เหล่าคุณแม่คนดัง ร่วมต้านภัยไวรัสโรต้า

29 Feb 2012

กรุงเทพฯ--29 ก.พ.--โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์

ปัจจุบัน โลกกำลังตกอยู่ในสภาวะการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพอากาศที่ผิดปกติขึ้นทุกวัน สภาพอากาศครึ้มดีครึ้มร้ายอยู่เสมอ ทำให้มีคำถามเกิดขึ้นในใจใครหลายๆ คนว่า “เกิดอะไรขึ้น กับโลกใบนี้” ขณะที่อีกด้านหนึ่ง เชื้อโรคเองก็ต่างมีวิวัฒนาการ พัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น เกิดเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอ แถมยังทวีคูณความรุนแรง คร่าชีวิตคนเพิ่มขึ้นมากมายเสียอีก หากใครที่กำลังเป็นคุณพ่อคุณแม่ลูกอ่อนตอนนี้ ก็คงกำลังคิดหนักและวุ่นวายใจว่า จะสามารถปกป้องลูกน้อยให้ห่างไกลจากเชื้อโรคเหล่านั้นได้อย่างไร มีวิธีไหนบ้างที่จะสามารถป้องกันอันตรายให้ลูกน้อยปลอดภัย

โดยเฉพาะเชื้อไวรัสโรต้า โรคยอดฮิตในหมู่เด็กๆ เพราะจากผลการสำรวจพบว่าเด็กไทยอายุน้อยกว่า 5 ขวบที่นอนร.พ.จากท้องร่วงนั้นมีถึง 43% ที่เกิดจากเชื้อไวรัสโรต้า ไวรัสโรต้าเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงรุนแรงในเด็กเล็กที่อาจคร่าชีวิตลูกน้อยได้ แถมยังเป็นตัวการบั่นทอนพัฒนาการอาจทำให้ลูกน้อยเจริญเติบโตไม่สมวัย ซึ่งส่งผลต่ออนาคตของลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่ต่างกังวลกันให้วุ่น เนื่องจากเป็นเชื้อโรคที่แฝงกายไปอยู่ได้ทุกซอกทุกมุมรอบตัวเด็ก โดยเฉพาะของเล่น ซึ่งติดต่อได้โดยง่าย แม้จะป้องกันด้วยวิธีใดก็ตาม ก็ไม่สามารถต้านทานความร้ายกาจของมันได้ ซึ่งเด็กเล็กทุกคนถืออยู่ในภาวะเสี่ยง มีโอกาสติดเชื้อได้ทุกคน

โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาความวุ่นวายใจที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ที่ไม่สามารถไขข้อข้องใจและค้นหาคำตอบจากคำถามที่เกิดขึ้นมากมาย ว่าทำอย่างไรให้ลูกน้อยปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโรต้าจอมวายร้ายนี้ได้ จึงได้จัดงานสัมมนา “Early Protection” ให้ความรู้เกี่ยวกับไวรัสโรต้าขึ้น เพื่อเป็นความรู้ให้คุณพ่อคุณแม่เอาไปปกป้องลูกน้อยจากโรคร้ายนี้ให้เร็วที่สุด ทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ และเหล่าคุณแม่คนดังที่กำลังมีลูกน้อยอยู่ในวัยเสี่ยง โดยงานสัมมนาในครั้งนี้ได้รวบรวมเหล่าคุณแม่ทั้งมือใหม่และมือเก่ามาร่วมพูดคุย ไม่ว่าจะเป็น คุณกบ-สุวนันท์ ปุณณกันต์, คุณโอ๋-อภิชญา ไกรฤกษ์ และคุณน้ำผึ้ง จารุวรรณ โชติเทวัญ ชีวเกษมสุข มาเล่าสู่กันฟังถึงประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกของตนที่ผ่านมา

งานในครั้งนี้ แพทย์หญิง สุรางคณา เตชะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้เชิญแพทย์หญิงหทัยทิพย์ ภารดีวิสุทธิ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาทารกแรกเกิดและปริกำเนิด โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ มาช่วยไขข้อข้องใจให้กับคุณแม่เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโรต้าทั้งหลายว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีพ่อแม่มือใหม่หลายๆ คน ที่ยังขาดความรู้เท่าทันเชื้อไวรัสโรต้าและความรุนแรงของโรค คิดเพียงว่าเป็นโรคอุจจาระร่วง ที่คนเมืองร้อนต้องประสบกันอยู่แล้ว ทำให้ขาดการเตรียมตัว และไม่สามารถปกป้องลูกน้อยได้อย่างถูกวิธี โดยเฉพาะเด็กวัย 6 เดือนถึง 2 ขวบนับเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโรต้ามากที่สุด ซึ่งมีการศึกษาวิจัยพบว่า เด็กแรกเกิดถึง 5 ขวบแทบทุกคนเคยติดเชื้อนี้กันมาแล้ว และมีถึง 1 ใน 10 รายที่อาจเป็นซ้ำๆ ได้ถึง 5 ครั้ง”

แพทย์หญิงหทัยทิพย์ยังกล่าวต่ออีกว่า “อาการของเด็กที่ได้รับเชื้อไวรัสโรต้านั้น จะมีอาการถ่ายเหลวและอาเจียนอย่างหนัก จนเกิดภาวะขาดน้ำ ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ และถ้าเป็นซ้ำๆ อาจทำให้ขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต ส่งผลร้ายต่อพัฒนาการเด็กอย่างมาก จนทำให้พัฒนาการของเด็กหยุดชะงัก ซึ่งเด็กในวัย 5 ปีแรก เป็นวัยแห่งพัฒนาการ ทั้งศักยภาพทางสมองและสมรรถภาพร่างกายกำลังเจริญเติบโตเต็มที่ ดังนั้นเมื่อไรที่เด็กท้องร่วงบ่อยๆ ย่อมส่งผลต่อพัฒนาการเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเรียนรู้และความฉลาดของลูกน้อย รวมถึงการเจริญเติบโตของร่างกายไม่ว่าจะเป็นความสูง หรือน้ำหนักในอนาคตได้”

มีการศึกษาวิจัยพบว่า เด็กที่ได้รับเชื้อไวรัสโรต้าและมีอาการของโรคท้องเสียซ้ำๆ ในช่วงวัย 1-2 ปี จะได้รับผลกระทบต่อร่างกายด้านต่างๆ เช่น ความสูงที่อาจจะต่ำกว่าเด็กทั่วไปถึง 8.2 ซม.ในวัยก่อน 7 ปี หรือ ความพร้อมต่อการเรียนรู้ช้ากว่าเด็กทั่วไปในช่วงวัยเรียน และยิ่งในเด็กที่ท้องร่วงซ้ำๆ ก่อนอายุ 2 ปี จะทำให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองหรือไอคิวต่ำกว่าเด็กวัยเดียวกันถึง 10 จุด (ข้อมูลจาก : Petri WA Jr, Miller M, Binder HJ, et al. Enteric infections, diarrhea, and their impact on function and development. J Clin Invest. 2008) นอกจากนี้การศึกษาวิจัยยังพบอีกว่า ท้องร่วงยังมีผลต่อภาวะขาดสารอาหารตั้งแต่เด็ก ซึ่งส่งผลกระทบทำให้น้ำหนักของเด็กบางคนเพิ่มขึ้นน้อยกว่าปกติ

ซึ่งแพทย์หญิงหทัยทิพย์ได้กล่าวถึงวิธีป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสโรต้าให้ได้มากที่สุดว่า “คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยมารับการหยอดวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า ซึ่งถือเป็นวิธีป้องกันโรคที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของโรค ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันได้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งเป็นการเสริมเกราะป้องกันให้เด็กห่างไกลจากโรคร้ายนี้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีวิธีง่ายๆ ที่คุณแม่สามารถป้องกันได้ด้วยตนเองคือให้นมลูกอย่างน้อย 6 เดือนเพื่อให้เด็กมีภูมิคุ้มกันที่ดีอีกด้วย”

สำหรับวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้ามี 2 ชนิด คือชนิดที่กิน 2 ครั้งและชนิดที่กิน 3 ครั้ง โดยวัคซีนที่กิน 3 ครั้งจะให้กินเมื่อเด็กอายุ 2,4,6 เดือน ซึ่งจะให้การป้องกันหลัง 6 เดือน แต่สำหรับวัคซีนที่กิน 2 ครั้งจะให้เมื่อเด็กอายุ 2,4 เดือน ซึ่งจะทำให้ได้รับการป้องกันเร็วตั้งแต่ 4 เดือน

ด้านกบ-สุวนันท์ ปุณณกันต์ ดาราสาวคนเก่งกล่าวว่า “การเลี้ยงลูกคนแรกสำหรับคุณแม่มือใหม่ถือเป็นเรื่องยาก เพราะเราไม่มีประสบการณ์ ต้องเรียนรู้ทุกอย่างใหม่หมด พร้อมเปิดรับข้อมูลข่าวสารให้ทันโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะปัจจุบันสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดความกังวลกับโรคภัยมากมายที่อยู่รายล้อมตัว หาหนังสือคู่มือการเลี้ยงลูกมาอ่าน ปรึกษาคุณหมออยู่ตลอดเวลาว่าเราสามารถป้องกันเขาได้อย่างไรบ้าง อย่างเชื้อไวรัสโรต้า ก็เป็นเชื้อโรคยอดฮิตในหมู่เด็กๆ ยิ่งทราบว่าเด็กเล็กมีโอกาสเป็นกันทุกคน และยังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและพัฒนาการ เราก็ไม่ยอมเสี่ยง รีบพาน้องณดาไปหยอดวัคซีนตั้งแต่อายุได้ 2 เดือน เพราะเราเองก็อยากให้ลูกของเราปลอดภัยที่สุด เติบโตมาแข็งแรงและที่สำคัญมีพัฒนาการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการด้านสมองและร่างกาย ถือเป็นเรื่องสำคัญมากของเด็กในวัยนี้”

ขณะที่คุณโอ๋-อภิชญา ไกรฤกษ์ เซเลบริตี้สาวคนสวย ให้ความคิดเห็นว่า “สิ่งสำคัญในการเลี้ยงลูกคือ ปลอดภัยไว้ก่อน เด็กเล็กอยู่ในวัยของการเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ที่บ้านจะเน้นการสร้างการเรียนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก แต่หลายครั้งที่พาออกไปนอกบ้านซึ่งมีคนจำนวนมาก กลับบ้านมาก็จะป่วย เพราะเด็กเล็กร่างกายยังมีภูมิต้านทานต่ำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะปิดกั้นการเรียนรู้ของลูกจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ หน้าที่สำคัญของเรา คือการสร้างภูมิต้านทานให้กับลูกที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกปลอดภัยพร้อมที่จะเรียนรู้กับโลกใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา”

ส่วนคุณน้ำผึ้ง-จารุวรรณ โชติเทวัญ ชีวเกษมสุข เซเลบริตี้คุณแม่ลูกสองกล่าวว่า “การเลี้ยงลูกของเราถือเป็นการวางอนาคตให้ลูกของเราไปในตัว พ่อแม่จึงต้องเลือกทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา ตอนที่เพิ่งคลอดน้องเขาใหม่ๆ เราพยายามที่จะป้องกันเขาจากโรคภัยต่างๆ ให้ได้มากที่สุด อย่างโรคอุจจาระร่วงรุนแรงในเด็ก เราก็รีบพาลูกไปหยอดวัคซีนป้องกัน ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ลูกของเรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถเจริญเติบโตได้เต็มศักยภาพทั้งสมองและร่างกาย ซึ่งเราถือเป็นการสร้างรากฐานให้กับเขา เราทำให้เขาได้เท่านี้ เพราะหากในอนาคตเขาอยากจะทำอะไรก็อยู่ที่เขาเองแล้ว”

เพราะตอนนี้โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว มีความเลวร้ายเกิดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คุณพ่อคุณแม่แต่ละคนต่างเป็นกังวลกับความปลอดภัยของลูกน้อยเป็นอย่างมาก แต่ก็อย่ากังวลจนมากเกินไป เพียงแค่เรามีสติ เรียนรู้ถึงวิธีป้องกันที่ถูกต้องนั้นมันง่ายนิดเดียว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงต้องอย่าลืมว่า ยิ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่ป้องกันลูกน้อยเร็วขึ้นเท่าไร ลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่ก็จะปลอดภัยเร็วขึ้นเท่านั้น

สอบถามข้อมูลประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม : โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ รุ่งรัตน์ ชดช้อย (ใหม่) / โทร + 66 2 684 5713 ณัฏฐภัทร จันทร์เปล่งแก้ว (อุ๊บ) โทร + 66 2 684 5731

-นท-