“ อาร์เอส ดิจิตอล ” เร่งทำการบ้านเตรียม ความพร้อม กำหนดแผนงาน และวางกลยุทธ์ปี 54 อย่างแยบยล ชูกลยุทธ์ ผนวกและควบรวมฐานลูกค้า Mobile และ On-line เข้าไว้ด้วยกัน ผู้ใช้สามารถเลือกรับบริการผ่านอินเตอร์เน็ต และ หน้าจอมือถือ แบบสะดวกรวดเร็ว เชื่อทั้ง 2 กลุ่ม เป็นฐานลูกค้ากลุ่มเดียวกัน มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบความทันสมัย เปิดใจรับสื่อดิจิตอลให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ภาพรวมตลาดดิจิตอลยังอยู่ในขาขึ้น เป้าปี 54 ทำรายได้ 600 ล้านบาท และเติบโตไม่ต่ำกว่า 20 %
นายวรพจน์ นิ่มวิจิตร รองกรรมการผู้อำนวยการ ดูแลหน่วยธุรกิจอาร์เอส ดิจิตอล บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดดิจิตอลของเมืองไทยยังคงอยู่ในขาขึ้น ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า สังเกตได้จากความตื่นตัวของผู้บริโภคในกระแสดิจิตอลไลฟ์สไตล์ ดังเช่น งานแสดงสินค้าดิจิตอลหรืออุปกรณ์ไอทีจะมียอดสั่งซื้อและสั่งจองอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็น Smart Phone อย่าง Apple iPhone 4, Blackberry Torch, Nokia N8 หรือ Tablet อย่าง Apple iPad, Samsung Galaxy Tab, Dell Streak เป็นต้น ซึ่งในแต่ละปีมีผู้ร่วมชมงานแน่นขนัด และมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี จึงสะท้อนให้เห็นว่า คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจและเปิดรับสื่อดิจิตอลกันมากขึ้น ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคเปลี่ยนมาชื่นชอบความสะดวก รวดเร็ว ต้องการอุปกรณ์ที่พกพาได้สะดวก สามารถเปิดรับสื่อได้ทุกโอกาสทุกที่ทุกเวลา อาร์เอส ในฐานะผู้นำด้านดิจิตอลคอนเทนต์ จึงมีโอกาสเติบโตขึ้นตามความนิยมของผู้ใช้เช่นกัน
นอกจากนั้นอาร์เอส ยังได้เตรียมความพร้อม ตลอดทั้งวางแผนและกำหนดทิศทางในการดำเนินธุรกิจไว้เป็นอย่างดี ด้วยการเชื่อมโยงฐานลูกค้าทั้งในส่วนของ Mobile และ On-line เข้าไว้ด้วยกัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะฐานลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม เมื่อมาวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งใช้งานทั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงและใช้บริการมือถือเป็นประจำอยู่แล้ว จึงง่ายต่อการทำตลาดและต่อยอดธุรกิจ โดยผู้ใช้บริการสามารถเลือกรับบริการดิจิตอลคอนเทนต์ของอาร์เอส ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และ หน้าจอมือถือ แบบสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งเรายังมุ่งเดินหน้าพัฒนาคอนเทนต์ พัฒนาระบบ รวมถึงบริการที่มีอยู่ให้ทันสมัย เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างสูงสุด บริษัทฯ เชื่อว่า เมื่อผู้ใช้บริการมีมากขึ้น ตลาดดิจิตอลคอนเทนต์ย่อมเติบโต ทำให้อาร์เอสมีโอกาสขยายงานและเติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน สำหรับปี 54 เราตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 600 ล้านบาท หรือโตขึ้น 20 %
จากการที่ระบบ 3G เลื่อนการประมูลออกไปส่งผลกระทบกับบริษัทฯไม่น้อย เพราะตลาดดิจิตอลคอนเทนต์ในเมืองไทยจะเติบโตช้าลง ไม่ได้ก้าวกระโดดแบบที่คาดไว้ หากระบบ 3G เปิดให้บริการได้เมื่อใด จะทำให้ตลาดรวมดิจิตอลคอนเทนต์เติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 50-70 % เลยทีเดียว
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราดำเนินธุรกิจบนความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยไม่ยึดติดกับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องทำควบคู่กันไป ภาวะการแข่งขันที่ดุเดือด ก็เป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ แต่เรามองว่าปัจจุบันทุกคนต้องแข่งขันกับตัวเอง ใครที่ปรับปรุง พัฒนาสินค้า และบริการให้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด ก็จะสามารถเดินหน้าธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง หากเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำสมัยเข้ามาก็น่าจะเป็นโอกาส ให้ บริษัทฯ ได้ขยายช่องทางในการทำธุรกิจ ตลอดทั้งเปิดตลาดใหม่ๆ ที่จะทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึง และใช้สื่อดิจิตอลให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ผนวกกับการที่เราปรับกลยุทธ์ควบรวมฐานลูกค้า Mobile และ On-line เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะง่ายต่อการทำการตลาดนั้น จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราปั๊มรายในปี 54 ให้โตขึ้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 600 ล้านบาท หรือโตขึ้นอีก 20%” นายวรพจน์ กล่าวทิ้งท้าย
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net