาญฉลาดที่ล้ำสมัย ระบบรักษาความปลอดภัยแบบสากล (Universal Network Security Platform) ซอร์สไฟร์ใช้ประโยชน์จากแนวคิดการประมวลผลรอบเดียว (single-pass engine) ที่ช่วยให้สามารถตรวจจับการบุกรุกได้ในระดับลึกขณะรักษาประสิทธิภาพการทำงานได้ในระดับสูงสุด ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม FirePOWERสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้าให้เป็น NGIPS หรือ NGIPS พร้อมแอพพลิเคชั่นคอนโทรล หรือเป็น NGFW ซึ่งทั้งหมดนี้ให้ความยืดหยุ่นสูงสุดแก่ลูกค้าเพื่อติดตั้งและใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ให้สอดคล้อง กับความต้องการของโครงสร้างพื้นฐานและขอบเขตของระบบที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ ทัศนวิสัยโดยรวม (Total Visibility) การใช้เทคโนโลยี FireSIGHT? ซึ่งเป็นสิทธิบัตรของซอร์สไฟร์ ซอร์สไฟร์มาพร้อมกับทัศนวิสัยที่ครอบคลุมมากขึ้นในทุกแอพพลิเคชั่น ผู้ใช้งาน เนื้อหาข้อมูล เครื่องเซิร์ฟเวอร์ การโจมตีและช่องโหว่ต่างๆ รวมถึงพฤติกรรมและการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมของผู้ใช้งาน โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะเชื่อมโยงข้อมูลนี้เข้ากับผู้ใช้งานและข้อมูลระดับความเชื่อถือของผู้ใช้นั้นๆ เพื่อประเมินความเสี่ยงและผลกระทบของการบุกรุกเพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น การวางระบบอัตโนมัติอันชาญฉลาด (Intelligent Automation) Sourcefire Next-Generation Firewall ต่างจากโซลูชั่นอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ กล่าวคือ ใช้หลักการรักษาความปลอดภัยแบบอัตโนมัติที่รอบด้านและชาญฉลาดเพื่อเพิ่มความคล่องตัว (agility) ของความพยายามในการป้องกัน ซึ่งเท่าทันกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา ขีดความสามารถนี้เกิดขึ้นได้ด้วยSourcefire NGFW ผ่าน comprehensive contextual awareness และ collective threat intelligence ที่ส่งผลให้เกิดการกำหนดนโยบายที่ได้ผลและการปรับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติในส่วนของระบบป้องกันภัยของลูกค้าในลักษณะที่เป็นเรียลไทม์ นอกจากนี้ โซลูชั่นดังกล่าวยังช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขสถานการณ์ได้ในระดับสูงสุด โดยลดอัตราการเตือนภัยที่ต้องลงไปปฏิบัติและคัดกรองเหตุการณ์ที่ไม่กระทบต่อสภาพแวดล้อมการใช้งานของยูเซอร์บางอย่างออกไป การควบคุมแบบไร้ขีดจำกัด (Control without Compromise) Sourcefire NGFW ให้ประสิทธิภาพการควบคุมสูงโดยไม่กระทบขีดความสามารถในการป้องกันการบุกรุกและจากผลการทดสอบโดยผู้ทดสอบอิสระ โซลูชั่นนี้ให้ผลลัพธ์ด้านประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อเทียบกับโซลูชั่นอื่นในระดับเดียวกัน ทั้งยังมีขีดความสามารถในการตรวจจับการบุกรุกขั้นสูงพร้อมประสิทธิผลในการสกัดกั้นภัยเหล่านั้นอย่างยากจะหาโซลูชั่นอื่นเทียบได้ และหากใช้ร่วมกับโซลูชั่นอื่นๆ ของซอร์สไฟร์ NGFW ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบและปรับเปลี่ยนระบบป้องกันและนโยบายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมเฉพาะของตนได้ ทางด้าน มร.มาร์ติน โรช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของซอร์สไฟร์ กล่าวว่า “เนื่องจากองค์กรทั้งหลายต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันภัย พวกเขาจึงมองหาโซลูชั่นที่ให้ความยืดหยุ่นและคล่องตัวสูงเพื่อให้เกิดประสิทธิผลในการจัดการกับการบุกรุกใหม่ๆ โซลูชั่นทั่วไปในกลุ่มของ NGFW มักบีบให้ลูกค้าต้องเลือกระหว่างการควบคุม การป้องกัน ประสิทธิภาพและความสะดวกง่ายดายในการจัดการ แต่ Sourcefire Next-Generation Firewall รวมคุณสมบัติที่เป็นสุดยอดของ NGIPS และให้ผู้ใช้งานได้ทั้งพลังขีดความสามารถและความมั่นใจในการป้องกันและตอบสนองต่อการบุกรุกที่ซับซ้อนในปัจจุบัน พร้อมระบบควบคุมที่ละเอียดและสามารถครอบคลุมในส่วนที่จำเป็นต้องใช้ในปัจจุบันอีกด้วย” สำหรับผู้ที่สนใจร่วมสัมมนาผ่านเว็บไซต์เกี่ยวกับ Next-Generation Firewall ในวันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2554 เวลา 21.00 น. ติดตามรายละเอียดการลงทะเบียนได้ที่ https://www3.gotomeeting.com/register/333138022 ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ติดตามได้ที่ http://sourcefire.com/ngfw ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านข่าวประชาสัมพันธ์หรือรูปภาพ กรุณาติดต่อ สุจรรยา เศรษฐนันท์ (แคธี่) บริษัท สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (ตัวแทนประชาสัมพันธ์ บริษัท ซอร์สไฟร์ จำกัด) โทร 02-653-2717-9 อีเมล์ [email protected]

ข่าวรักษาความปลอดภัย+อินเทอร์เน็ตวันนี้

ทำความเข้าใจ DNSSEC เสริมความปลอดภัยให้กับอินเทอร์เน็ต

ระบบการตั้งชื่อโดเมน (Domain Name System DNS) มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการทำงานของอินเทอร์เน็ต โดยจะทำหน้าที่แปลงชื่อโดเมน เช่น www.abc.com ให้เป็น IP Address เช่น 122.950.34.138 ที่คอมพิวเตอร์ใช้ในการสื่อสารระหว่างกัน โดย DNS นั้น เปรียบเหมือนสมุดโทรศัพท์ ในขณะที่ IP Address เปรียบเสมือนหมายเลขโทรศัพท์นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า DNS จะเป็นระบบที่สำคัญและถูกใช้งานมาอย่างยาวนาน แต่การรักษาความปลอดภัยของระบบก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องตระหนักถึงเป็นอันดับต้นๆ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซ

ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวด... 5 ประโยชน์ของ CCTV ในการรักษาความปลอดภัย ร่วมกับความเร็วและเสถียรของเน็ตบ้าน True Gigatex Fiber — ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเนื้อหา...

แอร์บิควิตี้จับมือแบล็กเบอร์รี เพิ่มมาตรการความปลอดภัยในการอัปเดต OTA

ผลิตภัณฑ์โอทีเอเมติกและเซิร์ฟเวอร์การเซ็นโค้ดผสานรวมกันเพื่อให้ผู้ผลิตยานยนต์มีโซลูชันแบบเบ็ดเสร็จสำหรับการใช้งานกรอบการรักษาความปลอดภัยอัปเทน แอร์บิควิตี้ (Airbiquity(R) ) ผู้นำระดับโลกด้านบริการสำหรับยานยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต...

คุณมรกต กุลธรรมโยธิน (ที่ 2 จากซ้าย) กรรม... INET เซ็นเอ็มโอยูพัฒนา Platform ให้กับสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย — คุณมรกต กุลธรรมโยธิน (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไ...

จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตยั... ยูจีน แคสเปอร์สกี้ เน้นความสำคัญของ Cyber Immunity ในการประชุม สกมช. — จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ เช่นเดียวกับความสน...

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เพิ่มมาตรการในด้า... สายสีแดง เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ — รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เพิ่มมาตรการในด้านการรักษาความปลอดภัยอย...

บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ไ... เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) คว้ารางวัล National Distributor Award จาก Hikvision — บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติรับรางวัล Na...