บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ ไตรมาส 1 ประจำปี 2554 มีรายได้รวม 6,533 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 42.58 หรือเพิ่มขึ้น 1,951 ล้านบาท เป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง พร้อมตั้งเป้าสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยเสริมทัพบริษัทในเครือให้แข็งแกร่ง และแนะนำบริษัทในเครือน้องใหม่ บริษัท เพียวอินเตอร์เทรด จำกัด และบริษัท ไทยกู๊ด ปิโตรเลียม จำกัด มั่นใจเปิดขายหุ้น TDR ภายในกลางปีนี้
นายสัจจา เจนธรรมนุกูล ประธานกรรมการ บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPC ผู้ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันขนาดกลางที่ออกแบบโรงกลั่น และบริหารงานโดยคนไทยเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีคุณภาพ และดำเนินธุรกิจน้ำมันครบวงจร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2553 ประกอบกับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาส 1 ประจำปี 2554 ของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ มีรายได้รวม 6,533 ล้านบาท เติบโตขึ้น 1,951 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.58 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 145 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.27 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 88 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีอยู่ 77 ล้านบาท หรือ 0.16 บาทต่อหุ้น
นายสัจจา กล่าวเพิ่มเติมว่า ความคืบหน้าการเสนอขายหุ้นที่ประเทศไต้หวัน Taiwan Depositary Receipt หรือ TDR ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำ Due Diligence เพื่อเสนอต่อตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน คาดว่าจะสามารถเปิดขายหุ้นจำนวนรวม 200 ล้านหุ้น ได้ภายในกลางปี 2554 นี้ โดยการเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะนำไปเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2554 บริษัทฯ ยังคงมุ่งสร้างศักยภาพของกลุ่มธุรกิจ อาร์พีซี กรุ๊ป ให้แข็งแกร่ง โดยสนับสนุนการดำเนินงานของธุรกิจในเครือ รวมทั้งเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจใหม่ในเครือ ที่บริษัทฯ ได้ขยายโอกาสทางธุรกิจบนพื้นฐานความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ เพิ่มเติม 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เพียวอินเตอร์เทรด จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจค้าส่งระหว่างประเทศ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของระยองเพียว รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในกลุ่มปิโตรเลียมและปิโตรเคมีให้กับลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งธุรกิจการค้าส่งภายในประเทศ ก็ยังคงดำเนินไปด้วยดี ในปี 2554 นี้ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายจากเดิม 10% และบริษัท ไทยกู๊ด ปิโตรเลียม จำกัด บริษัทร่วมทุนต่างประเทศ ประกอบกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องและน้ำมันหล่อลื่นในประเทศจีน ฮ่องกง และมาเก๊า โดยทั้ง 2 บริษัท เป็นธุรกิจใหม่ที่จะสร้างรายได้รวมให้กับกลุ่มอาร์พีซี กรุ๊ป อีกทางหนึ่ง นายสัจจา กล่าว
นายบรรลือ ศรีโปดก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพียวไบโอดีเซล จำกัด (PBC) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตไบโอดีเซล (B100) ในเครือ อาร์พีซี กรุ๊ป กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลได้มีการปรับสัดส่วนการผสมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล จากการผสมเป็น B5 ตามนโยบายเดิมที่จะกำหนดใช้ตั้งแต่ม.ค. 54 เป็นการใช้เป็น B2 และ B3แทน ตามสถานการณ์ผลปาล์ม และปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าเมื่อสถานการณ์น้ำมันปาล์มดิบเข้าสู่ภาวะปกติ ทางภาครัฐจะกำหนดใช้เป็น B5 ตามแผนการเดิม ซึ่งจะเป็นทิศทางที่ดีของผู้ผลิตไบโอดีเซล โดยบริษัทฯ มีความพร้อมในด้านกำลังการผลิต เพื่อรองรับกับนโยบายของรัฐบาล
นางสาวกนกพร จารุกุลวนิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพียวพลังงานไทย จำกัด (PTEC) ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน “เพียว” เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนขยายช่องทางการจำหน่ายน้ำมันเพิ่มขึ้น และเพิ่มธุรกิจใหม่ อาทิ เปิดปั๊มจำหน่ายแก๊ส LPG และยังคงเน้นขยายธุรกิจเสริมประเภท Non-Oil โดยการเพิ่มพื้นที่ให้เช่าทำธุรกิจ การจัดจำหน่ายสินค้าน้ำมันเครื่อง และสินค้าอื่นๆ ภายในปั๊ม พร้อมการเพิ่มพื้นที่รายได้โฆษณา เป็นต้น โดยกิจกรรมการตลาดในปีนี้ ต่างจังหวัดจะเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในท้องถิ่นผ่านกิจกรรม CSR และมีการจัดส่งเสริมการขายเป็นระยะ ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเน้นกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการขายเพื่อสร้างแรงดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการ นอกจากนี้ยังมีการสร้าง Brand Awareness ภายใต้แนวคิด “เพียวสไมล์ ปั๊มใหม่ ใส่ใจบริการ” เป็นการบริการลูกค้าด้วยรอยยิ้มและความสดใส เพื่อให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกที่ดีเมื่อเข้ามาใช้บริการ
“สถานีบริการน้ำมันเพียว จะนำเสนอภาพลักษณ์สถานีบริการใหม่ ที่มีความสดใสในโทนสีชมพูบานเย็น และการให้บริการที่ได้คุณภาพมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย โดยในปี 2553 สถานีบริการน้ำมัน “เพียว” ได้รับรางวัลจากโครงการ “ปั๊มคุณภาพปลอดภัย น่าใช้บริการ” จากกระทรวงพลังงาน จำนวน 21 สาขา ทั้งนี้ สำหรับปี 2554 บริษัทฯ คาดหวังรายได้รวมเพิ่มกว่า 5,000 ล้านบาท และเพิ่มรายได้ Non-Oil อื่นๆ จากเดิม 9.17 ล้านบาท ในปี 2553 เพิ่มขึ้นเป็น 16.19 ล้านบาท หรือร้อยละ 76 และวางแผนเปิดสถานีบริการน้ำมันเพียวให้ครบจำนวน 100 สาขา” นางสาวกนกพร กล่าว
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการ/รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เพียวสัมมากร ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (PSDC) ธุรกิจศูนย์การค้าสไตล์คอมมิวนิตี้ มอลล์ “เพียว เพลส” เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัวศูนย์การค้าเพียวเพลส รามคำแหง 110 บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 100% หรือประมาณ 60-70 ล้านบาท โดยในปีนี้ บริษัทฯ วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่แห่งที่ 3 “ศูนย์การค้าเพียวเพลส ราชพฤกษ์” ภายใต้แนวคิด “The Green Living Mall” โดดเด่นด้วยแนวคิดการอนุรักษ์พลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม และเพิ่มพื้นที่สีเขียว ตอบรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าหมู่บ้านสัมมากร ราชพฤกษ์ และชุมชนใกล้เคียง หลังจากศึกษาทำเลแล้วพบว่าเป็นชุมชนที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีโครงการหมู่บ้านจัดสรรกำลังเกิดขึ้นเรื่อยๆ และมีการคมนาคมที่สะดวก ห่างแนวพัฒนารถไฟฟ้าสายสีม่วงเพียง 2-3 กิโลเมตร โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างก่อสร้างและจะพร้อมเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ขวัญพัฒน์ ตั้งเจิดจรัส และสุวรา ฉัตรบุรานนทชัย
บริษัท สยามพีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด