เน็ตแอพ ประเทศไทย ขยายธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง

รายได้ธุรกิจสตอเรจบนเครือข่ายแบบเปิดเพิ่มขึ้น 112.3 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรกของปี 2554มีลูกค้าใหม่กว่า 60 รายในปีงบประมาณ 2554เน็ตแอพวางรากฐานรองรับระบบคลาวด์ของลูกค้าทั้งแบบไพรเวท, พับบลิค และไฮบริด เน็ตแอพ ผู้นำด้านการจัดหาโซลูชั่นสตอเรจและการบริหารจัดการข้อมูล เปิดเผยว่า บริษัทฯ ครองส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นในตลาดสตอเรจบนเครือข่ายแบบเปิด โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 มีรายได้เพิ่มขึ้น 112.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รายงานตลาดระบบดิสก์สตอเรจในเอเชีย/แปซิฟิกของไอดีซีสำหรับประจำ ไตรมาสแรกของปี 2554 ระบุว่ารายได้ของเน็ตแอพ ประเทศไทย ครองส่วนแบ่งตลาด 7.7 เปอร์เซ็นต์ เพื่อตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าเพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเปลี่ยนย้ายสู่ระบบคลาวด์แบบไพรเวท, พับบลิค และไฮบริด เน็ตแอพได้จัดกิจกรรมสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์เป็นครั้งแรกในวันนี้ โดยมีผู้ให้บริการและพันธมิตรกว่า 20 รายในประเทศไทยเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวภายใต้ชื่อ NetApp Cloud Service Provider Forum ทั้งนี้ เน็ตแอพได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับโซลูชั่นล่าสุด รวมถึงกลยุทธ์ในการให้ความช่วยเหลือแก่องค์กรธุรกิจและผู้ให้บริการเพื่อพัฒนาสู่โครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่ใช้งานร่วมกัน กลยุทธ์ของเน็ตแอพในการช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างระบบไอทีที่พร้อมสำหรับอนาคตโดยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในกลุ่มลูกค้าในเมืองไทย ได้เล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ของการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการปฏิรูปดาต้าเซ็นเตอร์ ในช่วงปีงบประมาณ 2554 เน็ตแอพมีลูกค้าใหม่กว่า 60 รายจากกลุ่มอุตสาหกรรมหลักๆ เช่น ธุรกิจการผลิต ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจการให้บริการด้านการเงิน และธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งปรับใช้เทคโนโลยีของเน็ตแอพเพื่อวางรากฐานที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาไปสู่โครงสร้างพื้นฐานแบบเวอร์ช่วลไลซ์ที่ใช้งานร่วมกัน รวมถึงระบบคลาวด์ “เพื่อเป็นการพัฒนาไปสู่ดาต้าเซ็นเตอร์แบบไดนามิกในอนาคตบนโครงสร้างพื้นฐานแบบเวอร์ช่วลไลซ์ที่ใช้งานร่วมกัน นับเป็นรากฐานสำคัญสำหรับระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง เพื่อให้บริษัทต่างๆ ได้รับประโยชน์สูงสุดทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความคล่องตัวจากโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งานร่วมกัน และด้วยเทคโนโลยียูนิไฟน์ สตอเรจของเน็ตแอพ ทำให้ลูกค้าในเมืองไทยไว้วางใจสำหรับการพัฒนาระบบไอทีที่พร้อมรองรับอนาคต” คุณวีระ อารีรัตนศักดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เน็ตแอพ ประเทศไทย จำกัด การเลือกแพลตฟอร์มสตอเรจที่เหมาะสมสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งานร่วมกันเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้บริหารฝ่ายไอที อย่างไรก็ดี เน็ตแอพเชื่อว่าแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างระบบคลาวด์ให้ประสบผลสำเร็จก็คือ การมองหาโซลูชั่นที่เหนือชั้นและผู้ติดตั้งระบบคลาวด์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อออกแบบกลยุทธ์ทางธุรกิจสำหรับการพัฒนาระบบคลาวด์ขององค์กร การสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เน็ตแอพเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าองค์กร โดยเมื่อต้นปี เน็ตแอพได้เข้าซื้อกิจการของเอ็นจินีโอ (Engenio) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจสตอเรจแบบติดตั้งภายนอกของ LSI Corporation*(1) และได้ซื้อกิจการของแอคคอรี่ เน็ตเวิร์ค (Akorri Networks Inc.,)*(2) เพื่อขยายผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับลูกค้า และล่าสุด เน็ตแอพได้เผยโฉมเทคโนโลยีใหม่ในซอฟต์แวร์การจัดการ NetApp OnCommand? ทำหน้าที่ควบคุม สร้างระบบอัตโนมัติ และวิเคราะห์โครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งานร่วมกัน เพื่อเพิ่มสมรรถนะและพัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการบนแพลตฟอร์มคลาวด์แบบไพรเวท, พับบลิค หรือไฮบริด นอกจากนี้ เน็ตแอพได้ทำงานร่วมกับผู้นำทางด้านเทคโนโลยีเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีที่เหนือชั้นให้แก่ลูกค้า ตัวอย่างเช่น เมื่อไม่นานมานี้ เน็ตแอพได้ผนึกกำลังร่วมกับซิสโก้เพื่อจัดหาโซลูชั่น FlexPod? Data Center ผสานรวมระบบเครือข่าย ระบบประมวลผล และระบบสตอเรจไว้บนโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งานร่วมกัน และรองรับแอพพลิเคชั่นของวีเอ็มแวร์, ซิทริกซ์, ไมโครซอฟท์ และเอสเอพีบนแพลตฟอร์มคลาวด์ นวัตกรรมทางด้านสถาปัตยกรรมนี้จะช่วยพัฒนาการบริหารจัดการสตอเรจ เพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) และขยายขีดความสามารถด้านการแข่งขัน พร้อมกันนี้ เน็ตแอพได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงการคู่ค้า Alliance Technology Partner Program ให้ครอบคลุมผู้นำด้านการจัดการระบบคลาวด์ โดยรองรับการผนวกรวมโซลูชั่นชั้นนำด้านการจัดการระบบคลาวด์ และ NetApp OnCommand เพื่อบริหารจัดการสถาปัตยกรรมคลาวด์ทั้งหมดอย่างครบวงจร สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวเน็ตแอพ ประเทศไทย
• ข่าวการบริหารจัดการ
• ข่าวบริหารจัดการ
• ข่าวระบบคลาวด์
• ข่าวเครือข่าย