ผู้ถือหุ้นพร้อมใจยกมือโหวตให้ LL ผ่านมติเพิ่มทุนสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ พร้อมรับวอร์แรนต์ฟรี กำหนดปิดสมุดทะเบียนฯ 30 ก.ย.นี้ ผู้บริหารเผยหลังเพิ่มทุนช่วยให้บริษัทมีพื้นฐานที่มั่นคงแข็งแรงและเพิ่มศักยภาพในการลงทุนในการโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ระบุเงินที่ได้นำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและรองรับแผนการลงทุนใหม่ โดยวางเป้าหมายอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าเปิดอีก 5-6 โครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 1,800 ล้านบาท และพร้อมลุยงานเต็มที่เพื่อสร้างสิ่งที่ดีให้เกิดแก่ผู้ถือหุ้น
นายวันชัย ศุภพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิฟวิ่งแลนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)(LL) เปิดเผยว่าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2554 ได้มีมติอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 1,015 ล้านบาท เป็น 780 ล้านบาท โดยยกเลิกหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย จำนวน 235 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 3,340 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 2,560 ล้านหุ้น พร้อมอนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทจำนวน 780 ล้านหน่วย เพื่อเป็นสิ่งตอบแทนและเป็นการจูงใจในการจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซึ่งจะจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิฯให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราส่วนหุ้นสามัญที่ได้รับจัดสรรจากการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน 1 หุ้นต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิฯ โดยราคาการใช้สิทธิอยู่ที่ 1 บาทต่อหุ้น
สำหรับหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 2,560 ล้านหุ้น บริษัทได้กำหนดจัดสรรหุ้นจำนวนไม่เกิน 780 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ในอัตราจัดสรร 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ โดยเศษของหุ้นให้ปัดทิ้งและกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ราคา 0.25 บาท โดยกำหนดให้วันที่ 29 กันยายน 2554 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการจองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 30 กันยายน 2554 และจัดสรรหุ้นจำนวนไม่เกิน 780 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯที่ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน
พร้อมกันนี้ได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,000 ล้านหุ้น ให้แก่นักลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจง และ/หรือ นักลงทุนประเภทสถาบัน และมอบอำนาจให้คณะกรรมการบริหารของบริษัทมีอำนาจในการดำเนินการพิจารณาจัดสรรและเสนอขายตามที่เห็นสมควร โดยการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นให้แก่นักลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงครั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้นดังกล่าวจะไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด ซึ่งคำนวณโดยอ้างอิงกับราคาปิดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นบริษัทฯในตลาดหลักทรัพย์รวม 14 วัน ก่อนวันที่เสนอขาย และไม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมข้างต้น
“จากการที่ผู้ถือหุ้นลงมติเป็นเอกฉันอนุมัติแผนเพิ่มทุนในครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้าใจที่มีต่อบริษัท ผมในฐานะตัวแทนของคณะผู้บริหารขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยสนับสนุนเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะมีส่วนเสริมสร้างให้ LL มีความมั่นคงแข็งแรง และเพิ่มศักยภาพในการลงทุนในการโครงการใหม่ๆ และเงินที่ได้รับในครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปลงทุนโครงการใหม่ ซึ่งจะมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,800 ล้านบาทภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนในการสร้างรายได้ที่ต่อเนื่องให้กับบริษัทในอนาคต”
ในปัจจุบัน LL มีโครงการภายใต้การดูแลทั้งหมด 4 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 540 ล้านบาท คือ โครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการคือ The clover ทองหล่อ, The Clover ภูเก็ต, โครงการบ้านเดี่ยว Living nara รังสิต และ โครงการประเภทอาคารพาณิชย์ Privacy plus และสำหรับแผนงานในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะเปิดโครงการใหม่อีกประมาณ 5-6 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นแนวราบ ทั้งประเภทอาคารพาณิชย์ ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ซึ่งแนวโน้มของตลาดยังมีทิศทางที่ดี รวมทั้งได้รับปัจจัยบวกทางด้านเศรษฐกิจและการสนับสนุนจากนโยบายของภาครัฐ
เขากล่าวต่อในช่วงท้ายถึงการขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1,000 ล้านหุ้น ให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงว่า เป็นการขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้ก่อนเพื่อความคล่องตัว สำหรับรองรับพันธมิตรทางธุรกิจที่จะเข้ามาสนับสนุนการดำเนินธุรกิจร่วมกัน โดยที่ผ่านมามีผู้สนใจเข้ามาเจรจาหลายรายแต่ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ซึ่งหากได้ความชัดเจนเมื่อใดจะรีบแจ้งให้รับทราบในทันที ส่วนราคาขายขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดราคาที่แน่นอน เพราะได้กำหนดไว้ว่าจะต้องเป็นราคาไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 90 ของราคาตลาดถัวเฉลี่ยย้อนหลัง 14 วัน และไม่ต่ำกว่าราคาขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้คือ 0.25 บาท
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net