ตงฟง มอเตอร์ส มองทิศทางครึ่งปีหลังยอดขายโตดันตัวเลขทั้งปีเติบโต 100% ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท จัดมหกรรมโรดโชว์ กระบะมินิทรั๊ค เจาะตลาดเอสเอ็มอี 18 จังหวัด

20 Jul 2011

กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--ดี เอฟ เอ็ม มินิทรั๊ค

ตงฟง มอเตอร์ส ประเมินเศรษฐกิจครึ่งปีหลังฟื้นตัว ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งผลยอดจำหน่ายรถกะบะมินิทรั๊ค เพื่อการพาณิชย์เป็นที่ต้องการของตลาดรีแบรนด์ใหม่ภายใต้ “ตงฟง มอเตอร์ส” ทำการตลาดเชิงรุกทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท จัดมหกรรมโรดโชว์ กะบะมินิทรั๊ค จาก ตงฟง มอเตอร์ส เดินสายเจาะตลาดเอสเอ็มอี 18 จังหวัดทั่วประเทศไทย หนุนยอดขายทั้งปีโตได้ 100% เกินเป้าหมายที่วางไว้

นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี เอฟ เอ็ม มินิทรั๊ค (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ตงฟง มอเตอร์ส เปิดเผยถึงทิศทางตลาดรถกะบะมินิทรั๊ค เพื่อการพาณิชย์ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2554 ว่า มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง เพราะความชัดเจนทางด้านการเมือง จะกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุน ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน เพิ่มศักยภาพการซื้อของกลุ่มเป้าหมายหลัก เอสเอ็มอีโดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะสามารถจำหน่ายรถยนต์ตงฟง มินิทรั๊ค และมินิแวน ได้ 1,500 คัน เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ทั้งปีที่ 3,000 คัน โดยยอดขายครึ่งปีแรกของปีนี้บริษัทมียอดจำหน่ายแล้ว 1,500 กว่าคัน ขณะที่ยอดขายรวมปีที่แล้ว 1,500 คัน คาดว่าอัตราการเติบโตทั้งปี 100%

ทั้งนี้ บริษัทจึงทำการเปลี่ยนชื่อเพื่อสื่อสารกับลูกค้าใหม่ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไปโดยรถกระบะมินิทรั๊ค และมินิแวน ของบริษัทจะอยู่ภายใต้ชื่อ “ตงฟง มอเตอร์ส” ซึ่งเป็นบริษัทรถสัญชาติจีนที่มียอดขาย อันดับหนึ่ง รวมถึงศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่าย อันดับหนึ่งทั่วประเทศ จากเครือข่ายที่เข้มแข็งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทมีศักยภาพของการขยายตลาดในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ถึงคุณภาพ และมาตรฐาน ของรถกระบะมินิทรั๊ค และมินิแวน ภายใต้แบรนด์ ตงฟง มอเตอร์ส ในระยะยาว

ปัจจัยที่สนับสนุนให้ยอดขายในครึ่งปีหลังเติบโตได้ตามเป้า บริษัทได้ปรับแผนการตลาดในปีนี้แบบเชิงรุก ด้วยการทำกิจกรรมการตลาดและการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ ภายใต้แนวคิดใหม่ “Real User’s Guarantee” (การการันตีจากผู้ใช้จริง) ซึ่งนำเสนอรถกะบะมินิทรั๊ค ที่ดัดแปลงให้เข้ากับการใช้งานของกลุ่มธุรกิจ SME ชูความเหมาะสมและลงตัวระหว่างความต้องการของลูกค้าและสมรรถนะของตัวรถทำให้รถของ ตงฟง มอเตอร์ส ให้เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น พร้อมกับการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย และให้การสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะสนับสนุนยอดขายในครึ่งปีหลัง “ความมุ่งมั่นในการพัฒนาด้านมาตรฐานคุณภาพอย่างต่อเนื่อง การทำตลาดแบบเชิงรุก สร้างเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่แข็งแกร่ง มีการตอบรับที่ดีมากขึ้นของรถยนต์รุ่น LPG ของบริษัท กอร์ปกับความพร้อมด้านโชว์รูมที่มีการปรับโฉมใหม่ทั่วประเทศ ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวแทนจำหน่าย และศูนย์บริการมากขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้รถกระบะมินิทรั๊คเชิงพาณิชย์ ของ ตงฟง มอเตอร์ส มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง”นายพิทยากล่าว นายพิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ต่อตราสินค้าและการบริการของ ตงฟง มอเตอร์ส บริษัทได้ทุ่งงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท จัดงานมหกรรมโรดโชว์ กระบะมินิทรั๊ค จาก ตงฟง มอเตอร์ส ซึ่งจะทำให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ถึงสมรรถนะและความเอนกประสงค์ของรถ รวมถึงเป็นการทำการตลาดระหว่างลูกค้ากับตัวแทนจำหน่าย ทำให้ลูกค้ารู้จักโชว์รูมในพื้นที่นั้นๆ มากขึ้น

โดยงานมหกรรมโรดโชว์ กระบะมินิทรั๊ค จาก ตงฟง มอเตอร์ส จะเป็นการเดินสายไปพบกับลูกค้าในกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี 18 จังหวัดทั่วประเทศไทย เริ่มตั้งแต่จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 23 กรกฎาคม 2554 ถัดไปที่ เลย, ชลบุรี, นครศรีธรรมราช, อุดรธานี, สงขลา, สุราษฎร์ธานี, จันทบุรี, นครสวรรค์, ลำปาง, เพชรบูรณ์, ตรัง, เชียงใหม่, ภูเก็ต, นครปฐม, พิษณุโลก, นนทบุรี, สมุทรสาคร, ปทุมธานี และปิดท้ายงานใหญ่ที่ กรุงเทพมหานคร วันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 โดยงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00-19.00 น.

โดยมีคอนเซ็ปในการจัดงาน ตงฟง มอเตอร์ส กวน มัน ฮา ท้าชิงรถ คัดเลือกผู้เข้าร่วมงานจาก 18 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อแข่งขันชิงรางวัลใหญ่เป็นรถกระบะมินิทรั๊ค พร้อมตกแต่งเป็นรถอาชีพในฝันจำนวน 1 คัน มูลค่ากว่า 500,000 บาท และภายในงานยังจัดให้มีการเล่นเกมส์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมสนุก พร้อมกับมหกรรมคอนเสิร์ต พบกับศิลปินลูกทุ่งระดับประเทศจากแกรมมี่โกล์ด อาทิ ไผ่ พงศธร, ตั๊กแตน ชลดา, กล้วย แสตมป์, เอิร์น เดอะสตาร์, อ๊อฟ ศุภณัฐ, รัชนก ศรีโลพันธ์ และ จ่มจ้ม ชินกฤต Champ of The Year 2011 จากรายการคว้าไมค์ คว้าแชมป์ นอกจากนั้น ผู้ร่วมงานยังได้สัมผัสกับประสบการณ์จริงจากลูกค้าของ ตงฟง มอเตอร์ส ที่จะมาร่วมแชร์ประสบการณ์การใช้รถกระบะมินิทรั๊ค ในการประกอบอาชีพถึง 3 คน จึงอยากขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่จัดงานและพื้นที่ใกล้เคียงร่วมงานครั้งนี้ด้วยกัน