กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
การซื้อกิจการช่วยให้แอมด็อคส์สามารถสร้างความโดดเด่นจากโซลูชั่นแบบบูรณาการระบบล่วงหน้าและโซลูชั่นสำหรับการจัดการนโยบาย พุ่งเป้าเพิ่มรายได้จากบริการด้านข้อมูลแก่ผู้ให้บริการโครงข่าย
แอมด็อคส์ (NYSE: DOX) ผู้นำตลาดในด้านนวัตกรรมระบบบริหารประสบการณ์ลูกค้า (customer experience) ประกาศว่าทางบริษัทได้เข้าถือครองกิจการบริดจ์วอเตอร์ ซิสเต็มส์ (TSX: BWC) ("Bridgewater") ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการจัดการนโยบายและระบบควบคุมเครือข่ายชั้นนำ โดยในการซื้อกิจการครั้งนี้ แอมด็อคส์ได้ถือครองหุ้นของบริดจ์วอเตอร์จำนวน 25,178,827 หุ้น (ซึ่งถือเป็นสัดส่วน 100% ของหุ้นสามัญทั้งหมดของบริดจ์วอเตอร์) โดยคิดเป็นมูลค่าตามจำนวนเงินสด 8.20 ดอลล่าร์แคนาดาต่อหุ้น ซึ่งเป็นการซื้อกิจการทางอ้อมโดยผ่านบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยแอมด็อคส์ ทั้งนี้ ก่อนหน้าการเข้าซื้อกิจการ แอมด็อคส์ไม่ได้เป็นเจ้าของหลักทรัพย์ใดๆ ของบริดจ์วอเตอร์ และจะมีการทำธุรกรรมซื้อขายกิจการมูลค่าประมาณ 211 ล้านดอลล่าร์แคนาดา หรือ 139 ล้านดอลล่าร์แคนาดาตามมูลค่าเงินสดสุทธิของบริดจ์วอเตอร์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2554 โดยการซื้อกิจการครั้งนี้จะเป็นการขยายบริการและผลิตภัณฑ์ด้านระบบบริหารประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Systems - CES) ของแอมด็อคส์ ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้ผู้ให้บริการต่างๆ สามารถใช้กลยุทธ์สำหรับการเพิ่มรายได้จากการให้บริการข้อมูลที่นับวันยิ่งจะเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างมหาศาล
เพื่อยกระดับการสร้างรายได้จากเครือข่ายและการให้บริการข้อมูล ผู้ให้บริการหลายรายต่างพากันยกเลิกนำเสนอแพ็คเกจแบบใช้ได้ไม่จำกัด หรือ Unlimited Data Package ที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อความเสถียรของระบบเครือข่ายอันเป็นผลมาจากการใช้งานอย่างหนักโดยผู้บริโภคบางราย โดยผู้ให้บริการต่างมีความต้องการที่จะกำหนดราคาค่าบริการในรูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถนำเสนอแพ็คเกจแบบเฉพาะบุคคล (customized) ให้แก่ผู้บริโภคได้เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์พฤติกรรมการบริโภคและการใช้งานข้อมูลต่างๆ
มร. ไบรอัน เชพเพิร์ด ประธานกลุ่มแอมด็อคส์ กล่าว “กลยุทธ์การซื้อกิจการนี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการเปลี่ยน นิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ข้อมูลในแบบเรียล-ไทม์ได้อย่างแท้จริง โดยจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนในเครือข่ายของผู้ให้บริการเพื่อประโยชน์สูงสุด แอมด็อคส์ยินดีที่จะนำนวัตกรรมชั้นสูงของบริดจ์วอเตอร์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะความชำนาญมาทำงานกับแอมด็อคส์ เพื่อช่วยให้เราขยายบริการและผลิตภัณฑ์ชั้นนำในตลาด CES ต่อไป”
มร. เอ๊ด โอโกเน็ค ประธานและซีอีโอ บริดจ์วอเตอร์ กล่าว “หลังจากการซื้อกิจการครั้งนี้ สิ่งที่จะตามมาคือการที่ผู้ให้บริการจะสามารถได้รับประโยชน์จากโซลูชั่นสำหรับประสบการณ์ข้อมูลแบบบูรณาการระบบแบบล่วงหน้า อันเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีคอนเวอร์เจ้นซ์อันล้ำสมัยของแอมด็อคส์ เข้ากับระบบอัจฉริยะในการควบคุมนโยบายระดับสูงของบริดจ์วอเตอร์ ทำให้สามารถรองรับความต้องการบริการต่างๆ ผ่านแบนด์วิธขนาดใหญ่ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการเจริญเติบโตที่สูงอย่างเห็นได้ชัดของสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารอื่นๆ”
ตัวอย่างเช่น การซื้อกิจการนี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถนำเสนอแพ็คเกจใหม่ๆ รวมถึงนวัตกรรมและโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับลูกค้าในส่วนของผู้บริโภคและในส่วนธุรกิจ ประกอบด้วย:
ลูกค้าสามารถเลือกแพคเกจที่ขึ้นอยู่กับชนิดและคุณภาพของการให้บริการข้อมูล เช่น จำนวนของภาพยนตร์ที่พวกเขาต้องการดาวน์โหลดในความละเอียดสูง (ไม่บ่งชี้ด้วยตัวชี้วัดที่ยากต่อการเข้าใจเช่น ขนาดและความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูล)
สามารถแชร์ข้อมูลที่ใช้ร่วมกันในอุปกรณ์หลายๆ เครื่อง หรือใช้แพ็คเกจข้อมูลสำหรับครอบครัว ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้งานที่แตกต่างกันไป ตามความต้องการของสมาชิกในครอบครัวแต่ละคน
ได้รับโปรโมชั่นที่สร้างสรรค์มากขึ้น โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ตามความคุ้มค่าหรือตามอายุการใช้งานของลูกค้า พฤติกรรมการใช้งาน และสถานะของเครือข่ายที่ช่วงการใช้งานสูงสุดและช่วงที่มีการใช้งานไม่สูงนัก (Peak and non-peak network times)
ได้รับประสิทธิภาพของบริการที่ดีขึ้นเพื่อสามารถสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายและสร้างปริมาณการขายในแบบเรียลไทม์ได้
มร. อาริ แบนเนอร์จี นักวิเคราะห์อาวุโสแห่งเฮฟวี่ รี้ดดิ้ง กล่าว “เพื่อให้เกิดความสำเร็จในการสร้างรายได้จากเครือข่ายของผู้ให้บริการ จำเป็นต้องมีการบูรณาการระบบการเรียกเก็บเงินที่ทันสมัย เข้ากับการจัดการนโยบายที่มีประสิทธิภาพ การจัดการนโยบายแบบเดี่ยวๆ ช่วยให้ระบบเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากอยู่ก็จริง แต่กลับไม่ใช่วิธีที่สร้างรายได้ได้มากที่สุด ในขณะเดียวกัน การเรียกเก็บค่าบริการเป็นวิธีที่สร้างรายได้แต่ไม่ก่อให้เกิดการพัฒนาใดๆ ให้กับความรู้ด้านระบบเครือข่าย การสร้างรายได้เครือข่ายที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีการประสานทั้งสองระบบการทำงานนี้เข้าด้วยกัน ซึ่งจะต้องมีการบูรณาการอย่างมีนัยสำคัญระหว่างระบบสนับสนุนธุรกิจ (BSS) และระบบการควบคุมนโยบาย การซื้อกิจการของบริดจ์วอเตอร์ครั้งนี้ แอมด็อคส์จะอยู่ในฐานะที่สามารถนำเสนอนโยบายการจัดการล่วงหน้าที่ผนวกเข้ากับโซลูชั่นการเรียกเก็บเงินค่าบริการเพื่อสร้างรายได้จากบริการด้านข้อมูลได้อย่างลงตัว”
จากการซื้อกิจการครั้งนี้ แอมด็อคส์ ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากนักต่อมูลค่ากำไรต่อหุ้นแบบ Non-GAAP ของแอมด็อคส์ ในปีงบประมาณ 2554 อิทธิพลจากผลกำไรสุทธิแบบ GAAP จะถูกคิดคำนวณออกมาหลังจากที่แอมด็อคส์เสร็จสิ้นจากการทำธุรกรรมเพื่อชำระการซื้อกิจการของบริดจ์วอเตอร์ โดยแอมด็อคส์อาจนับรวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อกิจการในปีงบประมาณ 2554 เข้าในบัญชีที่แสดงถึงค่าใช้จ่ายบางอย่างที่เกิดขึ้นจากการซื้อกิจการนอกเหนือจากความร่วมมือกันในด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นระหว่างบริดจ์วอเตอร์และแอมด็อคส์ ทั้งสองบริษัทยังมีลูกค้าร่วมกันซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำ อาทิ Bell Mobility, Sprint และ Telstra
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแอมด็อคส์ได้ที่เว็บไซต์ www.amdocs.com
สมัครรับ RSS Feed จากแอมด็อคส์และติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ที่ Twitter, Facebook และ LinkedIn
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ
ฤทัยวรรณ ศิลปาจารย์
เวเบอร์ แชนด์วิค
โทรศัพท์ 0-2343-6000 ต่อ 067 อีเมล์ [email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit